COVID-19 ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 21,000+ แนวโน้มตรวจน้อยลง-แพ้วัคซีนรัฐรักษาฟรี

6 ส.ค. 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตประจำวันนี้ (6 ส.ค. 2564) โดยอ้างอิงข้อมูลจากกรมควบคุมโรคพบว่าวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนทั้งสิ้น 21,379 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 21,369 ราย ส่วนอีก 10 รายเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในระหว่างการกักตัวที่สถานกักกันโรคตามมาตรการของรัฐ ในจำนวนผู้ติดเขื้อรายใหม่ทั้งหมดนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่มาจากการตรวจเชิงรุกจำนวน 4,703 ราย มาจากการตรวจแบบหาเชื้อแบบวอล์กอิน 16,812 รายและเป็นการติดเชื้อภายในเรือนจำ 484 ราย รวมผู้ติดเขื้อสะสมนัยตั้งแต่มีการระบาดเมื่อปี 2563 ทั้งสิ้น 714,684 ราย นอกจากนี้ จํานวนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายซึ่งตรวจหาเชื้อโดยใช้ชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) ประจำวันนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 1,444 ราย รวมมีผู้ติเขื้อเข้าข่าย 11,810 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนการตรวจหาเชื้อเฉลี่ยย้อนหลัง 14 วันมีแนวโน้มลดลง

 ในขณะที่ผู้เสียชีวิตรายใหม่ประจำวันนี้อยู่ที่ 191 รายเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 31 รายรวมมีผู้เสียชีวิตสะสมทั้งสิ้น 5854 รายงาน ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วในวันนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 22,172 ราย ผู้ป่วยที่กำลังรักษาอยู่ในปัจจุบันจำนวน 212,926 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล 85,030 ราย ผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลสนามจำนวน 69,435 รายผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ที่บ้านหรือ Home Isolation จำนวน 49,716 รายและอื่นๆ 8,745 ราย 

ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นในวันนี้ทำให้ประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ในอันดับที่ 39 ของโลกจากเมื่อวานนี้ที่อยู่ที่อันดับที่ 40 (อ้างอิงข้อมูลจาก worldometer.info) ส่วนประเทศที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 120,945 ราย เสียชีวิต 599 ราย โดยผู้ที่ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนทำให้หลายรัฐของสหรัฐอเมริกาออกคำสั่งให้บุคลากรทางการแพทย์หรือเจ้าหน้าที่รัฐต้องฉีดวัคซีน พร้อมกันนี้ยังมีการออกกฎให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในพื้นที่ปิด อีกทั้งในบางรัฐ เช่น นิวยอร์กออกคำสั่งให้แสดงบัตรประจำตัวการฉีดวัคซีน (Vaccine Passport) ทุกครั้งหากจะเข้าไปใช้บริการสถานที่สาธารณะที่เป็นพื้นที่ปิดอย่างร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือโรงยิม เป็นต้น

ส่วนประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก คือ อินเดีย โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 45,001 ราย เสียชีวิต 464 ราย ตามมาด้วยอันดับ 3 คือ บราซิล มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 40,054 รายเสียชีวิต 1,086 ราย

ป่วยโควิด-แพ้วัคซีน(รัฐ) เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน รักษาฟรี

เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขลงวันที่ 23 ก.ค. 2564 เกี่ยวกับการกำหนดผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคโควิด-19 ฉบับที่ 2 ระบุให้ผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 และประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการฉีดวัคซีนตามแผนป้องกันและขจัดโรคติดเชื้อโควิด-19 จากภาครัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากเกิดอาการแพ้วัคซีนหรืออาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา ส่วนบุคคลที่ฉีดวัคซีนทางเลือกกับสถานพยาบาลซึ่งเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้รับการฉีดวัคซีนไม่ถือว่าเข้าข่ายรักษาฟรีในเกณฑ์ดังกล่าว

ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการกำหนดผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ฉบับที่ 2 นี้ ได้ยกเลิกข้อความในข้อที่ 3 ของประกาศฉบับเดิม ที่ระบุว่า "ให้ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาลตามมาตรำ 36 แห่งพระราชบัญญัติ สถานพยาบาล พ.ศ.2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559" และเปลี่ยนมาใช้ข้อความใหม่ดังนี้

"ให้ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และบุคคลกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) โดยการฉีดวัคซีนตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมการป้องกันและขจัดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) จากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ไม่รวมถึงวัคซีนทางเลือกที่ให้บริการโดยสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล ซึ่งเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้รับการฉีดวัคซีน เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินซึ่งจาเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาลตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท