Skip to main content
sharethis

ถึงแม้ว่า 'แมนนี ปาเกียว' จะพ่ายแพ้ในการขึ้นชกกับนักมวยคิวบาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เส้นทางการเมืองของเขาก็น่าจับตามอง จนถึงขั้นอาจจะได้เป็นผู้แทนลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็น "มวยรอง" เมื่อต้องพบกับฝ่ายสนับสนุน รอดริโก ดูเตอร์เต ที่ดูเจนสนามในเรื่องการเล่นกับ "การเมืองบุคลิกภาพตัวตน"

แสตมป์แมนนี ปาเกียว เมื่อ ค.ศ. 2015 (ที่มา: Wikipedia/Philippine Postal Corporation)

แมนนี ปาเกียว แชมป์มวยโลก 8 สมัยและ ส.ว.ฟิลิปปินส์ ขึ้นสังเวียนปะทะกับนักชกจากคิวบา ยอร์เดนนิส อูกัส ในศึกที่มีการเดิมพันสูงเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยที่จบด้วยด้วยความพ่ายแพ้ของปาเกียว ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะนับเป็นการทำลายความหวังของปาเกียวที่อยากจะขึ้นชกชนะให้ได้ก่อนจะตัดสินใจลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่หรือไม่

ในขณะที่แมนนี ปาเกียว อายุ 42 ปี เน้นโฟกัสที่เรื่องการเมืองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เขาได้ขึ้นชิงแชมป์มวยรุ่นเวลเทอร์เวทเพื่อย้ำเตือนให้ผู้คนฟิลิปปินส์เห็นถึงเรื่องราวของชีวิตตัวเองที่เปรียบเหมือน "จากยาจกสู่เศรษฐี" ซึ่งสามารถจับใจผู้คนในฟิลิปปินส์และได้รับคะแนนเสียงจากพวกเขาในช่วงที่ปาเกียวยังคงเป็นดาวรุ่งในทางการกีฬา

โฆษกของปาเกียวบอกว่าการขึ้นชกครั้งล่าสุดนี้ "เป็นแค่โบนัส" และบอกว่าถ้าเขาเอาชนะอูกัสได้ก็ขะกลายเป็นสิ่งที่บันดาลใจได้ผู้คนสนับสนุนเขามากขึ้น กับการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึงในเดือน พ.ค. 2565 ซึ่งเปรียบเหมือนเป็น "การขึ้นสังเวียน" ครั้งที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของปาเกียว ถึงแม้ว่าปาเกียวจะยังไม่ได้เปิดปากบอกด้วยตนเอง แต่ดูเหมือนว่าผู้คนจะทราบเรื่องที่ปาเกียวอยากลงชิงชัยในตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์ซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งคนปัจจุบันคือ รอดริโก ดูเตอร์เต

โฆษกของปาเกียวก็กล่าวยืนยันในเรื่องนี้ว่าปาเกียวพูดกับทุกคนว่าเขาจะลงสมัครเลือกตั้งในปีหน้า อย่างไรก็ตามการแพ้คะแนนในการขึ้นชกล่าสุดจะมีผลอะไรกับการตัดสินใจของปาเกียวหรือไม่ก็ยังไม่มีรายงานในเรื่องนี้

 

เมื่อดูเตอร์เตเลิกหนุนปาเกียว

หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อแชมป์โลกแมนนี ปาเกียว ย่านหัวลำโพง ที่มี 'เพชรพลอย โพพิธิ' วัย 54 ปี ชาว จ.มหาสารคาม ผู้เป็นเจ้าของร้านและเป็นแฟนคลับตัวยงของปาเกียว ล่าสุดในการให้สัมภาษณ์ smmsport เขาสนับสนุนให้ปาเกียวยุติเส้นทางสังเวียนมวย มุ่งหน้าเส้นทางชิงตำแหน่งประธานาธิบดี (ที่มา: แฟ้มภาพ/Wong Nai/ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อแชมป์โลกแมนนี่ ปาเกียว)

ในแง่ของการเมืองฟิลิปปินส์ มีการวิเคราะห์ไว้ว่าถึงแม้ปาเกียวเคยดูมีแต้มต่อในการขึ้นสังเวียนชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จากการที่เขาได้รับการหนุนหลังจากดูเตอร์เตในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ทว่าในปัจจุบันดูเตอร์เตกลับแสดงท่าทีจะหนุนหลังลูกสาวของตัวเองแทนเพื่อหลบเลี่ยงปัญหาที่เขาอาจจะต้องเผชิญหลังลงจากตำแหน่งไปแล้ว

ดูเตอร์เตผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแค่เทอมเดียวในช่วงเวลา 6 ปี ก็เสี่ยงต่อการเผชิญกับปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อองที่ศาลอาญาระหว่างประเทศมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาจจะออกหมายจับเขาได้ กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ ก็ต่อต้านการใช้วาจากระตุ้นความรุนแรงของเขาใน "สงครามยาเสพติด" และอาจจะมีการยื่นฟ้องร้องต่อศาลในประเทศถ้าหากเขาสูญเสียการคุ้มกันทางกฎหมายไปแล้ว

นั่นทำให้แทนที่ดูเตอร์เตอาจจะสนับสนุนปาเกียว เขาอาจจะวิ่งเต้นให้คนในครอบครัวอย่างลูกสาวของตัวเองได้เป็นประธานาธิบดีแทนและให้ตัวเองดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ซึ่งอาจจะทำให้เขาเสี่ยงต่อการต้องโทษจากคดีที่ก่อไว้น้อยลง

มีการเคลื่อนไหวภายในพรรคการเมืองที่แสดงให้เห็นว่าดูเตอร์เตเริ่มส่งสัญญาณผลักดันลูกสาวของตัวเอง ซารา ดูเตอร์เต ให้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อมาตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งปาเกียวคัดค้านในเรื่องนี้เนื่องจากซาราไม่ได้เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองพีดีพี-ลาบาน ที่พวกเขาสังกัดอยู่ แต่ในตอนนั้นปาเกียวให้สัมภาษณ์ว่า "ควรให้โอกาสคนอื่นบ้าง" โดยยังไม่ได้พูดถึงว่าตัวเองจะอยากลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วย

นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าพรรคพีดีพี-ลาบานจะกำลังร่วมมือกับดูเตอร์เตในการสกัดกั้นปาเกียวไม่ให้ลงชิงตำแหน่ง จากที่มีกลุ่มคนในพรรคซึ่งจงรักภักดีต่อดูเตอร์เตประชุมกันแล้วประกาศว่าพรรคในตอนนี้ไม่มีหัวหน้าพรรค การประชุมนี้มีขึ้นในช่วงที่ปาเกียวกำลังเก็บตัวฝึกซ้อมชกมวยนัดที่ผ่านมา ปาเกียวประกาศว่าการประชุมพรรคที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นเป็นโมฆะ ทำให้พรรคแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ว่าใครกันแน่ระหว่างดูเตอร์เตกับปาเกียวที่เป็นผู้สืบทอดพรรค

รอน มุนซาแยก ผู้อำนวยการบริหารพรรคพีดีพี-ลาบานผู้ที่ภักดีต่อปาเกียวบอกว่าฝ่ายดูเตอร์เตแค่แสดงอำนาจข่มด้วยการจัดประชุมกันในโรงแรมหรู แต่ฝ่ายของพวกเขามากกว่า 100 คน พบปะกับคนทั่วประเทศ บ้างก็ตามถนน บ้างก็ใต้ร่มไม้ บ้างก็ก็ลานเล็กของอาคาร สิ่งนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าสมาชิกระดับรากหญ้าของพีดีพี-ลาบานยังคงมีอยู่และเคลื่อนไหวอยู่ คนกลุ่มนี้ต้องการให้เสียงของพวกเขาเป็นที่รับรู้ และผู้ที่ขะช่วยเป็นปากเสียงให้พวกเขาคือปาเกียว

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าปาเกียวจะสูญเสียการได้รับเสียงสนับสนุนจากดูเตอร์เตในการเลือกตั้งครั้งถัดไปๆ แล้ว และเรื่องนี้อาจจะกลายเป็นอุปสรรคสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งของเขาได้

ปาเกียวแก้เกมแบบ 'มวยรอง'

วุฒิสมาชิกแมนนี ปาเกียว ในฐานะกรรมาธิการกิจการกีฬา แฟ้มภาพเมื่อ ค.ศ. 2016 (ที่มา: Wikipedia/Romeo Bugante)

ขณะเดียวกันปาเกียวก็ดูจะไม่กังวลในเรื่องนี้เพราะเขาชินกับการเป็น "มวยรอง" แล้ว ปาเกียวเคยโต้ตอบเรื่องที่ดูเตอร์เตด่าเขาว่า "โง่" ในประเด็นของประเทศฟิลิปปินส์ไว้ว่าดูเตอร์เตประเมินเขาต่ำเกินไป อีกทั้งการด่าทอของดูเตอร์เตเริ่มมาจากการที่เขารู้สึกขุ่นเคืองจากการที่ปาเกียววิจารณ์เรื่องนโยบายของเขาเกี่ยวกับข้อพิพาททะเลจีนใต้และเรื่องข้อกล่าวหาทุจริตคอร์รัปชันในรัฐบาลดูเตอร์เตเอง

ในวิดีโอคอลที่เขาส่งถึงคนในพรรคพีดีพี-ลาบานที่อยู่ข้างเขานั้นปาเกียวบอกว่ากลุ่มผู้สนับสนุนดูเตอร์เตประเมินเขาต่ำเกินไป ถึงแม้จะไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่แต่ปาเกียวก็มองว่าแบบนี้ก็อาจจะดีเหมือนกันเพราะในชีวิตเขาถูกดูแคลนและประเมินต่ำกว่าเป็นความจริงมาตั้งนานแล้ว แต่การที่เขา "ต่อสู้ด้วยใจที่มุ่งมั่น" และ "ทำงานหนัก" ก็ทำให้เขา "มีฝันที่เป็นจริงได้" ปาเกียวบอกว่าการต่อสู้ของเขาเพื่อพรรคพีดีพี-ลาบานนั้นก็เป็นไป "เพื่อคนตัวเล็กตัวน้อย"

ปาเกียวเป็นคนที่เกิดมาในพื้นเพยากจน เขาต้องออกจากโรงเรียนและไม่มีลักษณะของนักการเมืองตามแบบฉบับประเพณีนิยมที่ต้องมีสถานะดูหรูหรา มีนักวิจารณ์บางคนที่อ้างเรื่องการขาดการศึกษาในระบบของปาเกียวว่าเขาขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งในรัฐบาล

สิ่งที่น่าสังเกตคือวาทกรรมเรื่องเล่าจำพวก คนตัวเล็กๆ ที่ดิ้นรนจนประสบความสำเร็จนั้นเป็นวาทกรรมแบบเดียวกับที่ดูเตอร์เต นักการเมืองอำนาจนิยมของฟิลิปปินส์ใช้ โดยที่ดูเตอร์เตเคยใช้วาทกรรมในเรื่องที่ว่าเขาเป็นเหมือนตัวแทนของคนจนที่มีความเจ็บแค้นร่วมกันที่พร้อมจะต่อต้านกลุ่มที่ดูเตอร์อ้างว่าเป็น "ชนนั้นนำฝังราก" ทางการเมือง ซึ่งเป็นวาทกรรมที่ทำให้ดูเตอร์เตชนะการเลือกตั้ง มีการตั้งข้อสังเกตอีกว่าทั้งดูเตอร์เตและปาเกียวต่างก็มาจากท้องถิ่นมินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์เช่นกัน ซึ่งทำให้ทั้งคู่เป็นคนที่มีสำเนียงท่าทางแตกต่างจากชนชั้นนำ

แต่สิ่งที่ปาเกียวต่างออกไปจากดูเตอร์เตคือ ดูเตอร์เตนั้นจริงๆ แล้วมาจากครอบครัวทนายความชนชั้นกลาง อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีดาเวามาเป็นเวลา 20 ปี แต่ปาเกียวเป็นคนที่ดิ้นรนออกจากความยากจนอย่างแท้จริงผ่านอาชีพชกมวย

ดูเตอร์เต พยายามสร้างภาพให้ตัวเองดูเหมือน "คนมีชีวิตสมถะ" ด้วยการแชร์รูปบ้านที่ดูฐานะกลางๆ ในดาเวา เดินไปไหนมาไหนด้วยรองเท้าเปื่อยๆ พูดจาด้วยภาษาหยาบคาย แต่เขากลับไม่ยอมเปิดเผยบัญชีธนาคารของตัวเองและไม่ยอมเปิดเผยรายการสินทรัพย์ของตัวเองซึ่งถือเป็นความโปร่งใสที่เป็นข้อบังคับที่คนทำงานรัฐบาลฟิลิปปินส์ทุกคนต้องทำ แต่ดูเตอร์เตไม่ยอมเปิดเผยเรื่องเหล่านี้เพื่อแก้ข้อกล่าวหาเรื่องความร่ำรวยจากวิธีการที่ผิดแต่อย่างใด

ขณะที่ปาเกียวและครอบครัวมีความภาคภูมิใจในทรัพย์สินที่ได้มาจากอาชีพชกมวยของตัวเอง ภรรยาของเขาอาจจะก่อดราม่าไว้บ้างจากการโพสต์กระเป่าแบรนด์เนมของดีไซเนอร์ แต่ปาเกียวก็มีชื่อเสียงจากการที่เขาเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในความมั่งคั่งของตัวเอง นักวิเคราะห์การเมือง คลาริตา คาร์ลอส กล่าวว่าปาเกียวมีชื่อเสียงในเรื่องที่เขาเป็นคนมีน้ำใจและชอบช่วยเหลือคนอื่น

แต่การเมืองฟิลิปปินส์ในตอนนี้ก็เต็มไปด้วยการเล่นวาทกรรมการเล่าเกี่ยวกับบุคลิกตัวตนของบุคคลซึ่งนักการเมืองส่วนใหญ่เล่นกับตรงนี้ได้อย่างช่ำชองสนามมากกว่าปาเกียว ซึ่งคาร์ลอสก็เห็นด้วยว่าเรื่องนี้จะทำให้การหาเสียงของปาเกียวเป็นไปอย่างยากลำบาก

ทั้งนี้ยังมีเรื่องที่อาจจะกลายเป็นอุปสรรคเพิ่มเติมสำหรับปาเกียวซึ่งมาจากการที่เขาเคยร่วมมือกับดูเตอร์เตในบางเรื่อง เช่นเรื่องกรณีสงครามยาเสพติดที่ถูกมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างหนัก ทำให้มีคนเสียชีวิตมากถึง 30,000 ราย รวมถึงปาเกียวยังเคยหลักดันให้นำโทษประหารกลับมาใช้อีกครั้งในฟิลิปปินส์ตามคำสั่งของดูเตอร์เต ในขณะที่ปัจจุบันดูเตอร์เตกำลังเผชิญกับแรงกดดันทั้งจากการสืบสวนของศาลอาญาระหว่างประเทศและเรื่องการวิจารณ์การจัดการผิดพลาดเกี่ยวกับ COVID-19

อันโตนิโอ อันโตก็อป จูเนียร์ อดีตผู้หาเสียงให้ดูเตอร์เตและปัจจุบันเป็นผู้นำผลักดันให้ปาเกียวลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกล่าวว่าดูเตอร์เตในตอนนี้กำลังดิ้นรนเอาตัวรอด ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะมองดูเตอร์เตว่าเป็นคนแบบเดียวกับพวกเขาที่ "เป็นคนธรรมดาทั่วไปในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ" แต่ดูเตอร์เตก็ล้มเหลวอย่างน่าเศร้าในสายตาของพวกเขาทำให้กลุ่มผู้ที่เคยสนับสนุนดูเตอร์เตที่เล็งเห็นในเรื่องนี้หันไปสนับสนุนปาเกียว

แม้กระทั่งนักการเมืองรุ่นเฮฟวีเวทก็ยังดูจะสนับสนุนปาเกียว จากที่เมื่อไม่นานนี้รองประธานาธิบดี เลนี โรเบรโด จากพรรคฝ่ายค้านพรรคเสรีนิยมกล่าวว่าเธอกำลังพูดคุยหารือ "เชิงสำรวจ" กับกลุ่มของปาเกียว ซึ่งฝ่ายค้านมองว่าปาเกียวอาจจะเป็นผู้นำที่ตีตลาดได้

ในขณะเดียวกันฝ่ายสนับสนุนดูเตอร์เตประกาศว่าจะหันมาสนับสนุน ส.ว. บอง โก (Christopher Lawrence "Bong" Tesoro Go)         ซึ่งเป็นผู้ช่วยและคนใกล้ชิดของดูเตอร์เตเป็นผู้แทนลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะโกถูกนับเป็นสมาชิกของพรรคด้วยต่างจากกรณีของซาราที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค แต่ผลโพลก็ระบุว่าโกยังมีคะแนนนิยมน้อยกว่าซารา

อย่างไรก็ตาม ท่ากลางการขับเคี่ยวทางการเมืองโดยอาศัยบุคลิกตัวตนเป็นเครื่องชี้วัดเช่นนี้ทำให้นักวิเคราะห์อย่างคาร์ลอสรู้สึกเศร้าใจ ที่มันสะท้อนว่าการเมืองฟิลิปปินส์เป็นแต่เรื่องของพรรคการเมืองต่างๆ อาศัยการสร้างตัวละครตามบุคลิกเรื่องเล่าต่างๆ ของตัวบุคคลแทนที่จะเน้นในเรื่องหลักการหรือนโยบาย แม้กระทั่งปาเกียวก็พูดหาเสียงแบบให้สัญญาทั่วๆ ไปเหมือนกับที่ดูเตอร์เตและประธานาธิบดีคนอื่นๆ เคยทำมาก่อนหน้าเขา

"น่าเศร้าที่พวกเรามองเห็นแต่ใบหน้า แต่พวกเราไม่ได้เห็นเรื่องโครงการของรัฐบาล ในฐานะประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง เราอยากจะรู้ว่าผู้แทนฯ พูดว่าจะทำอะไรเกี่ยวกับปัญหาโรคระบาดครั้งถัดไป และจะทำอะไรกับสภาพระบบการศึกษาที่ย่ำแย่ของประเทศ เช่นนี้เป็นต้น" คาร์ลอสกล่าว

 

เรียบเรียงจาก

Pacquiao eyes Philippine presidency as he fights for boxing crown, Aljazeera, 21-08-2021

Manny Pacquiao says he didn’t adjust early enough during loss to Yordenis Ugás, Los Angeles Times, 21-08-2021

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net