เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา มินอ่องหล่าย เซ็นแก้กฎหมายต้านการก่อการร้าย เพิ่มบทลงโทษผู้ที่สนับสนุนกิจกรรมต่อต้านเผด็จการ ด้านนักวิเคราะห์ชี้สื่อมวลชนที่รายงานสนับสนุนรัฐบาล NUG โดนเล่นด้วย เพราะถือว่าโฆษณาชวนเชื่อหนุนผู้ก่อการร้าย ในวันเดียวกัน มีรายงานทหารพม่าปล่อยเจ้าหน้าที่รัฐ และแพทย์บางส่วนออกจากเรือนจำ
3 ส.ค. 64 สื่อท้องถิ่น อิระวดี รายงานวันนี้ (3 ส.ค.) พลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพพม่า เซ็นแก้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา เสนอให้มีการลงโทษขั้นรุนแรงต่อผู้ที่สนับสนุนกิจกรรมต่อต้านเผด็จการทหาร
กฎหมายที่เพิ่งได้รับการแก้ไข มีการเพิ่มโทษจำคุกจาก 3 ปี เป็น 7 ปี สำหรับการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการแนะนำ ชักจูง โฆษณาชวนเชื่อ และการเกณฑ์คนเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้าย หรือทำกิจกรรมการก่อการร้าย
นักวิเคราะห์กฎหมาย ระบุว่า การแก้ไขกฎหมายต้านการก่อร้ายยังพุ่งเป้าไปที่สื่อมวลชนฝั่งตรงข้ามกองทัพ ที่รายงานข่าวสนับสนุนรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือ NUG และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน หรือ PDF เพราะกฎหมายให้อำนาจเผด็จการทหารดำเนินคดีสื่อโดยใช้ข้ออ้างโฆษณาชวนเชื่อด้วย
นักวิเคราะห์กฎหมาย กล่าวด้วยว่า ลักษณะที่เปลี่ยนไปของกฎหมายต้านการก่อการร้าย ทำให้เป็นการยากแก่ผู้ถูกกล่าวหาจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง โดยเมื่อเทียบในคดีอาชญากรรมอื่นๆ อัยการมีหน้าที่พิสูจน์ว่าจำเลยมีความผิด แต่ภายใต้กฎหมายต้านการก่อการร้าย ผู้ถูกกล่าวหาต้องพิสูจน์ว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์
ก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เผด็จการทหารแปะป้ายรัฐบาล NUG คณะรัฐมนตรี และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน ว่าเป็น ‘กลุ่มก่อการร้าย’ สำหรับการกระทำยุยงให้ประชาชนกระด้างกระเดื่องต่อกองทัพพม่า
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 64 รัฐบาล NUG ตอบโต้กองทัพพม่า โดยระบุว่าเป็น ‘กลุ่มผู้ก่อการร้าย’ ซึ่งกระทำการก่อการร้ายต่อประชาชน สร้างหวาดกลัวต่อสาธารณชนโดยมีแรงจูงใจทางการเมืองที่จะควบคุมประเทศเมียนมา
กองทัพพม่าปล่อยตัวหมอและเจ้าหน้าที่รัฐ
สำนักข่าว อิระวดี รายงานเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 64 ระบุว่า เผด็จการทหารปล่อยตัวเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่ถูกทางการควบคุมตัวออกมาเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 64 รวมถึงแพทย์บางรายที่ถูกจับกุมเนื่องจากเข้าร่วมขบวนการอารยขัดขืน หรือที่พม่าเรียกชื่อเล่นว่า CDM อย่างไรก็ตาม ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐ และบุคลากรทางการแพทย์ ถูกขังในเรือนจำอีกหลายร้อยคน
เจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลที่เข้าร่วมอารยขัดขืน จากแฟ้มภาพประชาไท 3 ก.พ. 2564
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 64 ที่ภูมิภาคเอยาวดี แพทย์ ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่รัฐ ได้รับการปล่อยตัวทั้งสิ้น 27 ราย
ขณะที่นครย่างกุ้ง แพทย์ และเจ้าหน้าที่รัฐราว 20 ราย ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำอินเส่ง เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ส.ค. 64 หนึ่งในนั้นมี อ่องอ่องหน่ายมยิ้ด อธิการบดี มหาวิทยาลัยศิลปวัฒนธรรมแห่งชาติ ย่างกุ้ง ซึ่งถูกจับกุมตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 64
อย่างไรก็ตาม กองทัพพม่าไม่ได้ระบุว่า มีผู้ถูกควบคุมตัวได้รับการปล่อยตัวกี่รายทั่วประเทศ
ทั้งนี้ รายงานจากองค์กรแพทย์เพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ Physician for Human Rights ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชนในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ผ่านมา 6 เดือนหลังรัฐประหารพม่า มีบุคลากรทางการแพทย์แบ่งเป็นแพทย์ราว 400 ราย และพยาบาลกว่า 180 ราย ถูกออกหมายจับเนื่องจากเข้าร่วมขบวนการ CDM
ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ถึง 6 ก.ค. มีบุคลากรสาธารณสุข ถูกจับกุมทั้งสิ้น 157 คน ส่วนใหญ่เป็น แพทย์ พยาบาล และนักศึกษาแพทย์ มี 12 รายถูกสังหาร และ 32 คนได้รับบาดเจ็บขณะเข้าร่วมประท้วงต้านกองทัพพม่า คนที่เหลือยังเคลื่อนไหวในกลุ่ม CDM อยู่
มินอ่องหล่าย เคยเรียกร้องให้บุคลากรทางการแพทย์กลับมาทำงานเมื่อไม่กี่สัปดาห์หลังการทำรัฐประหาร อ้างสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศทำให้ต้องการบุคลากรทางการแพทย์มาช่วย
แต่เผด็จการทหารไม่เคยแสดงความจริงใจ โดยการยุติคดีแก่บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้านรัฐประหาร ซ้ำยังจับกุมแพทย์อาสาที่ปฏิเสธทำงานในโรงพยาบาลรัฐ และกำลังทำงานรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในช่วงการแพร่ระบาดระลอกสาม
ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มีแพทย์อาสา 5 คนถูกจับกุมขณะทำงานในชุมชนในเขตดาโกงเหนือ ในนครย่างกุ้ง เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดโควิด-19 หลังจากที่พวกเขาถุกเจ้าหน้าที่ทหารโทรไปหา และหลอกว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อล่อให้แพทย์อาสาไปหาที่พัก และทำการจับกุม นอกจากนี้ ทหารพม่ายังบุกไปที่สำนักงานของแพทย์อาสาอีกด้วย
Global New Light of Myanmar ซึ่งเป็นสำนักข่าวของทางการพม่า และอิระวดี รายงานว่า ดร. ทาทาลิน อดีตผู้อำนวยการการจัดการเรื่องวัคซีนโควิดในสมัยรัฐบาลอองซานซูจี ถูกจับเมื่อวันที่ 10 มิถุนาที่ผ่านมา ด้วยข้อหา มาตรา 17(1) กฎหมายองค์กรนอกกฎหมาย และมาตรา 505(1) ตามประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจากให้ความช่วยเหลือรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือ NUG ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านกองทัพ
รายงานจากสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่า หรือ AAPP เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 64 ระบุจำนวนประชาชนที่ถูกทหารพม่าจับกุม และถูกคุมขังทั้งสิ้น 5,474 ราย โดยเป็นบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 70 คน และอีก 1,964 คนอยู่ในระหว่างการหลบหนี
แปลและเรียบเรียงจาก