Skip to main content
sharethis

13 ส.ค. 2564 ศบค. แถลงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,418 คน เสียชีวิต 184 คน คาดการณ์ผู้ติดเชื้อแตะ 4.5 หมื่นคนในเดือน ก.ย. ขณะที่พบอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มผู้ตั้งครรภ์มากถึง 15.68% ส่วนผู้ประอาชีพขนส่งสาธารณะ อัตราการเสียชีวิตสูงถึง 29.46% ส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีน 1 เข็มเท่านั้น

ผู้ติดเชื้อพุ่ง 23,418 คน ตาย 184 คน

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 13 ส.ค. 2564 ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,418 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 23,021 คน ติดเชื้อจากต่างประเทศ 9 คน และติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 388 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสม 863,189 คน และมีกลุ่มเข้าข่ายติดเชื้อจากการตรวจแอนติเจนเทสต์คิต (Antigen Test Kit-ATK) เป็นบวก 1,523 คน

ผู้ป่วยรักษาหาย 20,083 คน กำลังรักษาอยู่ 212,179 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 5,565 คน ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,111 คน ขณะที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 4,855,000 คน คิดเป็นร้อยละ 6.74 ของประชากร เสียชีวิตเพิ่ม 184 คน เสียชีวิตสะสม 7,126 คน

สถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 13 ส.ค. 2564

สถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 13 ส.ค. 2564

โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า มีการรายงานคลัสเตอร์ใหม่ 11 แห่ง ใน จ.สมุทรสาคร, จ.ชลบุรี, จ.นนทบุรี, จ.นครปฐม, จ.ระยอง, จ.สุพรรณบุรี, จ.ประจวบคีรีขันธ์, จ.ตาก, และ จ.จันทบุรี 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยังพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในต่างจังหวัด โดยหลายเคสเป็นการส่งออกผู้ติดเชื้อจากกรุงเทพมหานคร แต่หลายเคสก็เริ่มเป็นการติดเชื้อจากประชาชนในพื้นที่ เช่น ภายในโรงงาน ซึ่งต้องใช้มาตรการบับเบิลแอนด์ซีล (bubble and sealed) หากพบผู้ติดเชื้อจะต้องรีบแยกออกมา ไม่ให้โรคแพร่ไปยังผู้ที่ไม่ติดเชื้อ

คาดการณ์ผู้ติดเชื้ออาจแตะ 4.5 หมื่นคนต่อวันในเดือน ก.ย.

ด้านแนวโน้มการติดเชื้อและเสียชีวิต โฆษก ศบค. กล่าวว่า ผู้ป่วยอายุมากกว่า 50 ปี มีแนวโน้มเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นตามอายุ โดยอายุ 50-59 ปี อัตราการเสียชีวิตร้อยละ 1.47 อายุ 60-69 ปี อัตราเสียชีวิตร้อยละ 4.19 และอายุ 70 ปีขึ้นไป อัตราเสียชีวิตร้อยละ 12.48 ขณะที่อัตราการเสียวิตโดยรวอยู่ที่ร้อยละ 0.84

อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19

อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19

ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์การติดเชื้อ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า หากไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ การติดเชื้ออาจสูงถึง 60,000-70,000 คนต่อวัน ในเดือน ก.ย. หากการล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 20% เช่นในปัจจุบัน การติดเชื้อก็อาจจะยังพุ่งสูงขึ้นราว 45,000 คนต่อวัน ในช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือน ก.ย. แต่หากประชาชนให้ความร่วมมือ การล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเป็น 25% คือ ล็อกดาวน์นาน 2 เดือน และเร่งฉีดวัคซีนผู้สูงอายุและกลุ่มเป้าหมายภายใน 1-2 เดือน จะสามารถควบคุมการติดเชื้อให้อยู่ประมาณ 20,000 คนต่อวัน

ตัวเลขคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวัน

ตัวเลขคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวัน

ด้านการคาดการณ์การเสียชีวิต นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า แนวโน้มการเสียชีวิตในปัจจุบันลดลงมาอยู่ในระดับที่การล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 25% เนื่องจากการระดมฉีดวัคซีน และผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้เร็วขึ้น หากยังรักษาประสิทธิภาพเช่นนี้ไว้ได้ แนวโน้มการเสียชีวิตจะต่ำลง

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์ผู้เสียชีวิตจะสูงขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีการล็อกดาวน์ โดยอาจสูงถึงเกือบ 900 คนต่อวัน ในช่วงต้นเดือน ก.ย. และหากการล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 20% ก็ยังคาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียชีวิตถึง 500 คนต่อวันในช่วงเวลาเดียวกัน

ตัวเลขคาดการณ์ผู้เสียชีวิตต่อวัน

ตัวเลขคาดการณ์ผู้เสียชีวิตต่อวัน

ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในต่างจังหวัดยังพบการรวมกลุ่ม การดื่ม การเล่น การเสพต่างๆ เกิดขึ้นรายวัน แต่การต่อสู้กับโรคระบาดไม่สามารถทำสำเร็จได้ด้วยคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องร่วมมือกันทั้งประเทศ

อัตราการตายในผู้ตั้งครรภ์สูงถึง 15.68% ส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีน

ด้านสถานการณ์การติดเชื้อในกลุ่มผู้ตั้งครรภ์ พบผู้ติดเชื้อ 185 คน คิดเป็นร้อยละ 0.02 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด มีผู้ตั้งครรภ์เสียชีวิต 29 คน คิดเป็นร้อยละ 0.43 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด อัตราการเสียชีวิตของกลุ่มผู้ตั้งครรภ์สูงถึง ร้อยละ 15.68 ค่ากลางอายุของผู้เสียชีวิต คือ 33 ปี โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการสัมผัสกับผู้ป่วย หรืออาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง และมีอายุครรภ์มากกว่า 14 สัปดาห์ ส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตยังไม่ได้รับวัคซีน แต่มีผู้เสียชีวิต 1 รายที่ได้รับวัคซีน 1 เข็ม

รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในกลุ่มผู้ตั้งครรภ์

รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในกลุ่มผู้ตั้งครรภ์

อัตราการตายในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะสูงถึง 29.46%

ด้านสถานการณ์การติดเชื้อในผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ มีผู้ติดเชื้อ 353 คน คิดเป็นร้อยละ 0.05 ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด เสียชีวิต 104 คน คิดเป็นร้อยละ 1.54 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด อัตราการเสียชีวิตในผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะอยู่ที่ร้อยละ 29.46 ซึ่งโฆษก ศบค. กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นปริมาณที่สูงมาก

สถานการณ์โควิด-19 ในกลุ่มผูประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ

สถานการณ์โควิด-19 ในกลุ่มผูประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ

การระบาดในผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะพุ่งสูงในเดือน พ.ค. แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงในเดือน มิ.ย. และ ก.ค. แต่ผู้เสียชีวิตกลับพุ่งสูงมาก ก่อนจะเริ่มลดลงในเดือน ส.ค. โดยค่ากลางอายุผู้เสียชีวิต คือ 58 ปี ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน และมีผู้ได้รับวัคซีน 1 เข็ม เสียชีวิต 3 คน ในจำนวนนี้ 2 คน ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา และ 1 คน ฉีดวัคซีนซิโนแวค อย่างไรก็ตาม ผู้ได้รับวัคซีนแล้วส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง

ประวัติการได้รับวัคซีนในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ

ประวัติการได้รับวัคซีนในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ

เกี่ยวมาตรการผ่อนคลายการล็อกดาวน์ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผอ.ศบค. รับทราบเรื่องแล้ว แต่ปัจจุบันแม้จะป้องกันเข้มที่สุดแล้วก็ยังมีปัญหาอยู่ แต่ก็รับทราบความเดือดร้อน โดยจะประเมินทั้งในภาพรวมและภาพย่อยในที่ประชุม ศบค. บ่ายวันจันทร์ที่ 16 ส.ค. 2564 หากมีข้อสรุปอย่างไรจะแจ้งให้ทราบภายในวันดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net