Skip to main content
sharethis

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผย ณ เดือน มิ.ย. 2564 มีผู้ถูกดำเนินคดีการเมือง 695 คนแล้ว ม.112-ละเมิดอำนาจศาล เพิ่มต่อเนื่อง

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2564 ว่าในช่วงเดือน มิ.ย. 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังดำเนินต่อไป เช่นเดียวกับสถานการณ์การดำเนินคดีทางการเมือง ซึ่งยังคงมีผู้ถูกดำเนินคดีเพิ่มขึ้น แนวโน้มในเดือนนี้ ตำรวจยังคงมีการออกหมายเรียกในคดีจากการชุมนุมทางการเมืองในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ย้อนหลัง หรือคดีตามมาตรา 112 ที่ยังคงมีผู้ถูกจับกุมและออกหมายเรียกเพิ่มขึ้นเป็นระยะ จนตัวเลขสถิติในระลอกใหม่นี้เกินกว่า 100 รายไปแล้ว รวมไปถึงคดีละเมิดอำนาจศาล ที่ศาลมีการไต่สวนนักกิจกรรมตลอดเดือนที่ผ่านมา

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่เริ่มการชุมนุมของ “เยาวชนปลดแอก” เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2564 มีประชาชนที่ถูกดำเนินคดีจากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองและการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไปแล้วอย่างน้อย 695 คน ในจำนวน 374 คดี  ในจำนวนผู้ถูกดำเนินคดีทั้งหมดนี้ ยังเป็นกลุ่มเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 43 ราย อีกด้วย

หากนับจำนวนบุคคลที่ถูกดำเนินคดีซ้ำในหลายคดี โดยไม่หักออก แต่นำจำนวนบุคคลมาเรียงต่อกันแล้ว จะพบว่ามีจำนวนการถูกดำเนินคดีไปอย่างน้อย 1,309 ครั้งแล้ว 

เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีกับในช่วงสิ้นเดือน พ.ค. 2564 พบว่ามีผู้ถูกดำเนินคดีเพิ่มขึ้น 17 คน ใน 31 คดี (นับเฉพาะผู้ถูกกล่าวหาที่ไม่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อน) 

หากพิจารณาสถิติการดำเนินคดีแยกตามข้อกล่าวหาสำคัญ ได้แก่

1. ข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีผู้ถูกกล่าวหาอย่างน้อย 103 คน ในจำนวน 100 คดี

2. ข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 มีผู้ถูกกล่าวหาอย่างน้อย 103 คน ในจำนวน 30 คดี

3. ข้อหา “มั่วสุมกันใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดการวุ่นวาย” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 มีผู้ถูกกล่าวหาอย่างน้อย 206 คน ในจำนวน 44 คดี

4. ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีผู้ถูกกล่าวหาอย่างน้อย 501 คน ในจำนวน 155 คดี  แยกเป็นคดีในระหว่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 24 คดี และคดีฝ่าฝืนข้อกำหนดเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 131 คดี

หากย้อนนับคดีตั้งแต่ในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2563 ซึ่งมีผู้ถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมทางการเมืองอีกจำนวนหนึ่ง ยอดผู้ถูกดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะมีรวมกันอย่างน้อย 511 คน ในจำนวน 162 คดี

5. ข้อหาตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ อย่างน้อย 100 คน ในจำนวน 66 คดี

6. ข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ อย่างน้อย 59 คน ในจำนวน 69 คดี

ในจำนวนคดีฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งหมด ยังพบว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหาทับซ้อนไปพร้อมกับ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ จำนวน 36 คดี ทั้งที่ตามมาตรา 3 (6) ของ พ.ร.บ.การชุมนุมฯ กำหนดให้กฎหมายไม่ใช้บังคับแก่การชุมนุมสาธารณะในระหว่างเวลาที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ

จากจำนวนคดี 374 คดีดังกล่าว มีจำนวน 64 คดี ที่สิ้นสุดไปแล้ว เพราะผู้ถูกกล่าวหายินยอมให้เปรียบเทียบปรับในชั้นตำรวจ หรือในชั้นศาล เนื่องจากข้อกล่าวหามีอัตราโทษปรับ เช่น ข้อหาตาม พ.ร.บ.ความสะอาดฯ, ข้อหาไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะ หรือข้อหากีดขวางการจราจร เป็นต้น ขณะที่ในจำนวนนี้ มี 1 คดี ที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องโดยเด็ดขาด 

อ่านเพิ่มเติมในเว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net