จเรตำรวจแถลงที่สน.ดินแดง ระบุคนในคลิปที่ยิงปืนจากในสน.ดินแดงเป็นตำรวจจริงแต่ใช้กระสุนยางยิงไป 6 นัด และกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยานเพิ่มเติม The Reporter ได้เจอแม่ของคนที่ถูกยิงท้ายทอยพบว่ายังเป็นเยาวชนอายุ 15
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จเรตำรวจ ปฏิบัติราชการ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
17 ส.ค.2564 13.30 น. The Reporter ไลฟ์การแถลงข่าวของพล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จเรตำรวจ ปฏิบัติราชการ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่สน.ดินแดง แถลงว่าในที่ประชุมของตำรวจนครบาลได้จัดแบ่งหน้าที่สืบสวนเหตุการณ์ที่หน้าสน.ดินแดงเมื่อคืนวานนี้ตอนนี้ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นบางส่วนแต่ก็ยังเก็บไม่หมด
พล.ต.ท.จิรพัฒน์กล่าวถึงกรณีของผู้บาดเจ็บที่เป็นชายอายุ 20ปี เท่าที่เห็นก็พบว่าวิ่งมาจากทางโรงแรมปรินซ์ตันผ่านหน้าโรงพักไปแล้วก็ล้มในจุดที่มีรอยเลือด ซึ่งห่างจากหน้าโรงพักราว 50 เมตร ทั้งนี้ยังไม่ทราบแนววิถีกระสุนเนื่องจากยังรอกองพิสูจน์หลักฐานมาดำเนินการ แต่ทราบเวลาเกิดเหตุว่าเป็นเวลา 20.44 น.
นักข่าวถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดกับชายคนนี้กับภาพคลิปที่ตำรวจยิงออกจากหน้า สน.นั้นสอดคล้องกันอย่างไรหรือไม่ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ตอบคำถามนักข่าวว่ากำลังติดต่อคนที่ถ่ายคลิปไว้มาเพื่อตรวจสอบว่าถ่ายเอาไว้ตอนเวลากี่โมงมาเทียบเวลากันว่าสอดคล้องกับช่วงที่เกิดเหตุหรือไม่ ส่วนผู้ที่ถูกถ่ายได้ในคลิปเป็นตำรวจสน.ดินแดงจริง คือร.ต.ท.ปิยพงศ์ที่ได้รับมอบหมายจากผู้กำกับสน.ดินแดงให้มาอยู่ในตำแหน่งดังกล่าว อาวุธที่ใช้เป็นอาวุธปืนลูกซองที่ใช้กระสุนยางมีการยิงไปทั้งหมด 6 นัด และขณะนี้ผู้กำกับติดต่อกับตำรวจคนดังกล่าวพร้อมนำปืนไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)
นักข่าวถามในการแถลงอีกว่าเหตุการณ์ที่มีคนโดนยิงเป็นช่วงที่ตำรวจเข้ากระชับพื้นที่แล้วหรือไม่ พล.ต.ท. จิรพัฒน์ตอบว่าตอนนั้นตำรวจยังอยู่ที่บริเวณยังอยู่ปากทางเข้าห่างจากจุดที่ชายอายุ 20 ปี โดนยิง ซึ่งจากภาพกล้องของกทม. ก็จะเห็นว่าระยะห่างไกลมาก และเห็นว่าชายคนดังกล่าววิ่งผ่านโรงพักไปแล้วถูกยิงเข้าท้ายทอยจากด้านหลัง กระสุนถูกกระดูกต้นคอแล้วแฉลบไปติดอยู่ใกล้แกนสมอง ตอนนี้แพทย์ที่โรงพยาบาลราชวิถีกำลังผ่าตัด
พล.ต.ท. จิรพัฒน์กล่าวถึงภาพกล้องวงจรปิดที่ถ่ายภาพก่อนเกิดเหตุบริเวณเลยหน้าโรงแรมปรินซ์ตันว่าพบชายสวมเสื้อสีดำซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นชายคนเดียวกับที่ถูกยิงหรือไม่และเท่าที่เห็นจากภาพมีคน 3 คน จักรยานยนต์หนึ่งคัน แต่ว่าพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ชุมชนซึ่งด้านหลังสน.ก็มีเหตุชุลมุนยังไม่แน่ใจว่ามาจากทิศทางไหนบ้าง ยังต้องสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์เพิ่มเติมมาประกอบกับภาพกล้องวงจรปิด
พล.ต.ท. จิรพัฒน์กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อคืนต่อว่าที่หน้าสน.ดินแดงเริ่มมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาเร่งเครื่องจักรยานยนต์ก่อนแล้วตั้งแต่ 2 ทุ่ม มีการขว้างปาสิ่งของลูกแก้วลูกเหล็กเข้ามาใน สน. จนกระทั่ง 20.44 น. ที่มีการพบผู้บาดเจ็บรายนี้ ส่วนที่มีพยานแจ้งว่าเห็นคนยิงที่ซอยข้าง สน.ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไปติดตามดูว่ามีกลุ่มไหนเข้ามาบ้างและให้ไปตรวจสอบที่ต้นซอยว่ากลุ่มที่มาเป็นกลุ่มไหนซึ่งอาจจะทำให้เห็นอีกกลุ่มที่เป็นคู่ขัดแย้งกัน
พล.ต.ท. จิรพัฒน์ยืนยันว่าไม่ได้มีการใช้กระสุนจริงในการปฏิบัติงานและมีคำสั่งห้ามใช้กระสุนจริง ในกรณีแบบนี้ก็จะมีการใช้กระสุนยางเตือน
ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของชายอายุ 20 ปีดังกล่าวพล.ต.ท.จิรพัฒน์ระบุว่าขณะนี้ยังไม่ทราบข้อมูลและยังไม่สามารถติดต่อญาติได้เนื่องจากไม่มีเอกสารส่วนตัวอยู่กับตัว
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเยาวชนอยุ 14 ปี ที่ถูกยิงเมื่อคืนเหมือนกันว่าเท่าที่ทราบเพิ่มเติมตอนนี้คือถูกยิงบาดเจ็บที่หัวไหล่ กระสุนทะลุจากหลังออกมาด้านหน้าตอนนี้ก็ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ แต่ได้เจอกับพ่อของเยาวชนคนนี้แล้วซึ่งพ่อลูกก็ยังไม่ได้คุยมากแล้วตัวเยาวชนก็ยังอยู่ห้องปลอดเชื้อ และยังไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเยาวชนคนนี้เนื่องจากยังไม่สามารถสอบถามกับใครได้รวมถึงเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่นำตัวส่งโรงพยาบาลและไม่ปรากฏภาพของกล้องวงจรปิดจึงไม่ทราบเรื่องเวลาเกิดเหตุ ทราบเพียงว่ารถพยาบาลไปเจอเขาห่างจากสน.ดินแดงราว 500เมตร
ภายหลังการแถลงข่าวของพล.ต.ท.จิรพัฒน์ The Reporter นำไปดูจุดที่พบรอยกระสุนบนกำแพงฝั่งตรงข้ามสน.ดินแดง พบว่าเป็นรูปบนกำแพง 2 จุดด้วยกัน
ไลฟ์ The Reporter รายงานว่าทั้งสองจุดเป็นรอยกระสุนบนกำแพงฝั่งตรงข้ามสน.ดินแดง
คนที่ถูกยิงท้ายทอยยังอายุแค่ 15
ต่อมา 17.00 น. ที่โรงพยาบาลราชวิถี The Reporter ไลฟ์สัมภาษณ์นิภาพร สมน้อยแม่ของชายคนที่ถูกยิงท้ายทอยทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่าชายคนดังกล่าวชื่อวาฤทธิ์ สมน้อยและยังเป็นเพียงเยาวชนอายุ 15 ปีเท่านั้น แม่ของชายคนนี้เล่าว่าตนทราบเรื่องว่าลูกชายโดนยิงตอนเวลาประมาณ 5.30 น.ของเช้าวันนี้(17 ส.ค.64) ก่อนหน้านี้ที่เห็นแต่ข่าวเธอยังไม่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกิดกับลูกของตัวเอง
แม่ของเยาวชนคนนี้เล่าต่อว่าตอนแรกลูกชายบอกกับเธอก่อนออกจากบ้านว่าจะเอาเสื้อไปให้เพื่อนแล้วก็ขอไปชุมนุม เธอก็ขอว่าอย่าไปมันไม่ใช่ของเขาและอันตราย แต่เธอก็ไม่รู้ว่าลูกชายได้ออกไปชุมนุมกับเพื่อนเพราะว่าโทรศัพท์ตามแล้วไม่รับสายและเธอบอกว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ลูกชายไปก่อนหน้านี้ไม่เคยออกไปชุมนุม
ส่วนอาการล่าสุดของเยาวชนอายุ 15 ปีคนนี้ นิภาพรกล่าวในไลฟ์ต่อว่าหมอให้รอดูอาการ 72 ชั่วโมงและขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว