สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย พร้อมนักแสดงและ ผกก. ยื่นหนังสือเรียกร้อง กมธ. ให้ผ่อนปรนธุรกิจกองถ่าย

สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย พร้อมด้วย อุ๋ย นนทรี นิมิบุตร และหมิว สิริลภัส และเฌอเอม ชญาธนุส เดินทางเข้ายื่นหนังสือและข้อเรียกร้องต่อคณะกรรมาธิการตรวจสอบติดตามการใช้เงินตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ เพื่อขอให้ผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคแก่ธุรกิจกองถ่าย รวมถึงให้จัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อให้ธุรกิจกองถ่ายสามารถออกกองได้

7 ก.ค. 2564 วันนี้ (7 ก.ค. 2564) เวลาประมาณ 11.30 น. สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย (TFDA) ร่วมกับสมาคมวิชาชีพภาพยนตร์และดิจิทัลมีเดียร์ (FDCA) และสมาคมภาพยนตร์อิสระไทย (TIFA) พร้อมด้วย นนทรีย์ นิมิบุตร, สิริลภัส กองตระการ (หมิว) และชญาธนุส ศรทัตต์ (เฌอเอม) เดินทางเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกแก่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาตรวจสอบติดตามการใช้เงินตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 3 ฉบับ พร้อมยื่นข้อเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจกองถ่ายภาพยนตร์ ละคร รายการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. และหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นตัวแทบรับมอบหนังสือ

ภาพจากสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย
 

อนุชา บุญยวรรธนะ นายกสมาคมผู้กากับภาพยนตร์ไทย กล่าวว่า ถึงแม้ว่าสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยร่วมกันกับกรมควบคุมโรคและกระทรวงวัฒนธรรมในการกำหนดมาตรการการทำงานแบบรักษาระยะห่างเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 มาโดยตลอด แต่ในขณะนี้ธุรกิจกองถ่ายได้รับผลกระทบและเดือดร้อนอย่างมาก เพราะสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 มีความรุนแรงมากถึง ทำให้รัฐบาลออกคำสั่งต่างๆ เพิ่มเติม เช่น ห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 20 คน จึงทำให้กลุ่มธุรกิจกองถ่ายไม่สามารถปฏิบัติงานได้ ทางสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย สมาคมวิชาชีพภาพยนตร์และดิจิทัลมีเดียร์ และสมาคมภาพยนตร์อิสระไทย จึงเรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนปรนมาตรการต่างๆ เพื่อให้กลุ่มธุรกิจกองถ่ายฯ สามารถดำเนินงานได้ในอนาคต โดยมีข้อเรียกร้องทั้งหมด 5 ข้อ ดังต่อไปนี้

  1. อนุญาตให้ธุรกิจกองถ่ายสามารถปฎิบัติงานได้ ตามข้อกำหนดของ ศบค. โดยมีทีมงานจานวนไม่เกิน 50 คน และให้สำนักงานเขตและอำเภอพิจารณาอนุญาตการถ่ายทา โดยใช้ผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาของทีมงานทุกคนภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง (ทุกๆ 3 วัน)
  2. ขอให้ทางภาครัฐส่งหนังสือเวียนแจ้งถึงข้อกาหนดนี้ให้กับศาลากลางจังหวัด สำนักงานเขตและที่ว่าการอำเภอทุกจังหวัด เพื่อให้รับทราบตรงกันว่าธุรกิจกองถ่ายภาพยนตร์เป็นธุรกิจที่ได้รับการผ่อนปรนภายใต้มาตรการควบคุมโรคดังกล่าว
  3. ขอให้ทางภาครัฐจัดหาวัคซีนให้กับบุคลากรในธุรกิจภาพยนตร์และสื่อวีดิทัศน์ที่อยู่นอกเหนือจาก ม.33 โดยทางสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยจะเป็นผู้รวบรวมรายชื่อให้
  4. หากทางภาครัฐต้องการปรับเปลี่ยนมาตรการกองถ่ายเพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ขอให้มีการกาหนดมาตรการต่างๆ ให้เหมาะสมและชัดเจน โดยมีสมาคมผู้กากับภาพยนตร์ไทยและตัวแทนผู้ประกอบการอื่นๆ เข้าร่วมหารือด้วย
  5. ขอให้ทางภาครัฐจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น วัคซีนประเภท mRNA ให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบกิจการกองถ่ายภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นการเร่งด่วน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ที่อาจรุนแรงขึ้นได้ในอนาคต
อนุชา บุญยวรรธนะ นายกสมาคมผู้กากับภาพยนตร์ไทย
 

อนุชา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่ธุรกิจกองถ่ายยังสามารถออกกองถ่ายทำได้ ก็มีมาตรการรักษาระยะห่างและไม่มีทีมงานคนใดติดโควิด-19 จากการถ่ายทำ ถึงแม้ว่าการทำงานโดยรักษาระยะห่างไม่ได้เป็นการรับประกันว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อ แต่การทำงานของธุรกิจกองถ่ายเป็นการทำงานแบบปิด เรามีรายชื่อของทีมงานและนักแสดงทุกคนอยู่ในมืออยู่แล้ว และโดยมากก็จะถ่ายทำในพื้นที่เฉพาะ ไม่ได้เปิดให้คนนอกเข้า ประกอบกับมาตรการล่าสุดที่ทางกลุ่มเสนอไป ตนจึงคิดว่าหากเกิดการระบาดขึ้นก็สามารถควบคุมได้

ด้าน พิธา กล่าวหลังรับหนังสือว่าตนขอให้รัฐบาลออกมาตรการที่ชัดเจน เพื่อให้กลุ่มธุรกิจกองถ่าย และทุกภาคส่วนสามารถดำเนินการต่อไปได้ พร้อมระบุว่าตนรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาต้อนรับประชาชนทุกกลุ่มที่มายื่นหนังสือที่รัฐสภาในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันนี้มีโอกาสได้ต้อนรับ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกลที่แม้จะถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพการเป็น ส.ส. โดยอ้างว่าถือหุ้นสื่อ แต่ ธัญญ์วาริน ถือเป็น ส.ส. ตลอดกาลของพรรค

"สำหรับผมแล้ว ถ้าวงการเพลง วงการดนตรีดีต่อใจหรือว่าดูแลจิตใจของผมอย่างไร วงการภาพยนตร์ก็ดีกับสมอง ดูแลสมองผมเท่านั้นใน 2 ประการ ประการแรกก็คือเรื่องความรู้ที่มีต่อสมองผม ประการที่สองคือเรื่องจินตนาการ ซึ่งส่วนนี้มีเรื่องจิตใจเข้ามาเกี่ยวข้อง" พิธากล่าว พร้อมระบุว่า ตอนที่ตนได้ดูหนัง 'สุดเสน่หา (Blissfully Yours)' ของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ที่แม้จะผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ตนยังจำฉากที่พระเอกซึ่งเป็นแรงงานข้ามชาติและมีภรรยาเป็นคนไทย ทำให้ตนเห็นความเป็นจริงของแรงงานข้ามชาติที่มีชีวิตอยู่ในช่วงวิกฤติซึ่งไม่ได้ต่างอะไรกันมากกับในช่วงนี้

"ผมยังจำฉากแรกที่พระเอกกับนางเอกนั่งรถไปด้วยกัน แล้วเปิดเพลงของนาเดีย (นาเดีย นิมิตรวานิช-โสณกุล) หลังจากนั้นก็เป็นจุดที่ทำให้รู้สึกว่าอานุภาพของหนังมันทำให้เรารู้สึกอิน ยังจำเรื่องตลก 69Samui Song (ไม่มีสมุยสำหรับเธอ) ยังจำตอนที่พี่เป็นเอก (เป็นเอก รัตนเรือง) บอกว่าตอนถ่ายนี่ คริสโตเฟอร์ ดอลย์ (Christopher Doyle) บอกว่าควันบุหรี่ลอยขึ้นมา มันสื่อได้ถึงอารมณ์ว่าพระเอกนางเอกกำลังรีแลกซ์อยู่ กำลังพักผ่อนอยู่ หรือการวิ่งมาหาบุหรี่นี่หมายความว่ากำลังเครียดอยู่" พิธากล่าว พร้อมระบุว่าที่ตนกำลังพูดถึงอยู่นี้ไม่ได้เป็นการสนับสนุนให้มีการสูบบุหรี่แต่อย่างใด แต่เป็นการพูดถึงเรื่องวัมนธรรมที่ทำให้เรารู้จักสังคมไทยในอีกหลายๆ แง่มุม ซึ่งช่วยให้ตนได้รู้จักสังคมไทยมากขึ้น นอกจากนี้ พิธา ยังกล่าวถึงภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เช่น มหาลัยเหมืองแร่ หรือ Timeline จดหมาย ความทรงจำ ซึ่งมีหลายฉากที่ให้ความรู้ สามารถนำมาใช้ได้จริง และมีความหมายต่อสังคมไทยเป็นอย่างสูง ซึ่งพิธามองว่าวงการภาพยนตร์มีส่วนอย่างในการผลักดันและสร้างเสริมวัฒนธรรมประชาธิปไตยในสังคมไทย

พิธา กล่าวเพิ่มเติมว่า หนึ่งเสียงของทุกคนมีความหมาย การที่คนกำหนดวาระได้ว่าสังคมไทยต้องก้าวไปข้างหน้า ต้องมีมาตรการที่อยู่กับความปกติใหม่ ต้องมีวัคซีนที่มีคุณภาพพอให้กับพี่น้องประชาชน ถือเป็นสิ่งสำคัญในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งพรรคก้าวไกลพร้อมช่วยผลักดันให้วงการภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ของไทยสามารถแข่งขันในเวทีระดับโลก

ขณะที่ ธัญญ์วาริน กล่าวว่า ตอนนี้ตนกำลังถ่ายทำภาพยนตร์อยู่ 2 เรื่อง และต้องจ่ายเงินค่าตรวจโควิด-19 เป็นประจำตามมาตรการที่ตกลงกับภาครัฐ ซึ่งรวมๆ แล้วค่าตรวจอาจะแพงกว่าค่าวัคซีนเสียอีก อีกทั้งโรคโควิด-19 ก็ระบาดมาเป็นปีแล้ว แต่ทำไมค่าตรวจโควิด-19 ถึงยังมีราคาแพงอยู่ แถมหน่วยงานรัฐไม่เคยมาช่วยเหลือในส่วนนี้ นอกจากนี้ ตนยังสงสัยว่าเหตุใดประเทศไทยจึงไม่มีวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพเสียที พอจะมีก็ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งๆ ที่ประเทศอื่นเขาให้ฉีดฟรี พร้อมทิ้งท้ายว่าการมีวัคซีนที่ดีคือการทำให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้ต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท