เสนอใช้กฎหมายความมั่นคงทางวัคซีน จำกัดการส่งออก 'แอสตร้าเซเนกา' นำมาใช้ในประเทศก่อน

'อนุสรณ์ ธรรมใจ' เตือนมาตรการขยายล็อกดาวน์ได้ผลน้อย ไม่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคขณะนี้ และกระทบเศรษฐกิจรุนแรง เสนอรัฐบาลใช้กฎหมายความมั่นคงทางวัคซีนเพื่อจำกัดจำนวนการส่งออก 'แอสตร้าเซเนกา' เพื่อนำมาใช้ในประเทศก่อน เสนอปรับงบประมาณ 2565 ใหม่เลื่อนการจัดซื้ออาวุธทั้งหมด นำเงินมาใช้ในงบสาธารณสุขและชดเชยรายได้ให้ประชาชนแทน ประเมิน 'ภูเก็ตแซนด์บ็อก' และ 'สมุยพลัส' ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย กระทบจากประกาศ EU ระบุไทยเป็นประเทศเสี่ยงสูง     

18 ก.ค. 2564 รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังและ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต เปิดเผยว่ามาตรการขยายล็อกดาวน์ ปิดกิจกรรมเพิ่มเติม เพิ่มจังหวัดและล็อกดาวน์ยาวนานขึ้นจะได้ผลน้อยมาก อัตราการเสียชีวิตอาจจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องพร้อมตัวเลขการติดเชื้อสูงขึ้น ความไม่มีประสิทธิภาพของการล็อกดาวน์ในการควบคุมโรคขณะนี้เป็นผลจากการติดเชื้อได้ลุกลามสู่ครัวเรือนและชุมชนอย่างเต็มที่แล้ว การล็อกดาวน์จะมีผลกระทบเศรษฐกิจรุนแรงและยังอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อเพิ่มในบ้านหรือชุมชนรายได้น้อย เนื่องจากอยู่อาศัยกันอย่างแออัด มาตรการขยายล็อกดาวน์จะมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลก็ต่อเมื่อมีการดำเนินการคู่ขนานกับมาตรการตรวจคัดกรองเชิงรุกในครัวเรือน ชุมชนและโรงงานและเร่งฉีดวัคซีน mRNA ควบคุมการลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมายและชะลอการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศในพื้นที่เสี่ยงคู่ขนานไปด้วยอย่างเต็มที่ ตลอดจนชดเชยรายได้และผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ 

ข้อเสนอดังกล่าวข้างต้นจะเกิดขึ้นได้และมาตรกการขยายล็อกดาวน์ได้ผลมากขึ้นก็ต่อเมื่อรัฐบาลตัดสินใจปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายในงบประมาณใหม่ด้วยเลื่อนการจัดซื้ออาวุธทั้งหมด นำเงินมาใช้ในงบสาธารณสุข การตรวจโรคเชิงรุกและกักกันกลุ่มเสี่ยง การจัดซื้อวัคซีน การเตรียมรับมือกับการล่มสลายของระบบสาธารณสุข และชดเชยรายได้ให้ประชาชนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ หากไม่ใช้วิธีตรวจคัดกรองเชิงรุกในครัวเรือน ชุมชนและโรงงานและเร่งฉีดวัคซีน mRNA ควบคุมการลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมายและชะลอการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศในพื้นที่เสี่ยงคู่ขนานไปด้วยอย่างเต็มที่ ประสิทธิผลของมาตรการขยายล็อกดาวน์จะไม่ได้ผลอะไรมากและจะทำให้วิกฤติเศรษฐกิจทรุดหนักลงไปอีก อย่างเช่น หากเราไม่ซื้อเรือดำน้ำเพิ่มอีกสองลำ เราจะสามารถแจกทุนการศึกษาให้เด็กยากจนทุนละ 5,000 บาทจำนวน 4.5 ล้านคน และทำให้เด็กๆไม่ต้องออกจากระบบการศึกษาจากวิกฤติเศรษฐกิจโควิด ซื้อวัคซีนมาฉีดฟรีให้ประชาชนได้อย่างต่ำ 123 ล้านโดส หรือ ซื้อเครื่องตรวจแจกฟรีให้ประชาชนได้ 64 ล้านคน หรือ ซื้อเครื่องวัดออกซิเจนได้ 22 ล้านเครื่อง หรือ ชุด PPE ให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ 150 ล้านชุด ขอให้สมาชิกรัฐสภาและรัฐบาลตัดสินใจให้ดี ว่า เราควรเอาเงินกู้และเงินภาษีประชาชนไปทำอะไรระหว่าง การจัดซื้ออาวุธ กับ การใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุขในท่ามกลางวิกฤติโควิด หรือ ทุนการศึกษาให้กับนักเรียนยากจนหรือซื้ออุปกรณ์ให้นักเรียนให้สามารถเข้าถึงการเรียนรู้ทางออนไลน์ได้ สิ่งที่ กองทัพไทย ควรทำไม่ใช่การจัดซื้ออาวุธ แต่ควรนำเอาพื้นที่ของค่ายทหารมากมายและกำลังพลจำนวนมากมาจัดสร้างโรงพยาบาลสนามช่วยเหลือประชาชน รวมทั้ง การเร่งตรวจเชิงรุกในชุมชน และ จ่ายค่าตอบแทนให้กำลังพลชั้นผู้น้อยที่ได้ร่วมกันช่วยเหลือประชาชนมากกว่า 

การเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ของโรคและคุณภาพของวัคซีนอย่างโปร่งใส และการจัดหา การบริหารและกระจายวัคซีนตามหลักสาธารณสุขและการป้องกันไม่ให้เกิดความล่มสลายทางเศรษฐกิจและสังคมมีความสำคัญอย่างยิ่ง การจัดหา การบริหารและการกระจายวัคซีนต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน หากไม่ยึดผลประโยชน์ของสาธารณสุขและสาธารณชนแล้ว การจัดหา การบริหารและการกระจายวัคซีนก็จะบิดเบี้ยว บิดเบือนไปจากหลักการที่ถูกต้องชอบธรรม วิกฤติในหลายๆด้านจะติดตามมาอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ รัฐบาลไทยปฏิเสธไม่เข้าโครงการ โคแวกซ์  (Covax) ขององค์การอนามัยโลกและพันธมิตรเป็นการตัดสินใจที่ผิดผลาดที่สุดเรื่องการจัดหาวัคซีน นอกจากประเทศต้องสิ้นเปลืองงบประมาณเพิ่มเติมอีกจำนวนมากแล้ว ยังเกิดข้อสงสัยว่า Covax หาประโยชน์เงินทอนไม่ได้หรือไม่เพราะเป็นวัคซีนบริจาค เกิดข้อสงสัยว่าการจัดสรรงบประมาณซื้อวัคซีนคุณภาพต่ำหาเงินทอนได้จากการดำเนินการหรือไม่ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนล้วนได้วัคซีนจากโครงการ Covax ขององค์การอนามัยโลกไปแล้ว ปลายปีนี้ โครงการ Covax ขององค์กรอนามัยและพันธมิตรจะจัดวัคซีนไปทั่วโลกให้ได้ 2 พันล้านโดส แต่ประเทศไทยจะไม่ได้สักโดสเดียวจากโครงการนี้เพราะเราตัดสินใจไม่เข้าร่วม

รัฐบาลภาคธุรกิจและครัวเรือนควรเตรียมเม็ดเงินสำหรับสถานการณ์ที่ประเทศต้องล็อกดาวน์เป็นระยะๆไปอีกอย่างน้อย 2-3 ปี การใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมดควรเลื่อนออกไปก่อนโดยเฉพาะการซื้อเรือดำน้ำอีกสองลำเนื่องจากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนแต่ประการใด องค์การอนามัยโลกและโครงการโคแวกซ์ (Covax) ต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการฉีดวัคซีนให้ประชากรโลกได้ 70% จากประชากรโลกที่มีอยู่ราว 7.8 พันล้านคนอันนำมาสู่ภูมิคุ้มกันหมู่จึงสามารถหยุดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้อย่างเบ็ดเสร็จ 

รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวอีกว่าการเลื่อนฉีดวัคซีนในประเทศไทยจะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากประชาชนไทยส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการฉีดวัคซีนและต้องการฉีดเพื่อปกป้องตัวเอง คนรอบข้างและสังคมโดยรวม นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมีคุณลักษณะเช่นนี้ แต่เนื่องจากประสิทธิภาพในการจัดหาวัคซีนและการกระจายวัคซีนต่ำปัญหาการเลื่อนการฉีดจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ และ ความจริงแล้ว ประชาชนไม่ควรต้องเสียเงินในการเข้าถึงบริการพื้นฐานทางด้านสาธารณสุขหรือการฉีดวัคซีน 

ภายใต้สภาวะดังกล่าว เราต้องประเมินสถานการณ์ใหม่ด้วยการหันมาส่งเสริมการรักษาสำหรับผู้มีอาการไม่รุนแรงและป้องกันโดยใช้สมุนไพรไทยมากขึ้น และ มีมาตรการส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรง และ มีสุขอนามัยที่ดี การฉีดวัคซีนแบบผสมผสานโดยไม่มีงานวิจัยรองรับไม่ควรทำเพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ส่วนวัคซีนที่ไม่สามารถป้องกันไวรัสโควิดกลายพันธุ์ได้ควรหยุดสั่งซื้อและหยุดใช้ได้แล้ว ส่วนความเสียหายต่องบประมาณก็ต้องไปตรวจสอบกันว่า ใครควรต้องรับผิดชอบ อีกวิธีที่จะแก้ปัญหาการเลื่อนการฉีดวัคซีน คือ รัฐบาลใช้ กฎหมายความมั่นคงทางวัคซีนเพื่อจำกัดจำนวนการส่งออก “แอสตร้าเซเนกา” เพื่อนำมาใช้ในประเทศก่อน เนื่องจากบริษัทแอสตร้าเซเนกามีโรงงานผลิตอยู่ในดินแดนประเทศไทย และ รัฐไทยมีอำนาจอธิปไตยสมบูรณ์ในการบังคับใช้กฎหมาย บริษัทต้องส่งมอบวัคซีนตามความต้องการของรัฐไทยเพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตของคนไทย 
หากบริษัทเห็นว่า การปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายวัคซีนสำคัญกว่าชีวิตคนไทย รัฐบาลสามารถใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงทางวัคซีนเพื่อกำหนดสัดส่วนการส่งออกได้เฉพาะที่เกิน  6 ล้านโดส เพื่อประเทศไทยจะได้มีวัคซีนใช้อย่างน้อย 6 ล้านโดสต่อเดือน แต่การตัดสินใจนี้จะอยู่ที่ นายกรัฐมนตรีผู้เดียว เดิมเป็นอำนาจของรัฐมนตรีสาธารณสุข เนื่องจากมีการออกพระราชกฤษฎีกาโอนอำนาจให้นายกรัฐมนตรี และหวังว่านายกรัฐมนตรีจะใช้อำนาจนี้ในการดูแลประชาชนชาวไทยและต้องดำเนินการระงับการส่งออกเกินสัดส่วนเพื่อให้วัคซีนเพียงพอใช้ภายในประเทศภายในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะช้าเกินไปและระบบสาธารณสุขและระบบเศรษฐกิจต้องล่มสลายลง และประเด็นนี้ นักกฎหมายมหาชนอย่าง ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ได้ให้ความเห็นแล้วสามารถทำได้ตาม มาตรา 18 (2) แห่งพระราชบัญญัติความมั่นคงทางวัคซีน ที่ให้อำนาจรัฐมนตรีสาธารณสุข (ตอนนี้โอนอำนาจให้นายกรัฐมนตรี) กำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนไปนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อให้เราจะได้มีวัคซีนเพียงพอใช้ในประเทศเพื่อปกป้องชีวิตคนไทย สุขภาพและระบบเศรษฐกิจ 

รศ.ดร.อนุสรณ์ ยังประเมินในเบื้องต้นจากการที่อียูประกาศให้ไทยออกจากรายชื่อประเทศปลอดภัยและควรได้รับการผ่อนปรนมาตรการจำกัดการเดินทางเข้า หรือ EU White List จะทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติของ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” และ “สมุยพลัส” ไม่เป็นไปตามเป้าหมายและน่าจะต่ำกว่าเป้าหมาย 30-40% ค่าเงินบาทอาจจะอ่อนค่าเพิ่มขึ้นและทดสอบ 33 บาท ต่อดอลลาร์จากการขยายมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติม นอกจากนี้อาจทำให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 1,520-1,553 จุดในสัปดาห์นี้ การทะยอยประกาศผลประกอบการไตรมาสสองของบริษัทจดทะเบียนในไทยยังคงปรับตัวกระเตื้องขึ้นโดยรวมแต่จะอ่อนแอลงอย่างมากในไตรมาสสาม ผลการดำเนินการของกลุ่มสถาบันการเงินชะลอตัวลงและต่อเนื่องไปยังไตรมาสสาม ขณะที่ทิศทางของการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและการเงินเข้มงวดขึ้นของประเทศใหญ่ อย่าง สหรัฐอเมริกา จีน อังกฤษ หรือ กลุ่มประเทศอียู อาจเกิดขึ้นปีหน้าท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราผลตอบแทนในตลาดการเงินจะลดความชันลงในช่วงครึ่งปีหลัง 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท