ใบตองแห้ง: อำนาจบนอาฆาต

ข้อกำหนด ศบค.ฉบับที่ 29 ร้ายแรงไม่แพ้ประกาศรัฐประหาร ให้อำนาจ กสทช. สั่งระงับบริการอินเตอร์เน็ตแก่ IP Address ที่เผยแพร่ข้อความ “อันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว” หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร

ประการแรก อำนาจนี้ไม่ได้ใช้กับ “สื่อ” เท่านั้น แต่ใช้กับประชาชนทั้งโลกออนไลน์ ตั้งแต่ดาราคนดัง Call Out ถึงชาวบ้านทั่วไป ที่อาจแชร์ภาพคนตาย แล้วโดนสลิ่ม IO หาว่า “จ้างตาย”

ประการที่สอง “ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว” แปลว่าเผยแพร่ความจริงก็มีความผิดได้ แต่ถ้าเป็นความเท็จที่ไม่ทำให้ประชาชนกลัว เช่น “วัคซีนจะเต็มแขนประชาชน” ไม่ผิดนะ

ประการที่สาม สำคัญที่สุด ข้อกำหนดนี้ให้ กสทช. มีอำนาจเบ็ดเสร็จยิ่งกว่าอำนาจศาลตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ยังจำได้ไหม ปีที่แล้วตอนมีม็อบรัฐประยุทธ์ประกาศฉุกเฉินร้ายแรง ยื่นศาลขอปิดกั้นช่องทางสื่อสารของ Voice TV, The Standard, The Reporter ประชาไท แต่ศาลไม่ปิดเพราะขัดรัฐธรรมนูญ ถ้าผิดก็ให้สั่งลบหรือระงับเฉพาะข้อความ

แต่ครั้งนี้ กสทช. ใช้ดุลพินิจเอง สั่งตัดเน็ต IP Address ได้เลย มีอำนาจมากกว่าศาล ไม่ต้องส่งศาล ไม่มีช่องทางให้ร้องคัดค้านต่อศาล ตัดเน็ตก่อนแล้วค่อยให้ตำรวจดำเนินคดี

ย้อนไปข้อหนึ่ง อำนาจนี้ใช้กับประชาชนทั่วไป ดาราคนดัง Influencer ด้วย จากเดิมที่จะมีผู้ช่วยรัฐมนตรีไปแจ้งความดำเนินคดี “เฟกนิวส์” ถ้าใช้อำนาจเต็มพิกัด ก็จะโดนตัดเน็ตทันที

IP Address ที่ใช้ทำมาหากิน ใช้ขายของออนไลน์ รีวิวสินค้า หรือให้ลูกเรียนออนไลน์ โดนตัดหมด จะไม่ใช่แค่เอาหมายศาลไปสั่งเฟซบุ๊กให้ปิดบัญชีระงับบัญชีอีกต่อไป

อำนาจนี้ร้ายแรงเกินกว่าเหตุไหม ก็เห็นกัน นักกฎหมาย คณบดีนิติศาสตร์ จึงชี้ว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่เนติบริกรอ้างว่าจะสั่งเจ้าหน้าที่ระมัดระวัง

อำนาจนี้จะส่งผลดีต่อรัฐบาลไหม โธ่เอ๋ย กระทั่ง 6 องค์กรสื่อที่ปกติไม่ค่อยมีปากเสียงยังออกมาคัดค้านแข็งขัน รัฐบาลที่โดนด่าตั้งแต่แร็พเปอร์ไปถึงสัปเหร่อ ผู้นำชอบแต่งเพลงแต่วันนี้มีแต่เพลงด่าผู้นำ ฯลฯ

สถานการณ์จะทำให้ประชาชนยิ่งโกรธแค้นมากขึ้น ระวังถนนวิภาวดีไม่มีที่จอดก็แล้วกัน

การใช้อำนาจปิดปาก เกิดขึ้นในวิกฤติโควิดที่นับวันจะเลวร้ายลง ประยุทธ์บอกประเทศอื่นก็เหมือนกัน แต่ประเทศไทยกำลัง “ขาขึ้น” เดี๋ยวคนอื่นจะ “ขาลง” วัคซีน mRNA กว่าจะมาอีก 2-3 เดือน AstraZeneca ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เดือนละ 10 ล้านโดส

ภาพประชาชนแย่งกันจองคิวตรวจ แออัดรอฉีดวัคซีน ต่อคิวยาวเหยียดรับแจกอาหาร รอเตียงรอการติดต่อจนตายคาบ้าน ตายกลางถนน โศกนาฏกรรมพรากลูกพรากแม่ จะล้นไปทั่วโลกออนไลน์

จะใช้อำนาจชี้ว่า “เฟกนิวส์” เอาผิด สร้างความหวาดกลัวห้ามโพสต์ห้ามแชร์ห้ามด่า ช่วยได้สักเท่าไหร่

แทนที่จะใช้อำนาจล้นหลาม ไปจัดระบบดูแลบริการประชาชน ทะลวงคอขวดของระบบ ดึงทรัพยากรทุกด้านมาสนับสนุนสาธารณสุข ทุบโต๊ะจัดสรรวัคซีนให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ไม่ปล่อยให้แก่งแย่งกันทางการเมือง

ประยุทธ์กลับนอนอยู่บ้านวันหยุด แล้วสั่งปิดปากประชาชน โดยตัวเองปิดทองหลังพระ ไม่ได้จัดฉากเลยจริงๆ

คนโทร. 1668,1669 ขอความช่วยเหลือจนเงินหมด ดีอีเอส กสทช. ไม่ประสานกัน เรื่องบริการประชาชนล่าช้า แต่เรื่องไล่ล่าเอาผิด เร็วจัง

นี่คือรัฐราชการใหญ่โตที่ไม่ได้มีไว้บริการประชาชน แต่เก่งนัก ถนัดนัก ในการควบคุมบังคับประชาชน

ระบอบประยุทธ์ตั้งแต่อำนาจหนุนหลัง ไปจนคนรอบข้าง ฝ่ายเสธ สมุนบริวาร ส.ส.พลังประชารัฐ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 250 ส.ว. เชื่อมั่นว่าไม่มีใครล้มประยุทธ์ได้ ในสภาก็เป็นปึกแผ่น อภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่มีความหมาย เลือกตั้งใหม่ก็ใช้อำนาจอุปถัมภ์ ม็อบล้นหลามก็อ้างกฎหมายปราบ ตำรวจทหารรัฐราชการมีแต่คนของตัว รับใช้ใต้คำสั่ง โควิดกำลังแรง คนอยากมาม็อบเป็นล้านก็ไม่กล้า เดี๋ยวโควิดจางก็อ้างผลงานแจกเงินเยียวยา คิดสะระตะ ยังไงก็พาประยุทธ์ก้าวข้ามศพโควิดไปได้

ประมาทแรงแค้นแรงอาฆาตของประชาชนเกินไปไหม ทุกวันนี้ยังไม่ตระหนักอีกหรือ กระแสในโลกออนไลน์ไล่ล่าสลิ่ม แบนฟู้ดแพนด้า ยักษ์ใหญ่สะดวกซื้อชี้แจงแล้วชี้แจงอีก โดนเน็ตไอดอลไปแจกของหน้าร้าน ชาวเน็ตแพร่คลิปกันอย่างสะใจ

ใครหนุนรัฐบาลใครเชียร์รัฐบาล สต. จะถูกบดขยี้ไปอีกนาน ไม่ต้องพูดถึงคนที่เป็นเครื่องไม้เครืองมือรัฐบาล

บอร์ด กสทช. ดีอีเอส ชัยวุฒิ กฤษณะ ปิยะ ทิพานัน ฯลฯ ก็รู้ตัวไว้แล้วกันว่า โด่งดังแค่ไหนในโลกออนไลน์

นี่ไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล แต่รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มีคนโกรธแค้นไม่พอใจมากที่สุด พูดแบบไม่เลือกฝ่าย เทียบยุคยิ่งลักษณ์ยังน้อยกว่า แต่ไล่ไม่ได้

ความโกรธจึงสั่งสมเป็นความอาฆาต ไปถึงรัฐราชการ ตำรวจ ทหาร องค์กรกฎหมาย พรรคร่วมรัฐบาล (แบบประชาธิปัตย์โดนสาดสี รู้ไหมว่าชาวบ้านสะใจ) รวมไปถึงอำนาจใดก็ตามที่หนุนหลัง

ความโกรธสะสมนี้จะเป็นพลังทำลายล้าง ไม่ทราบรู้ตัวกันหรือยัง

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/hot-topics/news_6538373

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท