COVID-19: 7 ส.ค. 64 ไทยติดเชื้อเพิ่ม 21,838 ราย เสียชีวิต 212 ราย ทำสถิติรายวันสูงสุด

ศบค. รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในไทยผู้ป่วยใหม่ 21,838 ราย (สถิติรายวันสูงสุด) สะสม 736,522 ราย รักษาหาย 21,108 ราย สะสม 517,012 ราย เสียชีวิต 212 ราย (สถิติรายวันสูงสุด) สะสม 6,099 ราย - สปสช.จ่อประสาน ‘ร้านขายยา’ เป็นหน่วยกระจายชุด ATK ให้ประชาชนตรวจโควิดด้วยตนเอง - ศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาล 25 แห่ง ใน กทม. กลับมาฉีดให้ประชาชนอีกครั้ง หลังได้รับการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิดอีก 7.5 แสนโดส 

7 ส.ค. 2564 ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงาน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวม 21,838 คน ผู้ป่วยสะสม 707,659 คน (ตั้งแต่ 1 เม.ย.) หายป่วย 21,108 คน หายป่วยสะสม 489,586 คน (ตั้งแต่ 1 เม.ย.) ผู้ป่วยกำลังรักษา 213,444 คน เสียชีวิต 212 คน ขณะที่ยอดผู้เข้าข่ายติดเชื้อ/ตรวจ Antigen Test Kit (ATK) อยู่ที่ 6,026 คน ยอดสะสม 17,836 คน

สำหรับสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลก เว็บไซต์ worldometers รายงานยอดผู้ติดเชื้อ เมื่อเวลา 08.57 น. มีจำนวน 202,380,346 คน หายป่วยแล้ว 181,882,096 คน และเสียชีวิต 4,290,213 คน ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลกยังเป็น สหรัฐอเมริกาติดเชื้อสะสม 36,447,123 คน รองลงมา อินเดีย 31,894,483 คน และบราซิล 20,108,746 คน

จัดสรร ATK 1.1 ล้านชุด ไปพื้นที่ จ.สีแดงเข้ม แล้ว

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้จัดสรรและกระจายชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ซึ่งรัฐบาลไทยได้รับจากสมาพันธรัฐสวิส จำนวน 1.1 ล้านชุด เพื่อใช้ประโยชน์ตามความเหมาะสมแล้ว

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้กระจายชุดตรวจ ATK ซึ่งได้รับจากสมาพันธรัฐสวิส ตามความจำเป็นเร่งด่วน อย่างทั่วถึง เป็นธรรม ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้จัดสรรไปยังจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ตามจำนวนผู้ป่วยและความเหมาะสมแล้ว ดังนี้

  • กรุงเทพมหานครจำนวน 200,000 ชุด
  • นนทบุรี ปทุมธานี จังหวัดละ 75,000 ชุด
  • พระนครศรีอยุธยา สมุทรสาคร นครปฐม ชลบุรี สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา จังหวัดละ 70,000 ชุด
  • 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา จังหวัดละ 45,000 ชุด 
  • สำรองที่กระทรวงสาธารณสุขจำนวน 150,000 ชุด

โฆษกรัฐบาลเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้รับมอบจากสมาพันธรัฐสวิส และได้แจกจ่ายแล้วนี้ จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้ไทยสามารถควบคุมจำกัดวงของการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของเครื่องช่วยหายใจ จำนวน 102 เครื่อง ที่ได้รับมอบจากสมาพันธรัฐสวิส ในโอกาสเดียวกันนี้ จะได้แจกจ่ายตามความเหมาะสมต่อไป

สปสช.จ่อประสาน ‘ร้านขายยา’ เป็นหน่วยกระจายชุด ATK ให้ประชาชนตรวจโควิดด้วยตนเอง 

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยในที่ประชุมชี้แจงแนวทางการจ่ายชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit (ATK) ให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสำหรับร้านยาแผนปัจจุบันประเภท 1 และ คลินิกพยาบาล เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2564 ตอนหนึ่งว่า คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้มีมติให้ สปสช. ดำเนินการจัดหาชุดตรวจโควิด Antigen test kit (ATK) จำนวน 8.5 ล้านชุด แจกให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ด้วยเอง ในช่วงเดือน ส.ค. - ก.ย. นี้ 

“หลังสิ้นสุดเดือน ก.ย. ก็จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง หากมีความจำเป็นจะต้องซื้อเพิ่ม สปสช. ก็จะดำเนินการ” นพ.จเด็จ กล่าว 

นพ.จเด็จ กล่าวต่อไปว่า คาดว่าสถานการณ์โควิด-19 ในปีงบประมาณหน้าจะยังมีความรุนแรง ฉะนั้นชุดตรวจโควิด ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด จึงเป็นประเด็นสำคัญ โจทย์คือจะทำอย่างไรให้ชุดตรวจเหล่านั้นกระจายถึงมือประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รวดเร็วและกว้างขวางที่สุด เพื่อลดอุปสรรคในการเข้าถึงบริการของประชาชน 

นอกจากนี้ สปสช. ถือโอกาสขอความร่วมมือ ชักชวนร้านขายยาเป็นหน่วยกระจายชุดตรวจโควิด ATK เนื่องจากร้านขายยาทั่วประเทศที่ขึ้นทะเบียนอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน (ขย.1) นั้นมีจำนวนมาก และน่าจะมีบุคลากรที่คอยแนะนำการตรวจให้กับประชาชนได้ ในกรณีตรวจแล้วพบว่าติดเชื้อหรือผลเป็นบวกก็จะขอความร่วมมือให้ร้านขายยาเป็นกลไกในการให้คำแนะนำในการดูแล หรือส่งต่อเข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยวิธี Home isolation (HI) 

ทั้งนี้ บอร์ด สปสช. ยังมีมติมอบให้ สปสช. จัดหายาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์เพิ่มเติม ซึ่งถ้าตามข่าวในขณะนี้จะพบว่าผู้ป่วยโควิดจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงยา ด้วยเหตุที่ว่าหน่วยบริการที่ช่วยดำเนินการอาจจะยังน้อยเกินไป หรือระบบการกระจายยายังไม่มีประสิทธิภาพ  

“อันนี้เป็นแนวคิดต่อเนื่องว่าถ้าประสบความสำเร็จ เราอาจจะขยายไปสู่การเป็นจุดกระจายยาที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยโควิด ถ้าร้านขายยาทั่วประเทศร่วมมือกันก็อาจจะขยายไปสู่การให้ยาผู้ป่วยในบางส่วนได้ หรือถ้าไกลกว่านั้นก็อาจจะขอให้ร้านขายยามาช่วยทำ Home isolation ในบทบาทที่ร้านขายยาสามารถทำได้ แต่ทั้งหมดนี้ขอเริ่มที่ชุดตรวจ ATK ก่อน” นพ.จเด็จ กล่าว  

ด้าน ผศ.รุ่งเพ็ชร สกุลบำรุงศิลป์ ผู้แทนนายกสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะแนะนำคือ สปสช. น่าจะต้องมีรายชื่อ เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน ที่มีรายชื่อร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ประกอบด้วย ชื่อร้าน สถานที่ตั้ง และเบอร์ติดต่อ ส่วนตัวคิดว่าหากมีแอปฯ จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถพูดคุยโดยตรงกับร้านขายยาเพื่อลดการเดินทางของประชาชนกลุ่มเสี่ยง  

นอกจากนี้ เมื่อผู้ป่วยได้รับชุดตรวจ ATK แล้วอาจจะต้องศึกษาวิธีการใช้ผ่านวิดีโอ หรือเอกสารกำกับการใช้งาน ซึ่งอาจจะต้องเฉพาะเจาะจงกับชุดตรวจที่ประชาชนได้ไป เนื่องจากชุดตรวจแต่ละชุดอาจจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน เมื่อผู้ป่วยตรวจเชื้อแล้วก็อาจจะแนะนำให้ส่งเป็นรูป และแจ้งผลการตรวจมาที่ร้านขายยา โดยร้านขายยาก็จะแปลผลและอธิบายเพื่อชี้แจงให้กับผู้ป่วย 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้ป่วยมีผลเป็นบวกและสามารถเข้ารับการรักษาในระบบ Home isolation ร้านขายยาสามารถดูแลให้คำปรึกษา และติดตามอาการ ตรงนี้ก็จะเป็นบริการที่จะสามารถช่วยผู้ป่วยได้ เพราะผู้ป่วยโควิด-19 หลายรายไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อยมากซึ่งก็สามารถดูแลตัวเองได้  

“ตอนนี้มีผู้ป่วยหลายรายที่มีผลเป็นบวก และเภสัชกรเองก็ได้มีการโทร หรือติดตามอาการผ่านไลน์เป็นระยะ ทำให้ผู้ป่วยก็จะสบายใจขึ้น และเข้าใจว่าไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบถ้ายังสามารถดูแลตัวเองได้ ในกรณีที่สะดวกจะกักตัวบ้าน” ผศ.รุ่งเพ็ชร กล่าว  

ศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาล 25 แห่ง ใน กทม. กลับมาฉีดให้ประชาชนอีกครั้ง หลังได้รับการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิดอีก 7.5 แสนโดส 

ศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาล 25 แห่ง ใน กทม. กลับมาฉีดให้ประชาชนอีกครั้ง หลังได้รับการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิดอีก 7.5 แสนโดส หลังจากต้องหยุดการฉีดไปเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2564 เนื่องจากวัคซีนหมด

โดยวัคซีนทั้ง 750,000 โดส จะทยอยเข้ามาทุกสัปดาห์ ซึ่งจะเริ่มฉีดวันนี้เป็นวันแรกจนถึง 10 ส.ค. 2564 นี้ ให้กับผู้ที่เคยลงทะเบียนไว้ในวันที่ 1-8 ก.ค. 2564 จากจำนวนผู้ตกค้างทั้งหมดกว่า 1.5 ล้านคน โดยจะฉีดสัปดาห์ละ 4 วัน คือวันพุธ-วันเสาร์ ศูนย์ฉีดทั้ง 25 แห่งสามารถฉีดให้กับประชาชนได้วันละประมาณ 42,000-50,000 คน

 

ที่มาเรียบเรียงจาก: Thai PBS [1] [2] | สำนักข่าวไทย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท