Skip to main content
sharethis

เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาตัวแทนกลุ่มติดอาวุธตอลีบันได้เดินทางไปที่จีนเพื่อพบปะหารือเรื่องความมั่นคงในอัฟกานิสถานในช่วงที่กลุ่มที่มีอำนาจในพื้นที่อัฟกานิสถานกำลังต่อสู้กันเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองในช่วงสุดท้ายของการที่สหรัฐฯ จะถอนทัพออกจากประเทศ

ภาพจากเว็บไซต์ของ กระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน 

มูลลาห์ บาราดาร์ อัคคุนด์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองกำลังตอลีบันเป็นผู้นำกลุ่มตัวแทนสมาชิกตอลีบันอีก 9 คนเดินทางเยือนมณฑลเทียนจินของจีนเป็นเวลา 2 วัน โดยที่พวกเขาได้เข้าพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน หวังอี้ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา

โมฮัมหมัด นาอีม โฆษกของตอลีบันระบุผ่านทวิตเตอร์ว่าพวกเขาได้พบปะกับจีนเพื่อพูดคุยกันโดย "เน้นเรื่องการเมือง, เศรษฐกิจ และประเด็นความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับสองประเทศ" รวมถึงหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันในอัฟกานิสถานและกระบวนการสันติภาพด้วย

ย้อนรอยสงคราม 20 ปี สหรัฐ-อัฟกานิสถาน: จาก บุช สู่ ไบเดน

กลุ่มติดอาวุธที่มีแนวคิดอิสลามแบบสุดโต่งเรียกตัวเองว่าอิสลามมิคเอมิเรตส์แห่งอัฟกานิสถานเปิดเผยว่าพวกเขาได้ให้ความเชื่อมั่นกับทางการจีนว่าประเทศอัฟกานิสถานจะไม่ถูกนำมาใช้ในเชิงคุกคามความมั่นคงของรัฐอื่นๆ ในขณะที่จีนได้ให้คำมั่นว่าจะ "ขยายความร่วมมือกับประชาชนชาวอัฟกานิสถาน" และจะไม่ "แทรกแซง" กิจการของอัฟกานิสถาน

หวังอี้กล่าวว่าการที่สหรัฐฯ และกองทัพนาโต้รีบถอนกำลังออกจากพื้นที่แสดงให้เห็นว่านโยบายของสหรัฐฯ นั้น "ล้มเหลวในการสร้างโอกาสที่สำคัญสำหรับประชาชนชาวอัฟกานิสถานในการที่จะสร้างเสถียรภาพให้ตนเองและพัฒนาประเทศ"

หวังอี้ยังได้กล่าวเรียกร้องให้กลุ่มตอลีบันเดินหน้าต่อสู้ต่อไปและให้แยกตัวเองให้ชัดเจนออกจาก "ขบวนการอิสลามเติร์กกิสถานตะวันออก" ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวอุยกูร์ที่ทางการจีนอ้างว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงในมณฑลซินเจียง โดยที่ทางการจีนอ้างเรื่องความมั่นคงในการคุมขังประชาชนชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในค่างกักกันทางพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศที่อยู่ใกล้กับอัฟกานิสถาน

การไปเยือนจีนของกลุ่มตอลีบันเกิดขึ้นในช่วงเดือนสุดท้ายที่สหรัฐฯ จะยุติปฏิบัติการทางทหารในอัฟกานิสถานหลังจากที่มีสงครามมายาวนานเป็นเวลา 20 ปี โดยที่พวกเขาจะยุติปฏิบัติการอย่างเป็นทางการภายในปลายเดือน ส.ค. นี้ โดยที่ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ได้ทยอยถอนทัพออกจากอัฟกานิสถานบ้างแล้วแต่หลังจากการถอนทัพของพวกเขากลุ่มตอลีบันก็เริ่มมีปฏิบัติการรุกคืบไล่ยึดพื้นที่ต่างๆ เพื่อพยายามปิดล้อมหัวเมืองต่างๆ ที่เป็นเมืองหลวงประจำจังหวัดนั้นๆ

ในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา อัชราฟ กานี ประธานาธิบดีอัฟกานิสถานคนปัจจุบันเคยสั่งปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่เพื่อโต้ตอบภัยคุกคามจากตอลีบัน โดยมีการเปลี่ยนตัวทั้งรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายใน, กระทรวงกลาโหม และผู้นำกองทัพ

การถอนทัพของสหรัฐฯ ยังทำให้ประเทศใกล้เคียงกับอัฟกานิสถานกังวลเรื่องเสถียรภาพของประเทศตัวเอง พวกเขาหวั่นเกรงว่าสถานการณ์จะถลำลงสู่สภาพโกลาหลจนทำให้อัฟกานิสถานกลายเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติต่างๆ เพื่อใช้เป็นฐานในการสั่งโจมตีสถานที่อื่นๆ

ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาจีนยังเคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับกรณีระเบิดรถโดยสารในเขตพื้นที่เทือกเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย ในนั้นมีชาวจีนรวมอยู่ด้วย 9 ราย เหตุระเบิดในครั้งนี้ยังเน้นย้ำในเรื่องความเสี่ยงในแง่ความมั่นคงของภูมิภาคในช่วงที่กลุ่มตอลีบันประจำปากีสถาน เทริก-อี-ตอลิบัน เริ่มออกปฏิบัติการมากขึ้น ทั้งนี้จีนยังลงทุนในโครงการ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" มูลค่าหลายพันล้านหยวนในปากีสถานด้วย
 

เรียบเรียงจาก

 

Taliban officials visit China to discuss security after US pulls out, Financial Times, 28-07-2021

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net