สภาฯ เห็นชอบงบประมาณปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท

ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติ 257 ต่อ 189 งดออกเสียง 4 ไม่ลงคะแนน 1 ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท และตั้งงบกลาง 587,409 ล้านบาท เตรียมส่งให้วุฒิสภาให้ความเห็นชอบ นัดประชุมวันที่ 30 ส.ค.นี้ - 'เพื่อไทย' มีมติไม่รับร่างงบประมาณ เหตุไม่ไว้วางใจ 'ประยุทธ์' ชี้จัดสรรล้มเหลว ไม่ตอบโจทย์แก้วิกฤตประเทศ

Thai PBS รายงานว่าเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2564 เวลา 01.12 น. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติ 257 ต่อ 189 งดออกเสียง 4 ไม่ลงคะแนน 1 ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท และตั้งงบกลาง 587,409 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมาธิการเสียงข้างมากกำหนดไว้ หลังสภาใช้เวลากว่า 4 วันในการอภิปรายให้ข้อสังเกต ต่อการใช้งบประมาณ ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ส่งให้วุฒิสภาให้ความเห็นชอบโดยไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 20 วัน ซึ่งนัดประชุมวันที่ 30 ส.ค.นี้จากนั้นจะส่งให้คณะรัฐมนตรีนำร่างกฏหมายขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ประกาศบังคับใช้ต่อไป

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ในนามรัฐบาลกล่าวขอบคุณออกสภาผู้แทนราษฎร ที่ให้ความเห็นชอบร่างกฏหมายงบประมาณปี 2565 ทุกข้อเสนอแนะข้อแนะนำและความคิดเห็นรวมถึงความห่วงใยของสมาชิกประชุมที่อภิปรายไว้ รัฐบาลจะนำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานของหน่วยงานรับงบประมาณเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินอย่างมีประสิทธิภาพและเพียงพอต่อการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน

พร้อมกันนี้กล่าวขอบคุณคณะกรรมาธิการวิสามัญ ให้ความร่วมมือในการพิจารณาร่างกฏหมายฉบับนี้อย่างเต็มที่จนสำเร็จลุล่วง และข้อสังเกตของกรรมาธิการวิสามัญอันจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยรัฐบาลจะนำไปพิจารณาประกอบการดำเนินงานเพื่อให้การจัดสรรทรัพยากรมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด

ขอให้มั่นใจว่านโยบายมาตรการและงบประมาณที่ได้รับอนุมัติจะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์และแผนงานที่กำหนดและกำกับดูแลให้การใช้ งบประมาณเกิดความโปร่งใส และบรรลุผลสำเร็จตามนโยบายที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ประเทศมั่นคงประชาชนมั่งคั่งอย่างยังยืนของตามความมุ่งหวังของรัฐบาลและสภาแห่งนี้

ก่อนหน้านี้ช่วงหนึ่ง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่เห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมาก ที่ตัดลดงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและนำไปไว้ในงบกลางภายใต้อำนาจการเบิกจ่ายโดยนายกรัฐมนตรีด้วยไม่ไว้วางใจในการใช้เงิน ซึ่งนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นชี้แจงในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างมากว่าการปรับลด ใช้หลักเกณฑ์งบประมาณในส่วนที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันในปี 2565 ของแต่ละหน่วยงานโดยรวมกว่า 16,300 ล้านบาทและด้วยสถานการณ์ COVID-19 กรรมาธิการจึงมีมติให้โอนงบไปไว้ในงบกลาง

ทั้งนี้นายชวน หลีกภัย ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกสภาฯที่อยู่ร่วมการประชุม และสั่งปิดการประชุมในเวลา 01.21 น. วันที่ 22 ส.ค. 2564 รวมใช้เวลาการพิจารณาตลอดทั้ง 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-22 ส.ค. นานกว่า 52 ชั่วโมง

'เพื่อไทย' มีมติไม่รับร่างงบประมาณ เหตุไม่ไว้วางใจ 'ประยุทธ์' ชี้จัดสรรล้มเหลว ไม่ตอบโจทย์แก้วิกฤตประเทศ

เว็บไซต์พรรคเพื่อไทย รายงานว่านายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสภาพิจารณาผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 ว่าตลอดการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฉบับนี้นับตั้งแต่วาระ1ถึงวาระ3 ส.ส.พรรคเพื่อไทย และกรรมาธิการงบประมาณของพรรคเพื่อไทยทุกคน ได้พยายามตรวจสอบการออกแบบงบประมาณโดยละเอียด เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และวิกฤตในขณะนี้ของประเทศชาติ แต่ผลปรากฏว่า การจัดสรรงบประมาณฉบับนี้กลับไม่ตอบโจทย์ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

หากคำนึงถึงวิกฤตโควิด-19 ที่พี่น้องประชาชนทุกคนได้รับผลกระทบในทุกหย่อมหญ้าขณะนี้ รัฐบาลควรจะออกแบบและจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม รวดเร็ว และทันการณ์ ต่อการแก้ไขปัญหาและเยียวยาพี่น้องประชาชนจากผลกระทบต่างๆ ให้มากที่สุด แต่สิ่งที่รัฐบาลมอบให้ประชาชนกลับเป็นแนวทางที่ผิดทิศผิดทาง และไร้แนวทางในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศชาติ ประกอบกับมาตรการบังคับต่างๆ เพื่อควบคุมโรคระบาดของรัฐบาลที่ออกมา ยิ่งส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น และยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้คนต้องหยุดงาน ว่างงาน ขาดรายได้ กิจการห้างร้านต่างๆ ต้องหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซ้ำร้ายอาจถึงขั้นต้องปิดกิจการ เลิกกิจการ เนื่องจากแบกรับผลกระทบจากคำสั่งของภาครัฐไม่ไหวอีกต่อไป 

นอกจากนี้นายประเสริฐยังกล่าวอีกด้วยว่าปัญหาสำคัญของพี่น้องชาวเกษตรกร ซึ่งถือเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศที่กำลังเดือดร้อนจากปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำอย่างต่อเนื่องมาตลอด 7 ปีของการบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์  ไม่ว่าจะเป็นราคาข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์ม  ยางพารา ลำไย มังคุด ลองกอง และพืชผักผลไม้ต่างๆ ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาขณะนี้กลับละทิ้งพี่น้องชาวเกษตรกร และไม่มีความชัดเจนในการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอีกด้วย  

“สิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลเคยหาเสียงเอาไว้กับพี่น้องประชาชนเมื่อตอนเลือกตั้งปี 2562 ว่าจะดำเนินนโยบายเพิ่มราคาสินค้าเกษตรและยกระดับพืชผลเศรษฐกิจให้สามารถแข่งขันได้ ทุกวันนี้ยังไม่มีผลงานอะไรมายืนยันได้ว่า รัฐบาลออกแบบงบประมาณตามนโยบายที่เคยให้สัญญาประชาคมเอาไว้กับพี่น้องประชาชนเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน การจัดสรรงบประมาณยังเป็นลักษณะระบบราชการแบบเดิม เช่น การจัดซื้อครุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็น การซ่อมแซมอาคารสำนักงาน หรือ การจัดฝึกอบรมที่ฟุ่มเฟือยไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดนั้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาปัจจุบันที่กำลังคุกคามพี่น้องประชาชนอยู่ในขณะนี้” ประเสริฐ กล่าว 

นายประเสริฐกล่าวว่า ปัญหาหลักที่ส่งผลให้ร่างงบประมาณฉบับนี้มีปัญหานั้น มาจากรัฐบาลที่ไร้ประสิทธภาพ บริหารประเทศผิดพลาด ไม่มีความรู้ความสามารถ และไม่มีความเข้าอกเข้าใจความทุกข์ร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง จนส่งผลให้การจัดสรรงบประมาณไม่มีประสิทธิภาพและไม่สอดคล้องต่อความต้องการของประชาชน ซ้ำร้ายหลายโครงการยังส่อว่าอาจก่อให้เกิดการทุจริตแอบแฝงการเอื้อประโยชน์พวกพ้องและการหาประโยชน์ทางการเมืองจากงบประมาณ หากปล่อยให้ผ่านไปอาจสร้างภาระหนี้สินซ้ำเติมประเทศชาติและประชาชน   

ด้วยเหตุนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจึงมีมติไม่รับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 ฉบับนี้ เพื่อยืนยันแนวทาง ‘ไม่รับร่างงบประมาณ ไม่ไว้วางใจประยุทธ์’ และสืบเจตนารมณ์มุ่งมั่นจะรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้งต่อไป 

“พรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับการจัดสรรงบประมาณที่ล้มเหลวจากรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หากมีการนำเงินงบประมาณมาใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควร พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพื่อให้มีการใช้เม็ดเงินอย่างคุ้มค่า และป้องกันไม่ให้เกิดการคอรัปชั่น และไม่ไว้วางใจให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศชาติให้ล้มเหลว ซ้ำซากอยู่ในตำแหน่งได้อีกต่อไป และขอเรียกร้อง พลเอกประยุทธ์ ให้เห็นแก่ชีวิตความเป็นอยู่และลมหายใจของพี่น้องประชาชน ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากความผิดพลาดของรัฐบาล โปรดจงพิจารณาตัวเอง และเปิดทางให้ผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาแก้ไขวิกฤตประเทศโดยเร็ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป และเลวร้ายเกินกว่าจะแก้ไข” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ทิ้งท้าย 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท