Skip to main content
sharethis

30 มิ.ย. 2564 ศบค. แถลงรับกำลังเผชิญหน้ากับการระบาดที่มีความรุนแรงสูง ผู้ติดเชื้อใหม่ 4,786 คน เสียชีวิตเพิ่ม 53 คน แจงมาตรการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เปิดการท่องเที่ยว 1 ก.ค. นักท่องเที่ยวต้องฉีดวัคซีนครบโดส ย้ำเดินทางเข้า 4 จังหวัดชายแดนใต้ไม่ต้องขอใบรับรอง

การระบาดยังรุนแรง ผู้ติดเชื้อใหม่ 4,786 คน เสียชีวิตเพิ่ม 53 คน

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 30 มิ.ย. 2564 ว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 4,786 คน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 4,650 คน ติดเชื้อจากต่างประเทศ 9 คน และติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 127 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสม 259,301 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 53 คน เสียชีวิตสะสม 2,023 คน ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 49,799 คน ในจำนวนนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,911 คน ต้อองใส่เครื่องช่วยหายใจ 556 คน ยอดฉีดวัคซีนครบโดสรวม 2,762,537 คน

โฆษก ศบค. ยอมรับว่า เรากำลังเผชิญหน้ากับการระบาดที่มีความรุนแรงสูง คล้ายในต่างประเทศ และมีประเทศที่เผชิญการระบาดระลอกใหม่ และตัดสินใจล็อกดาวน์ เช่น ออสเตรเลีย แม้จะพบผู้ติดเชื้อหลักร้อย หลายประเทศยังต้องข้อจำกัดในการเดินทางและความยากลำบากในการใช้ชีวิต ไม่ใช่ประเทศไทยเพียงประเทศเดียว และเราต้องรับทราบข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบความหนักเบาของแต่ละประเทศ บางประเทศอาจจะใช้ยาแรงซึ่งจะกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน แต่ประเทศไทยก็มีวิธีจัดการในแบบของเรา ขอทำความเข้าใจให้ตรงกัน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รายงานว่า ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบผู้ป่วยเพิ่มเติม 25 คนในชุมชนซอยขุนนาวา เขตบางรัก และในแคมป์คนงาน พระราม 2 ซอย 50 เขตบางขุนเทียน พบผู้ป่วย 94 คน จากพนักงาน 246 คน นอกจากนี้ยังมีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังอีก 108 แห่ง

ออกมาตรการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เตรียมเปิดการท่องเที่ยว 1 ก.ค. 2564

นอกจากนี้ โฆษก ศบค. ยังแถลงถึงข้อกำหนดตามมาตรา 9 พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉบับที่ 26 ใจความคือการกำหนดผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพิ่มเติมเพื่อรองรับการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ วันที่ 1 ก.ค. 2564 และเพิ่มมาตราการป้องกันสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร นำไปสู่การออกคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ 7/2564 เพื่อดำเนินงานภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และเตรียมให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการได้ถูกต้อง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้จะมีเที่ยวบินเข้ามา 4 เที่ยว ตามการประสานงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประมาณการว่ามีนักท่องเที่ยว 249 คน ส่วนใหญ่มาจากอิสราเอล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ ซึ่งมาตรการจะสร้างความมั่นใจ โดยก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร นักท่องเที่ยวต้องมีเอกสาร 5 อย่าง ได้แก่

1. หนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (COE)

2. ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโควิด-19 ในระยะไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง

3. กรรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ครอบคลุมถึงการรักษาโควิด-19 วงเงินไม่น้อยกว่า 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ

4. หลักฐานการชำระเงินค่าที่พักและค่าตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR โดยระบุระยะเวลาเข้าพักไม่น้อยกว่า 14 วัน หากจะพำนักน้อยกว่านั้นต้องมีบัตรโดยสารของสายการบินที่ระบุเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หลักฐานการชำระเงินค่าที่พัก และค่าตรวจหาเชื้อในช่วงเวลาดังกล่าว

5. เอกสารการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนด ไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนออกเดินทาง

นอกจากนี้ ระหว่างการเปลี่ยนเที่ยวบินเพื่อเดินทางไปยัง จ.ภูเก็ต จะกันพื้นที่ไม่ให้ปะปนกับผู้เดินทางอื่นๆ เมื่อถึงเกาะภูเก็ตจะให้ท่องเที่ยวภายในเกาะเท่านั้น กรณีอยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 7 วัน จะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีกในวันที่ 6-7 และหากพำนักระหว่าง 10-14 วัน จะตรวจหาเชื้อเพิ่มอีกในวันที่ 12-13 หลังพ้น 14 วัน จึงจะสามารถเดินทางไปยังจังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ ได้

ย้ำเดินทางเข้าพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ไม่จำเป็นต้องขอใบรับรอง

โฆษก ศบค. ยังชี้แจงกรณีบุคคลที่ประสงค์จะเดินทางเข้าพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัดชายแดนใต้ว่า ตามเจตนารมณ์ของข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 25 กำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางออกนอกพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรแสดงตนอื่นๆ ควบคู่กับเอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ เว้นแต่เป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อแพร่กระจายเชื้อไปยังจังหวัดอื่น

อย่างก็ตาม นพ.ทวีศิลป์ เห็นว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดควรออกมาตรการสำหรับบุคคลที่จะเดินทางเข้าพื้นที่ โดยไม่จำเป็นต้องขอเอกสารรับรองดังกล่าว แต่ทางจังหวัดสามารถมีข้อปฎิบัติคุมเข้มผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าพื้นที่ได้ เช่น การกักตัว 14 วัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net