สปสช.ลุยตรวจโควิด-19 ด้วยแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK)-เพื่อไทยแนะ รบ.เปิดทางให้เอกชนผลิต 'ฟาวิพิราเวียร์'

สปสช. เผยจุดตรวจคัดกรองโควิดเชิงรุกด้วยแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) เอื้อกลุ่มเสี่ยงเข้าถึงง่าย หากติดเชื้อได้รับยา-เข้าระบบรักษาได้ทันที เร่งขยายเพิ่มคู่สาย 1330 รองรับการติดต่อ พร้อมเชิญชวนคลินิกทั่วประเทศร่วมให้การดูแลผู้ป่วย Home Isolation ด้านโฆษกพรรคเพื่อไทยเสนอรัฐบาลให้เปิดทางแก่เอกชนผลิตยา 'ฟาวิพิราเวียร์' ช่วยลดภาระองค์การเภสัชกรรม แก้ปัญหาขาดแคลนยา 

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ทาง สปสช. ได้ร่วมมือกับคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดจุดคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจ Antigen Test kit (ATK) ในพื้นที่อาคารจอดรถตึก B ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.-3 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากทำให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้าถึงการตรวจได้ง่ายแล้ว หากกรณีพบผลเป็นบวกก็ยังทำให้ผู้ป่วยสามารถลงทะเบียนเข้าระบบการดูแลที่บ้าน (Home Isolation) ได้ทันที และหากมีอาการก็จะมีการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการของผู้ป่วยเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง 

ทั้งนี้ การให้ยาฟาวิพิราเวียร์ จะเก็บไว้ใช้ในการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการชัด และต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการเพียงเล็กน้อยอาจจะเริ่มจากการให้ยาฟ้าทะลายโจร อย่างไรก็ตามกรณีที่มีผลตรวจคัดกรองเป็นลบ ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเชื้อไวรัส เพียงแต่อาจจะมีน้อยและยังตรวจไม่พบ จึงจะมีการแนะนำวิธีปฏิบัติตนให้กับผู้ที่ได้รับการตรวจ

 

ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่า การเข้าระบบ Home Isolation สามารถทำได้ 2 วิธี คือผ่านสายด่วน สปสช. 1330 กด 14 และลงทะเบียนเข้าระบบผ่านเว็บไซต์ https://crmsup.nhso.go.th/ โดยขณะนี้สายด่วน 1330 มีการเพิ่มคู่สายเป็น 2,100 คู่สายต่อวัน จากเดิม 1,600 คู่สาย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยหมุนเวียนตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากในกรณีที่คู่สายเต็ม เบอร์ที่โทรเข้ามาก็จะถูกเข้าคิวไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการติดต่อกลับในภายหลัง 

สำหรับผู้ป่วยในระบบ Home Isolation ขณะนี้มีประมาณ 63,000 ราย นำเข้าระบบแล้วราว 40,000 ราย ส่วนอีกประมาณ 20,000 หมื่นรายนั้นกำลังรอการตอบรับจากคลินิก ซึ่งขณะนี้มีคลินิกที่เข้ามาช่วยดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 206 แห่ง ซึ่งอาจยังไม่เพียงพอ สปสช.จึงเชิญชวนคลินิกเวชกรรมทั่วประเทศสมัครเพื่อเข้าร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19

"คลินิกเวชกรรมใน กทม. มีประมาณ 3,000 แห่ง ถ้าแต่ละแห่งดูแลผู้ป่วย 10 ราย เท่ากับว่าสามารถดูแลผู้ป่วยได้ถึง 3 หมื่นราย หรือถ้าดูแลได้ 20 ราย ก็เท่ากับว่าสามารถดูแลผู้ป่วยได้ถึง 6 หมื่นราย จึงอยากเชิญชวนให้คลินิกมาเข้าร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในระบบ Home Isolation กันมากขึ้น" รองเลขาธิการ สปสช. ระบุ 

ด้าน ศ.ดร.ฉัตรเฉลิม อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากเดิมห้องปฏิบัติการประมาณ 360 แห่งทั่วประเทศ จะใช้วิธี RT-PCR ในการตรวจวินิจฉัยยืนยันผู้ติดเชื้อเพื่อเข้าสู่กระบวนการการรักษา ซึ่งในขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดเปลี่ยนไป ฉะนั้นกระบวนการที่รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หรือ สปสช. นำการตรวจ ATK มาใช้ จึงคิดว่าช่วยตอบโจทย์ในการแยกผู้ติดเชื้อได้เร็ว เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการการดูแลรักษา

นอกจากนี้ นพ.กรกฤช ลิ้มสมมุติ ผู้อำนวยการกองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการประชุมชี้แจงแนวทางการกระจายชุดตรวจโควิด-19 แอนติเจน เทสท์ คิท (ATK) เพื่อแจกประชาชนตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า สำหรับชุดตรวจ ATK ที่จะจัดสรรนั้นมีจำนวน 8.5 ล้านชุด ซึ่งเบื้องต้นได้วางหลักการกระจายคือ สำรองคงคลังเพื่อจัดสรรตามสถานการณ์ จำนวน 1.5 ล้านชุด ส่วนที่เหลือจัดสรรตามสถานการณ์ความรุนแรงของการระบาดในแต่ละพื้นที่และจำนวนประชากร โดยขั้นต่ำในการจัดสรร 40,000 ชุด หากจังหวัดไหนไม่พอก็จะนำส่วนที่สำรองไว้มาจัดสรรเพิ่มเติมตามความจำเป็นและเร่งด่วน หากเป็นไปตามคาดน่าจะสามารถจัดส่งชุดตรวจ ATK ทั้งหมดได้ใน 7 วัน  

ด้าน พญ.กฤติยา ศรีประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงรูปแบบกระจายชุดตรวจ ATK ไปยังหน่วยบริการเพื่อแจกประชาชนว่า องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะกระจายชุดตรวจไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในจังหวัดต่างๆและสำนักอนามัยของ กทม. ตามจำนวนและหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด จากนั้น สสจ.และสำนักอนามัยก็จะกระจายต่อไปยังหน่วยบริการหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในสังกัด

ทั้งนี้ เมื่อหน่วยบริการจะแจกจ่ายชุดตรวจแก่ประชาชน ต้องยืนยันตัวตนก่อนการให้บริการหรือการขอ Authen code พร้อมแนะนำการตรวจ และการแปลผลให้แก่ประชาชนก่อน ซึ่งทางหน่วยบริการจะได้รับการจ่ายชดเชยในอัตรา 10 บาท/ชุด ทั้งนี้ รพ.สต. อาจจัดมุมให้ประชาชนตรวจด้วยตัวเองแล้วให้เจ้าหน้าที่ช่วยแปลผลให้ก็ได้ 

"ข้อแนะนำหลังทราบผลตรวจ ATK กรณีผลตรวจเป็นบวก เราจะแนะนำให้การรักษาแบบดูแลที่บ้าน Home Isolation หรือดูแลที่ชุมชน Community Isolation ซึ่งกรณีจะเข้า Community Isolation แนะนำให้ RT-PCR ก่อน แต่ถ้าผลตรวจเป็นลบ ให้แนะนำวิธีการปฏิบัติตัว และตรวจซ้ำตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข” พญ.กฤติยา กล่าว

เพื่อไทยเสนอรัฐเปิดทางเอกชนผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ เหตุ อภ.ผลิตไม่ทันกับผู้ติดเชื้อทะลุ 20,000 คนต่อวัน

ทีมข่าวพรรคเพื่อไทย รายงานว่า อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีความเป็นห่วงสถานการณ์การการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายจังหวัด เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการเพิ่มขึ้น การกักตัวทำได้ไม่ดีพอ อุปกรณ์ป้องกันเชื้อ ชุดตรวจหาเชื้อด้วยตัวเอง (Antigen test kit) ขาดแคลน และยังไม่สามารถเข้าถึงการเบิกจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ได้ ทำให้ผู้ป่วยสีเขียวกลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. ศึกษาหาแนวทางใช้มาตรการควบคุมการระบาดอย่างเข้มข้นและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งพิจารณากระจายการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ให้เพียงพอต่อความต้องการโดยด่วน ไม่ควรจำกัดการผลิตไว้ที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพียงหน่วยงานเดียว โดยขอความร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ที่มีโรงงานผลิตยาของตัวเอง เข้ามาร่วมระดมกำลังการผลิตซึ่งสามารถทำได้ทันที อย่าปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายลงทั้งที่สามารถวางแผนรับมือได้ เพราะสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสภาเภสัชกรรม ได้ประเมินแล้วว่าหากผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นวันละ 20,000 คน ความจำเป็นของการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์จะอยู่ที่ 30 ล้านเม็ดต่อเดือน ขณะที่กำลังการผลิตของ อภ.ในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 2.5 ล้านเม็ดเท่านั้น

อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย
 

นอกจากนี้ โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังได้แสดงความเสียใจต่อกรณีที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ถูกฆ่าข่มขืนเสียชีวิต ถือเป็นความหละหลวมในการใช้มาตรการของรัฐและซ้ำเติมสถานการณ์การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวให้เลวร้ายลง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ระดมสรรพกำลังทำงานเรื่องนี้โดยต้องเร่งจับกุมผู้กระทำผิดให้เร็วที่สุด ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ นายกฯและ ผอ.ศบค. ต้องออกมาแสดงความเสียใจและรับผิดชอบต่อครอบครัวผู้สูญเสียด้วย เพื่อเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กับประเทศในภาวะที่บ้านเมืองเหลือตัวเลือกในการอยู่รอดเพียงน้อยนิด ก่อนที่คนไทยจะอดตายกันหมด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท