Skip to main content
sharethis

ผิดหวังผลโหวตไม่ยึดโยงความรู้สึกประชาชน 'พิธา' ชี้ 'ประยุทธ์' ได้คะแนนไม่ไว้วางใจรองบ๊วย สะท้อนปัญหาภาวะผู้นำ แนะ 'ยุบสภา' คือทางออกที่ดีที่สุด

4 ก.ย. 2564 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่าที่อาคารรัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทีม ส.ส. เเถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังผลมติการไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเสร็จสิ้นลง 

พิธา กล่าวว่า จนถึงเวลานี้ตนคิดว่าทุกท่านคงจะเห็นถึงผลการลงมติ สำหรับพรรคก้าวไกล ผิดหวังกับผลการลงมติที่ออกมา เสียดายกับระบบรัฐสภาของเราไม่ยึดโยงความเป็นจริงบนท้องถนนและความทุกข์ยากที่พี่น้องประชาชนต้องประสบอยู่  เสียดายโอกาสถอดสลักเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนที่เผชิญ สำหรับผลที่ออกมาถ้าทุกคนดูตัวเลข จะเห็นว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับเสียงไว้วางใจรองบ๊วย ในทางกลับกันนับเสียงที่ไม่ไว้วางใจนี่คือตัวเลขที่สูงที่สุด ประกอบกับความวุ่นวายในสภาที่เกิดขึ้น 2-3 วันที่ผ่านมา ในเรื่องของความชอบธรรมและเรื่องภาวะผู้นำคิดว่าตอนนี้มีปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองที่ไม่แน่นอน และมีโอกาสนำไปสู่การยุบสภาได้ในเร็ววันนี้  ในประวัติศาสตร์การเมืองเห็นได้จาก คณิตศาสตร์การเมือง ความชอบธรรมของรัฐบาลที่สะท้อนออกมาในช่วงเวลาไม่กี่วัน ไม่กี่อาทิตย์หลังจากที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีประวัติศาสตร์ที่สามารถบอกพวกเราได้อยู่

“การทำงานต่อไปของพรรคก้าวไกล หากทุกท่านจำได้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาหลังจากอภิปรายในครั้งเเรก เมื่อเรากรีดแผลผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว เราก็จะมียุทธการโรยเกลือในวาระที่ 2  มี อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ยื่นกรมสรรพากรให้ตรวจสอบการเสียภาษีของบ้านพักพลเอกประยุทธ์  ,พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ เกี่ยวกับรถบัสของกองทัพบก เเละธีรัจชัย พันธุมาศ ได้ยื่นต่อองค์กรอิสระเรียบร้อยเเล้ว ในคราวนี้ข้อมูลอภิปรายของส.ส.ทั้ง 10 คน จะนำไปทำงานต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องสัมปทานจำเเลงของรังสิมันต์ โรม เเละการสอดเเนมของพี่น้องประชาชน หรือเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนของ วาโย อัศวรุ่งเรือง , วิโรจน์ ลักขณาอดิศร เเละผมเองที่ได้อภิปราย โดยเราจะเดินหน้าทำงานต่อเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน " พิธา กล่าว 

พิธา กล่าวต่อไปว่า การอภิปรายไม่ไว้วางรัฐบาลครั้งนี้ อาจจะไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่ได้คาดหวังไว้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดและมีประโยชน์มาก คือการควบคุมวาระสังคมได้อย่างชัดเจน สังเกตได้จากเมื่อเรายื่นอภิปรายแก่รัฐสภา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดลดลงเห็นได้อย่างชัดเจน หากเราอภิปรายไม่ไว้วางใจต่ออีกสัก 2 อาทิตย์ อาจจะไม่มีผู้ติดเชื้อโควิดเลยก็ได้ ในแง่ดีจะเห็นว่า การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนยอดเกือบไปถึงล้านคนในช่วงที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึงแม้ว่าจะผักชีโรยหน้าไปหน่อย หรือตั้งใจที่จะตรวจให้น้อยเพื่อให้ยอดคนติดเชื้อน้อยลง แต่ราคาผักชีมันก็ขึ้น ก็ยังสามารถที่จะควบคุมวาระของสังคมได้ และจะเห็นได้จากข่าวที่ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขจะหยุดนำเข้าวัคซีนซิโนแวค 

“ เราจะเดินหน้าทำงานต่อ ในการนำอาวุธสำคัญในการสยบวิกฤติโควิด ไม่ว่าจะเป็น วัคซีน การตรวจแบบ ATK และยาในการรักษา และปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจต่างๆในประเทศไทยที่จะกลายเป็นแผลเป็น เราจะทำงานเดินหน้าต่อไป ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ติดตามการอภิปรายของพวกเรา ขอบคุณสื่อมวลชนที่คอยรายงานข่าวเเละสื่อสารให้กับพรรคก้าวไกล รวมถึงขอบคุณเพื่อนส.ส.ทุกคนของพรรคทั้งที่ได้อภิปราย เเละไม่ได้อภิปรายในการทำงานอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผมภูมิใจมากที่สุด" พิธา กล่าวทิ้งท้าย 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการลงมติไม่ไว้วางใจ โดยคะเเนนของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมารองบ๊วยนั้น รัฐบาลต้องพิจารณาตนเองหรือไม่ พิธากล่าวว่า แน่นอนนั่นคือสัญญาณที่ส่งไปยังแกนนำผู้นำของรัฐบาล ของเเต่ละพรรค ที่จะตัดสินกุมชะตาชีวิตของพี่น้องประชาชนในระยะยาว โดยเราจะนำสิ่งที่เกิดในครั้งนี้มาถอดบทเรียนเเละวิเคราะห์ ว่ามีการเเตกเเยกในรัฐบาลอย่างไรบ้าง ซึ่งมันสะท้อนถึงความชอบธรรม เเละเสถียรภาพของรัฐบาลในประเทศที่มันวิกฤติขนาดนี้ ตนเห็นว่าทางออกที่ดีที่สุดคือ การยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชนในการตัดสินใจ หากดูในต่างประเทศที่มีปัญหาเกี่ยวกับวิกฤติโควิดจะพบว่า การยุบสภาเเล้วได้ฉันทามติจากสังคมกลับมาใหม่คือการแก้วิกฤติโควิดที่ดีขึ้น ตนคิดว่ากระดานการเมืองมันน่าจะเป็นแบบนี้ 

“ การควบคุมวาระของสังคม ระบบของประชาธิปไตย การที่ประชาชนส่งเสียงนอกสภา การออกชุมนุมก็ดี การส่งข้อมูลมาให้เราก็ดี แล้วสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ผลที่เกิดขึ้นอาจจะช้าไปหน่อย เเต่ก็อย่างน้อยก็เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในเรื่องวัคซีนที่ฉีดมากขึ้นช่วงนี้ ประชาชนยังได้ประโยชน์ในระยะสั้น และผลคะเเนนที่เกิดขึ้นยิ่งตอกย้ำความไม่ลงรอย เเละเสถียรภาพของรัฐบาล เสียดายระบบของรัฐสภาที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน คงต้องใช้เวลาให้รัฐสภากับประชาชนเป็นไปด้วยกันให้มากขึ้น" พิธา ระบุ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net