หลังจากที่รัฐสภาฮังการีผ่านร่างกฎหมายต่อต้านความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ฉบับใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาสภาท้องถิ่นของเมืองมิวนิคก็เสนอให้มีการเปลี่ยนไฟสนามฟุตบอลเป็นสีรุ้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความหลากหลายทางเพศในการแข่งขันฟุตบอลระหว่างเยอรมนีกับฮังการี

ก่อนหน้าที่จะมีการแข่นขันฟุตบอล "ยูโร 2020" ระหว่างเยอรมนีกับฮังการีในวันที่ 23 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ (ประมาณช่วงตีสองของวันที่ 24 มิ.ย. ตามเวลาไทย) สภาเมืองมิวนิคได้เสนอญัตติให้มีการจัดแต่งแสงสีไฟรอบสนามฟุตบอลเป็นสีรุ้ง เพื่อแสดงการสนับสนุน LGBTQ+ หลังจากที่ทางการฮังการีเพิ่งออกกฎหมายกีดกัน LGBTQ+ เมื่อไม่นานนี้

สภาเมืองมิวนิคออกถ้อยแถลงร่วมกันเพื่อเสนอต่อนายกเทศมนตรี ดีเทอร์ ไรเทอร์ ว่า เมืองของพวกเขา "สนับสนุนความหลากหลาย การยอมรับความแตกต่าง และความเสมอภาคอย่างแท้จริงในการกีฬาและในสังคม" ถ้อยแถลงของพวกเขาระบุต่อไปว่า "เนื่องในโอกาสที่มีการแข่งขันระหว่างเยอรมนีกับฮังการี ทางสภาหวังว่าจะส่งสารที่เห็นได้ชัดเจนต่อเรื่องการยืนหยัดเคียงข้างชุมชน LGBT ในฮังการีที่กำลังทนทุกข์ภายใต้กฎหมายที่เพิ่งผ่านร่างโดยรัฐบาลฮังการี"

ถ้อยแถลงดังกล่าวนี้กล่าวอ้างถึงการที่รัฐสภาฮังการีโหวตผ่านร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมาเพื่อห้ามไม่ให้มีการเผยแพร่เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคนรักเพศเดียวกัน คนข้ามเพศ หรือนอนไบนารี ในหมู่ประชากรออายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งทางการมิวนิคระบุว่ากฎหมายใหม่นี้เป็น "การจำกัดลิดรอนอย่างเป็นระบบ" ต่อหลักนิติธรรมและต่อเสรีภาพขั้นพื้นฐานในฮังการี

นอกจากนี้ทางการมิวนิคยังระบุอีกว่าร่างกฎหมายใหม่ของฮังการีขัดต่อกฎบัตรสิทธิขึ้นพื้นฐานของสหภาพยุโรป ขัดต่ออนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กของสหประชาชาติ, ขอบเขตอำนาจศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป และ เป้าหมายยุทธศาสตร์ด้านความเสมอภาคสำหรับ LGBTQ+ ของคณะกรรมการยุโรป

ทางการมิวนิคมองว่าการที่ทีมฟุตบอลเยอรมนีจะได้แข่งขันกับฮังการีในช่วงเวลาไม่นานหลังจากที่มีกฎหมายกีดกัน LGBTQ+ ออกมานั้น เป็นโอกาสที่พวกเขาจะสามารถส่งสารแสดงออกว่าพวกเขายืนหยัดเพื่อความหลากหลายและสังคมที่ยอมรับความแตกต่าง และกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอลนั้นก็ยืนหยัดในค่านิยมเหล่านี้ด้วย

สำหรับเยอรมนีแล้วการรณรงค์และการสื่อสารที่ส่งเสริมสิทธิ LGBTQ+ นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมากในวงการฟุตบอลเยอรมนี เช่นกรณีที่ มานูเอล นอเยอร์ ผู้รักษาประตูของทีมชาติเยอรมนีสวมปลอกแขนสีรุ้งในการลงแข่งกับฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หรือในหมู่สโมสรฟุตบอลบุนเดสลีการวมถึงผู้เชียร์ฟุตบอลต่างก็แสดงออกในเชิงส่งเสริมสิทธิ LGBTQ+ อยู่เสมอ ในฮังการีเองก็มีกรณีการแสดงออกในระดับฟุตบอลสโมสรอย่าง ปีเตอร์ กูลาชิ ผู้รักษาประตูจากทีม แอร์เบ ไลป์ซิก เพิ่งพูดต่อหน้าสาธารณะเมื่อไม่นานนี้ในเชิงสนับสนุนการแต่งงานของคนรักเพศเดียวกัน

อย่างไรก็ตามสำหรับวัฒนธรรมฟุตบอลฮังการีในระดับทั่วไปรวมถึงที่รายล้อมทีมชาติฮังการีแล้วก็ถูกครอบงำจากกลุ่มขวาจัดและกลุ่มฮูลิแกนที่มีมุมมองต่อต้านชาวยิว ต่อต้านชาวยิปซี/โรมานี อย่างเปิดเผย มีแม้กระทั่งกลุ่มนีโอนาซีที่เรียกตัวเองว่า "กองพันคาปาเธียน"

กลุ่ม "กองพันคาปาเธียน" นี้เคยโชว์ป้ายต่อต้าน LGBTQ+ และร้องคำขวัญต่อต้าน LGBTQ+ ในสนามแข่งนัดเดียวกับที่ฮังการีพ่ายให้กับโปรตุเกส 0-3 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่มีการผ่านร่างกฎหมายกีดกัน LGBTQ+ และทางสมาคมยูฟ่าผู้จัดการแข่งก็บอกว่ากำลังมีการสืบสวนในเรื่องการกระทำของนีโอนาซีกลุ่มนี้ นอกจากนี้กลุ่มนีโอนาซียังเคยเดินขบวนพร้อมป้าย "ห้ามคุกเข่า" ในช่วงก่อนการแข่งขันวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมาเพื่อต้องการต่อต้านต่อต้านการแสดงออกต่อต้านการกีดกันเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติสีผิวและอัตลักษณ์ด้วยการ "การคุกเข่า" ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมชาติหลายทีมกระทำ

เรียบเรียงจาก

• Euro 2020: Proposal to illuminate Munich arena in LGBT+ colors for visit of Hungary, DW, 19-06-2021 https://www.dw.com/en/euro-2020-proposal-to-illuminate-munich-arena-in-lgbt-colors-for-visit-of-hungary/a-57966739