แอมเนสตี้ยื่นงานวิจัยถึงสภา จี้รัฐบาลเคารพสิทธิ
8 ก.ค. 2564 วันนี้ ที่รัฐสภา เกียกกาย ตัวแทนแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยยื่นรายงานวิจัยฉบับล่
ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เผยว่า เนื้อหาในงานวิจัยได้มีการพิสู
ดังนั้นทางแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จึงมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลไทย และหน่วยงานบังคับใช้
- กำหนดแนวทางดูแลการชุมนุ
มในภาพรวม ให้เป็ นไปในแนวทางการอำนวยความสะดวกแล ะรับประกันสิทธิในเสรีภาพการชุ มนุมโดยสงบของผู้ชุมนุม โดยสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็ นการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ - ให้ความสำคัญในการใช้วิธีการที่
ไม่รุนแรง เช่น การเจรจา การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการไกล่เกลี่ยเพื่ อลดการปะทะที่อาจนำไปสู่ความรุ นแรง และให้การประกันว่าการใช้กำลั งใดๆ ระหว่างการชุมนุม สามารถทำได้เมื่อมีความจำเป็ นอย่างถึงที่สุดแล้วเท่านั้น และต้องใช้อย่างสอดคล้องกับหลั กความจำเป็นและความได้สัดส่วน - แยกแยะระหว่างผู้ชุมนุมที่ใช้
ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมที่ไม่ ใช้ความรุนแรง และปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายต่ อผู้ที่ใช้ความรุนแรงที่ กระทำความผิดเท่านั้น - ให้มีการสืบสวนอย่างรวดเร็ว เป็นอิสระ ไม่ลำเอียงและเห็นผลต่อเจ้าหน้
าที่ควบคุมฝูงชน รวมถึงตำรวจตระเวนชายแดนที่ใช้ กำลัง รวมถึงฉีดน้ำแรงดันสูงที่ ผสมสารเคมีที่มีความระคายเคื องใส่ผู้ชุมนุมอย่างสงบในปี 2563 ตลอดจนให้มีการชดเชยเยียวยาอย่ างเป็นรูปธรรมต่อผู้เสี ยหายจากการใช้กำลังโดยมิชอบ รวมทั้งการจ่ายค่าชดเชย ฟื้นฟู และรับประกันว่าเหตุการณ์ดังกล่ าวจะไม่เกิดขึ้นอีก - ยกเลิกข้อหาทั้งหมดที่มีต่อนั
กปกป้องสิทธิมนุษยชนและนักกิ จกรรม ที่ตกเป็นเป้าหมายเนื่ องจากการใช้สิทธิในการชุมนุ มโดยสงบ และให้แก้ไขหรือยกเลิก พ.ร.บ.ชุมนุมและ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้สอดคล้องกั บกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุ ษยชนระหว่างประเทศ รวมถึงเพื่อให้เกิดการชุมนุ มโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าได้ และยกเลิกข้อจำกัดที่เกินกว่ าเหตุในการปิดกั้นการชุมนุ มโดยสงบ
นอกจากนั้นแอมเนสตี้ยังเรียกร้
ติดตามอ่านรายงาน "หน้าแสบเหมือนโดนไฟไหม้" การใช้กำลังโดยมิ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)