ทิวากร วิถีตน เดินรณรงค์เมืองขอนแก่นชวนสวมเสื้อด้านหน้าข้อความ "เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว" ด้านหลัง "ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์สิ แล้วเราจะหันกลับมาศรัทธา" ระบุไม่มีการติดตามหรือคุกคามจาก จนท. ส่วนผู้คนที่พบเห็นก็ไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเคืองคุกคาม พร้อมชูไอเดีย “ประชามติจำแลง” ย้ำขับเคลื่อนทางการเมืองที่มีพลังและประสบความสำเร็จต้องได้รับฉันทามติจากประชาชน

11 ส.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.10 น  ทิวากร วิถีตน สวมเสื้อที่สกรีนข้อความคำว่า "เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว" ที่บริเวณหน้าอก และสกรีนข้อความคำว่า "ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์สิ แล้วเราจะหันกลับมาศรัทธา" บริเวณด้านหลังของเสื้อ ได้ทำการเดินรณรงค์จากบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล จังหวัดขอนแก่น ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่น อนุสาวรีย์จอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายนแล้วเดินมาสิ้นสุดที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่น ในเวลาประมาณ 12.40 น. โดยในระหว่างการเดินผ่านสถานที่สำคัญต่างๆในอำเภอเมืองขอนแก่นที่ว่าก่อนก็ได้นำผ่านป้ายพลาสติกเขียนข้อความรณรงค์ทางการเมืองต่างๆอย่างเช่นข้อความว่า

การทำประชามติจำแลง ด้วยการใส่เสื้อ 2 ตัวนี้ "เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว" และ ”เราไม่เคยศรัทธาสถาบันกษัตริย์เลย"  และยังมีป้ายข้อความอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง 

ทิวากรเล่าว่า การเดินในวันนี้เป็นการทำกิจกรรมคนเดียวแบบปกติ ไม่มีการติดตามหรือคุกคามจากเจ้าหน้าที่ ผู้คนที่พบเห็นก็ไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเคืองคุกคาม ก็เฉยเฉย มีคนมาถ่ายภาพเสร็จแล้วก็ไป

“ผมคิดว่าการใส่เสื้อที่มีข้อความเหล่านี้มันไม่ได้คุกคามใครไม่ได้ละเมิดใคร ไม่ถูกดำเนินคดี ทั้ง ม.112 และ  ม.116 หรือกฎหมายอื่นๆ” ทิวากรเล่าถึงเรื่องกิจกรรมเดินรณรงค์ประชามติจำแลง พร้อมเปิดมุมมองว่า การต่อสู้ทางการเมืองโดยการชุมนุมหรือว่าม็อบมีข้อจำกัดไม่สามารถที่จะให้ทุกคนเข้าร่วมได้ ขณะที่การรณรงค์ใส่เสื้อที่มีข้อความขอเรียกร้องทางการเมืองสามารถทำได้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ใหญ่หรือคนแก่

ไอเดียในการทำกิจกรรมรณรงค์ “ประชามติจำแลง” ได้มาจากการพูดคุยกับเพื่อนหลายคนในคลับเฮ้าส์ ในวงคุยเสนอว่าการจะขับเคลื่อนทางการเมืองที่มีพลังและประสบความสำเร็จจะต้องได้รับฉันทามติจากประชาชน การรณรงค์ให้ประชาชนใส่เสื้อที่มีข้อเรียกร้องทางการเมืองเป็นการหาฉันทามติของประชาชน ซึ่งจะเป็นการทำลายอำนาจเผด็จการ ข้อความเหล่านี้มันแรง มีพลัง พวกเขากลัว เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงไม่อุ้มผมเข้าโรงพยาบาลจิตเวชหรอก 

“มีผู้หญิงอายุราวๆ 30 ปี มาหาผมตรงช่วงก่อนที่จะถึง ร.พ.จิตเวช ตอนนั้นผมแวะซื้อน้ำข้างทาง ผู้หญิงคนนี้ก็มาพูดกับผมบอกว่าขอเป็นคนเลี้ยงน้ำผมได้มั้ย เธอตามผมสักพักแล้วแต่ก็เพิ่งจะทัน แล้วก็จะให้เงินผม แต่ผมไม่รับ ผมบอกไปว่ามันเป็นกฏของผมว่าผมต้องไม่รับเงินใคร แล้วเขาก็พูดเสียงสั่นว่า "ขอบคุณนะ ที่มาทำอะไรแบบนี้" แล้วเขาก็น้ำตาคลอและร้องไห้ออกมา” ทิวากร เล่าถึงความประทับใจในระหว่างการเดินรณรงค์

สำหรับทิวากร วิถีตน เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร ฝ่ายปกครอง และจากโรงพยาบาลจิตเวช เข้าจับกุม เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ที่บ้านพักและนำตัวไปบังคับรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชจังหวัดขอนแก่น เป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนได้รับการปล่อยตัว จากการรณรงค์สวมเสื้อสกรีนข้อความว่า 'เราหมดศรัทธา​สถาบันกษัตริย์​แล้ว'​ และโพสต์ภาพลงเฟสบุ๊คของตน โดยที่ในระหว่างถูกควบคุมตัวไว้ที่โรงพยาบาลจิตเวช ได้มีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองนักกิจกรรมทางสังคม องค์กรสิทธิมนุษยชน นักเรียนนิสิตนักศึกษา จำนวนมาก อาทิไผ่ จตุภัทร บุญภัทรรักษา เพนกวิน พริษฐ์ ชีวรักษ์  รณรงค์ให้มีการปล่อยตัวเขาออกมา ต่อมาเมื่อวันที่  4 มีนาคม  2564 ทิวากรถูก เจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 20 คน บุกเข้าทำการจับกุมที่บ้านพักของเขา พร้อมกับแจ้งข้อหาว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112,116 และ พ.ร.บ.คอมฯ จากการโพสต์ข้อความในเฟสบุ๊ค 2 ข้อความ โดยมีเนื้อความเรียกร้องให้สถาบันกษัตริย์ยุติการใช้มาตรา 112 เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และการใส่เสื้อ “เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว”