เยาวชน อายุ 16 ปี ผู้ถูกกระสุนยางตำรวจ คฝ. ยิงเข้าบริเวณใต้ตาซ้ายที่แยกผ่านฟ้าฯ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 อาการดีขึ้นตามลำดับ แต่มีอาการบวม และมีเลือดในเยื่อบุตาซ้าย ยังลืมตาไม่ค่อยได้ นพ.ทศพร เผยถ้ากระสุนยางโดนสูงกว่านี้เสี่ยงตาบอด

สืบเนื่องจากกรณีตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ตอบโต้กลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564 โดยใช้ทั้งการฉีดน้ำแรงดันสูง แก๊สน้ำตา ไปจนถึงกระสุนยาง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นเยาวชนอายุ 16 ปี ขื่อ โคล่า (สงวนชื่อ-นามสกุล) ซึ่งมาเข้าร่วมเดินขบวนของเยาวชนปลดแอก   

เพื่อสอบถามอาการ และผลกระทบจากการใช้กระสุนยางตอบโต้ผู้ชุมนุม เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ซึ่งเปิดเผยผ่านโพสต์เฟซบุ๊กเพจว่า ตนกำลังติดตามและรักษาเยาวชนคนดังกล่าวอยู่ 

นพ.ทศพร ระบุว่า ตนเดินทางไปเยี่ยมอาการของโคล่า ณ ที่พักของเขา เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2564 พร้อมยืนยันว่า อาการบาดเจ็บของโคล่านั้นเกิดจากกระสุนยางจริง โดยสามารถสังเกตได้จากรูปในโพสต์ ที่จะเห็นเป็นแผลฟกช้ำใต้ดวงตา ซึ่งถ้าถูกกระทำด้วยวัสดุอื่นๆ หรือถูกทุบตี แผลที่ออกมาจะเป็นลักษณะเป็นวงกว้างมากกว่านี้

บาดแผลจากกระสุนยางบริเวณใต้ตาซ้ายของ 'โคล่า'

"ถ้าดูจากแผลน่าจะเป็นรอยกระสุนยาง มีรอยกระแทก และมีแผลที่เลือดออก เป็นของไม่ใหญ่กระแทกเข้ามา คือถ้าเป็นแบบโดนไม้ตี อะไรต้องมีแผลที่อื่นด้วย กินพื้นที่ใหญ่ๆ" นพ.ทศพร กล่าว

นพ.ทศพร กล่าวต่อว่า อาการของเยาวชนดีขึ้นตามลำดับ แม้ว่ามีอาการบวมที่เปลือกตาทั้งบนและล่าง มีรอยช้ำ และเลือดออกใต้หนังตาทั้งบนและล่าง มีแผลฉีดขาดที่ใต้ตาซ้าย และมีเลือดออกใต้เยื่อบุตาซ้าย ตายังลืมไม่ค่อยได้

สำหรับการรักษา นพ.ทศพร ระบุว่า รักษาไปตามอาการ มีการให้ยาฆ่าเชื้อ เพราะแผลอาจสกปรก เป็นหนองได้ ซึ่งผู้บาดเจ็บโชคดีที่กระสุนยางไม่ถูกดวงตา เพราะถ้ากระสุนยางถูกเหนือขึ้นไปอีกนิดเดียว กระสุนยางจะถูกดวงตาพอดี และเสี่ยงตาบอด

นพ.ทศพร ทิ้งท้ายว่า ผู้บาดเจ็บได้รับการตรวจที่โรงพยาบาลแล้ว หากมีอาการเพิ่มเติมจะมาแจ้งภายหลัง