ผู้ป่วยโควิด-19 พุ่ง 1.6 หมื่น ขอคลินิกเอกชนร่วมดูแลผู้ป่วยกักตัวที่บ้านใน กทม.

28 ก.ค. 2564 ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งไม่หยุด ป่วยเพิ่ม 16,321 คน เสียชีวิต 133 คน สปสช. ขอคลินิกเอกชนนอกระบบบัตรทอง 3,000 แห่ง ร่วมดูแลผู้ป่วยกักตัวที่บ้านในพื้นที่ กทม. พร้อมประชุมชี้แจงแนวทาง 3 ส.ค. 2564

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เผยแพร่รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 28 ก.ค. 2564 ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมด 16,533 คน ในจำนวนนี้ติดเชื้อภายในประเทศ 16,321 คน ติดเชื้อจากต่างประเทศ 10 คน ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 202 คน เสียชีวิตเพิ่ม 133 คน รวมยอดผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 543,361 คน เสียชีวิตสะสม 4,397 คน

ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ทั้งหมด 178,270 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 4,325 คน ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 995 คน ขณะที่ยอดฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 3,712,747 คน คิดเป็นร้อยละ 5.69 ของประชากร

สถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 28 ก.ค. 2564

สถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 28 ก.ค. 2564

ผู้เสียชีวิตทั้ง 133 คน อายุระหว่าง 21-106 ปี โดยมีผู้เสียชีวิตที่บ้าน 5 ราย ค่ากลางนับจากวันที่ทราบผลติดเชื้อถึงวันที่เสียชีวิต คือ 9 วัน

ข้อมูลผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ประจำวันที่ 28 ก.ค. 2564

ข้อมูลผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ประจำวันที่ 28 ก.ค. 2564

10 อันดับจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 3,997 คน, สมุทรสาคร 1,147 คน, สมุทรปราการ 1,088 คน, ชลบุรี 864 คน, กาญจนบุรี 585 คน, นนทบุรี 520 คน, นครปฐม 476 คน, ฉะเชิงเทรา 447 คน, อุบลราชธานี 313 คน, และปทุมธานี 308 คน ตามลำดับ

จำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 จังหวัด

จำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 จังหวัด

ด้านทีมสื่อ สปสช. รายงานว่า นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มจำนวนสูงขึ้นอยู่ในขณะนี้ แม้จะมีการวางระบบให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการเล็กน้อยรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) ภายใต้การติดตามดูแลของหน่วยบริการ

สำหรับในพื้นที่ กทม. วางแผนให้คลินิกชุมชนอบอุ่นเข้ามาดูแลผู้ป่วย Home Isolation ในพื้นที่ของคลินิกนั้นๆ แต่เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีเป็นจำนวนมากเกินศักยภาพที่คลินิกชุมชนอบอุ่นจะรับดูแลได้หมด ทำให้ยังคงมีผู้ป่วยตกค้างไม่ได้จับคู่กับหน่วยบริการอีกเป็นจำนวนมาก  

นพ.จเด็จ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สปสช. พยายามจัดการโดยดึงโรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัด อาทิ โรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช เข้ามารับดูแลผู้ป่วยที่ยังตกค้าง จนสามารถลดจำนวนลงไปได้มาก แต่ก็ยังมีผู้ป่วยรายใหม่ๆ ที่เข้ามาในระบบของสายด่วน 1330 อีกเป็นจำนวนมาก

เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนหน่วยบริการที่จะเข้ามารับดูแลผู้ป่วยให้มากขึ้น สปสช. จึงขอเชิญชวนคลินิกเอกชนที่ไม่ได้เป็นคลินิกชุมชนอบอุ่นหรือไม่ได้คู่สัญญากับ สปสช. เข้ามาร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียวในรูปแบบ home isolation เข้าร่วมการประชุมชี้แจงระบบบริการและการขอรับค่าใช้จ่ายบริการสาธารณสุขฯ ในการให้บริการตรวจโควิดแบบชุดตรวจแอนติเจน เทสท์ คิท (Antigen Test Kit) หรือ ATK และการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่บ้าน (Home Isolation) หรือ HI สำหรับสถานพยาบาลทีไม่มีเตียงค้างคืนพื้นที่ กทม. ในวันที่ 3 ส.ค. 2564 ระหว่างเวลา 09.00-11.00 น. ผ่านระบบ ZOOM Meeting 

นพ.จเด็จ กล่าวต่อไปว่า ในการประชุมดังกล่าว จะมีการชี้แจงในประเด็นขอบเขตการจัดบริการ หลักเกณฑ์การจ่ายชดเชยค่าตรวจคัดกรองด้วยวิธี Antigen Test Kit และการบริการใน Home Isolation ตลอดจนวิธีการเบิกจ่ายจาก สปสช. การพิสูจน์ตัวตนเพื่อเข้ารับบริการ กรณีคัดกรองโควิด-19 ซึ่งหากหน่วยบริการมีความสนใจช่วยเหลือดูแลผู้ติดเชื้อ และหลักเกณฑ์วิธีการและอัตราการจ่ายชดเชยค่าบริการของ สปสช. เป็นอัตราที่ยอมรับได้ หน่วยบริการหรือคลินิกเอกชนก็สามารถสมัครเข้าร่วมให้บริการตรวจคัดกรองและดูแลผู้ป่วยในรูปแบบ Home Isolation กับ สปสช.ได้ทันที  

"คลินิกเอกชนต่างๆใน กทม. มีกว่า 3,000 แห่ง แต่คลินิกชุมชนอบอุ่นที่ทำงานกับ สปสช. มีเพียง 200 กว่าแห่ง หากคลินิกเอกชนที่ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับ สปสช.มาเข้าร่วมดูแลด้วย ก็จะทำให้สามารถรองรับการทำ Home Isolation ให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวได้อีกเป็นจำนวนมาก" นพ.จเด็จ กล่าว  

นพ.จเด็จ กล่าวด้วยว่า การเข้ามาร่วมให้บริการของคลินิกเอกชนเหล่านี้จะไม่มีปัญหาทางกฎหมาย เพราะกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ออกประกาศเรื่อง “แนวทางการดูแลรักษา ป้องกัน ควบคุม และส่งต่อผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) ของสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนและสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน พ.ศ. 2564” โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. 2564 ซึ่งจะมีผลปลดล็อกให้คลินิกเอกชนสามารถให้บริการตรวจคัดกรองและดูแลรักษาแบบ Home Isolation ได้ โดยไม่ต้องกังวลข้อจำกัดเรื่องไม่มีเตียงรองรับหรือจะต้องรับผู้ป่วยเข้ามานอนเตียงของหน่วยบริการนั้นๆ  

ทั้งนี้ คลินิกเอกชนที่ต้องการเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว สามารถลงทะเบียนได้ที่ https://forms.gle/v19y2GPZiwh2wntu5 หรือโทรติดต่อผู้ประสานงานที่หมายเลขโทรศัพท์ 061420-3025, 061-4186734 และ 089-9696492 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท