สื่อ CNN ลิกจ้างพนักงาน 3 คน เหตุเพราะเข้าสำนักงานโดยยังไม่ฉีดวัคซีน COVID-19 ทั้งนี้ยังให้พนักงานอาจต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนเพื่อเข้าสำนักงานแทนการใช้ระบบเชื่อใจ ในช่วงที่ COVID-19 ยังคงระบาดต่อเนื่องในสหรัฐฯ

ที่มาภาพประกอบ: Josh Hallett (CC BY 2.0)

เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2564 มีรายงานข่าวว่าสื่อชื่อดังของสหรัฐฯ อย่าง CNN ได้เลิกจ้างพนักงาน 3 คนเนื่องจากเดินทางเข้าสำนักงานโดยยังไม่ได้ฉีดวัคซีน COVID-19 เมื่อสัปดาห์ต้นเดือน ส.ค. 2564

ทั้งนี้มีการเปิดเผยบันทึกที่กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ CNN สื่อสารกับพนักงานว่าทางบริษัทมีนโยบายกำหนดให้พนักงานต้องฉีดวัคซีน COVID-19 เพื่อเข้ามาทำงานในสำนักงานหรือทำงานในพื้นที่กับพนักงานคนอื่น ๆ โดยทุกคนในแผนกข่าว แผนกกีฬา และผู้ทำงานในสตูดิโอที่เข้ามาทำงานจะต้องฉีดวัคซีน 

"เรามีนโยบายที่ชัดเจนมาหลายเดือนแล้ว และไม่ควรจะต้องมีความสับสนใด ๆ อีก" ในบันทึกระบุ

CNN ยังระบุด้วยพนักงานอาจต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนเพื่อเข้าสำนักงานแทนการใช้ระบบเชื่อใจเหมือนเมื่อก่อน และมีการกำหนดให้พนักงานในสำนักงานที่นครลอสแอนเจลิส กรุงวอชิงตัน และนครแอตแลนตา ต้องใส่หน้ากากในที่ทำงาน

ทั้งนี้ CNN จะเลื่อนวันกำหนดกลับเข้าสำนักงานในสหรัฐฯ จากวันที่ 7 ก.ย. 2564 ออกไปเป็นราวกลางเดือน ต.ค. 2564 เหมือนกับบริษัทสื่ออื่น ๆ ในสหรัฐ เนื่องจากมียอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 สูงขึ้นทั่วประเทศ 

อนึ่งในช่วงต้นเดือน ส.ค. 2564 ที่ผ่านมา สหรัฐฯ มียอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่สูงที่สุดในรอบ 6 เดือน ตลอดหลายวันพบว่ามีผู้ติดเชื้อเกินกว่าวันละ 1 แสนคน ณ วันที่ 5 ส.ค. 2564 ตัวเลขเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อในรอบ 7 วันอยู่ที่เกือบ 9.5 หมื่นคน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน 

พื้นที่แพร่ระบาดรุนแรงมีถึง 7 รัฐ ได้แก่ ฟลอริดา เท็กซัส มิสซูรี อาร์คันซอส์ หลุยเซียนา แอละบามา และมิสซิสซิปปี มีตัวเลขรวมกันคิดเป็นครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลทั่วทั้งประเทศ ขณะที่หลายรัฐข้างต้นยังมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำกว่ารัฐอื่น ๆ เวลานี้รัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนจะฉีดวัคซีนกระตุ้นเป็นเข็มที่สามเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งอาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเป็นวันละ 2 แสนคนได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ที่มาเรียบเรียงจาก
CNN fires three employees for returning to work unvaccinated (usatoday.com, 6 August 2021)