Skip to main content
sharethis

แทมมี ดักเวิร์ธ ส.ว.สหรัฐฯ เผยวอชิงตัน จะบริจาควัคซีนโควิด-19 ให้ไทย เป็นจำนวนทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส โดยจัดส่งชุดแรกเป็นจำนวนอย่างต่ำ 1.5 ล้านโดส ถึงไทย 30 ก.ค. 64 ขณะที่ 2 วันก่อนหน้านี้ กลุ่มหมอไม่ทน และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ ยื่นหนังสือถึงสถานทูตสหรัฐฯ ร่วมจับตาว่าวัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐฯ บริจาค จะจัดสรรถึงมือบุคลากรด่านหน้าและกลุ่มเสี่ยงหรือไม่

ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ (คนกลาง) วุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต เมื่อเดือน พ.ย. 2019 (ที่มา ทวิตเตอร์ Tammy Duckworth)

มติชน อ้างรายงานจากสำนักข่าว วอยส์ออฟอเมริกาภาคภาษาไทย เมื่อ 29 ก.ค. 64 ระบุ พันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เชื้อสายไทย เผยว่า วอชิงตันเตรียมจัดส่งวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ไทย เป็นจำนวน 2.5 ล้านโดส โดยจัดส่งชุดแรกให้เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านโดส 

"เราตระหนักดีว่า โรคระบาดไม่จำกัดพรมแดน หากเกิดเหตุฉุกเฉินทางสาธารณสุขในภูมิภาคหนึ่งจะไม่มีภูมิภาคใดที่ปลอดภัย ดิฉันทราบถึงประกาศล่าสุดที่เราส่งวัคซีนโควิดไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านโดส (ให้แก่ไทย) ซึ่งที่จริงแล้วจะมีทั้งสิ้น 2.5 ล้านโดส แต่การจัดส่งชุดแรกมีวัคซีน 1.5 ล้านโดส" ดักเวิร์ธ กล่าวระหว่างพิธีการเปิดงานเสวนาออนไลน์ภายใต้หัวข้อ "U.S. and Thailand Perspectives on Geostrategic Landscape and Regional Architecture" จัดโดยสถาบัน East-West Center ในกรุงวอชิงตันดีซี และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน
 
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 วุฒิสมาชิกแทมมี เคยประกาศแสดงความยินดีเรื่องสหรัฐฯ มอบวัคซีนให้แก่ไทย โดยเธอระบุในแถลงการณ์เมื่อครั้งนั้นว่า

"ดิฉันรู้สึกยินดีที่จะประกาศวันนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นเพื่อส่งมอบวัคซีนอย่างน้อย 1.5 ล้านชุดให้ประเทศไทย เพื่อช่วยให้ประชาชนชาวไทยเอาชนะปัญหาโควิด-19 ขณะที่การระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตากำลังเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก โดยการบริจาควัคซีนของสหรัฐฯ ซึ่งมีประสิทธิผลสูงนี้ไม่มีเงื่อนไขข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น แต่มีขึ้นด้วยความเข้าใจว่าจะไม่มีประเทศใดที่ปลอดภัยจากโควิด-19 ได้อย่างสมบูรณ์จนกว่าทุกประเทศจะปลอดภัย"

เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. บีบีซีไทย รายงานว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ที่รัฐบาลสหรัฐฯ บริจาคให้ไทยจำนวน 1.5 ล้านโดสนั้น สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยยืนยันแล้วว่า มีกำหนดถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ค.)  

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 64 มติคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรณีวัคซีนโควิดไฟเซอร์ของไทย ระบุว่า วัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐฯ ที่จะนำเข้ามายังไทยสิ้นเดือนนี้จำนวน 1.54 ล้านโดสนั้น จะได้รับการจัดสรรแบ่งเป็น 5 ส่วน

ส่วนแรก จะนำไปเป็นเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยโควิดทั่วประเทศ และยังไม่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา เป็นเข็มกระตุ้น จำนวน 700,000 โดส

ส่วนที่สอง จะมีการจัดสรรวัคซีน 645,000 โดสให้ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปในจังหวัดที่มีการระบาดสูง

ส่วนที่สาม จัดสรรวัคซีน 150,000 โดสให้ชาวต่างชาติที่อาศัยในไทยโดยเฉพาะผู้สูงอายุ มีโรคเรื้อรัง รวมถึงผู้เดินทางไปต่างประเทศที่จำเป็นต้องรับวัคซีน เช่น นักการทูต นักศึกษา และอื่นๆ

ส่วนที่สี่ วัคซีนอีก 5,000 โดส จะถูกจัดสรรเพื่อทำการศึกษาวิจัยโดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรมควบคุมโรค และสุดท้าย อีก 40,000 โดส จะสำรองเพื่อตอบโต้การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์

ขณะที่สำนักข่าว Thai PBS รายงานเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า “กลุ่มหมอไม่ทน” ร่วมด้วยกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ เดินทางไปที่สถานทูตสหรัฐฯ เขตปทุมวัน กทม. เพื่อยื่นหนังสือให้สถานทูตสหรัฐฯ ร่วมตรวจสอบและระบุเงื่อนไขที่ทำให้มั่นใจว่า การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ 1.54 ล้านโดส ซึ่งคาดว่าจะมาถึงไทยพรุ่งนี้ (30 ก.ค.) จะถึงมือบุคลากรด่านหน้า และกลุ่มเสี่ยงอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ยังเรียกร้องให้รัฐไทยเปิดเผยการจัดสรรวัคซีนอย่างโปร่งใส ไม่ให้ปกปิดข้อมูล หรือจัดสรรวัคซีนไปให้หน่วยงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงกลุ่ม VIP ซึ่งมีผู้แทนฝ่ายการเมืองสถานทูตสหรัฐอเมริกามารับฟัง พร้อมรับหนังสือข้อเรียกร้อง

สวิส บริจาคชุดตรวจโควิด เครื่องช่วยหายใจ เวชภัณฑ์ให้ไทย มูลค่าเกือบ 300 ล้านบาท

มีรายงานวันนี้ (29 ก.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นางจุฬามณี ชาติสุวรรณ อธิบดีกรมยุโรป กระทรวงต่างประเทศ พร้อมคณะ เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยให้การต้อนรับ เฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา (Helene Budliger Artieda) เอกอัครราชทูตสวิสเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ในโอกาสที่รัฐบาลประเทศสวิสเซอร์แลนด์บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับรัฐบาลไทย โดยขนส่งมาในเที่ยวบินที่ LX180 สายการบิน SWISS Air ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 05:20 น.

อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สมาพันธ์สวิสฯ บริจาค ประกอบด้วย Rapid Antigent Test Kits จำนวน 1.1 ล้านชุด และ เครื่องช่วยหายใจ 102 เครื่อง มูลค่า 9 ล้านฟรังก์สวิส หรือประมาณ 294 ล้านบาท

ในวันเดียวกัน สำนักข่าวไทยรัฐ อ้างรายงานจากเว็บไซต์ swissinfo สื่อภาษาอังกฤษในสวิสเซอร์แลนด์ กระทรวงสาธารณสุขสวิตเซอร์แลนด์ แถลงถึงกรณีการบริจาคชุดตรวจโควิด-19 และเวชภัณฑ์ โดยระบุการบริจาคครั้งนี้เป็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสวิสเซอร์แลนด์ และนอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จะมีการทำงานประสานกับเจ้าหน้าที่ไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องเวชภัณฑ์เหล่านี้ จะถูกจัดสรรอย่างเป็นธรรมบนพื้นฐานความจำเป็น เพื่อให้เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม    

นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศยังแถลงด้วยว่า นายอิกนาซิโอ กัสซิส รมว.ต่างประเทศของสวิตเซอร์แลนด์มีกำหนดจะเดินทางมาเยือนประเทศไทย ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ ระหว่างการเดินทางมาเยือนประเทศในภูมิภาคอาเซียนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 1-6 สิงหาคม 2564 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวิตเซอร์แลนด์จะเป็นผู้มอบเครื่องเวชภัณฑ์เหล่านี้ให้แก่ทางการไทยในระหว่างพิธีต้อนรับการมาเยือนประเทศไทย

 หมายเหตุ ผู้สื่อข่าวมีการอัปเดตเนื้อหามาเป็นปัจจุบัน เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 64 เวลา 17.37 น.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net