Skip to main content
sharethis

7 ก.ย. 2564 ทะลุฟ้าชุมนุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ย้ำจุดยืน 3 ข้อเรียกร้อง ไล่ประยุทธ์, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่, และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ปราศรัยชี้ประยุทธ์ออกกฎหมายรวบอำนาจ ชวนจับตาการแก้ไขระบบเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญ ด้านนักเรียนเลวประท้วงเรียนออนไลน์ ผู้จัดเผยหมดศรัทธากระบวนการยุติธรรม แต่ไม่เคยหมดศรัทธาในประชาชน

ไอลอว์รายงานว่า กลุ่มทะลุฟ้า จัดชุมนุม #ม็อบ7กันยา 'ทำระยำมา 7 ปี อภิปรายครั้งนี้มึงรอดได้ยังไง!' ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยผู้จัดยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ ไล่ประยุทธ์, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่, และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการจัดโชว์งานศิลปะและภาพถ่าย, กิจกรรมเขียนจดหมายถึงเพื่อน, เวทีปราศรัย และลานสเก็ตจากกลุ่มสเก็ตสามกีบ โดยมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 100 คน

การสำรวจการจราจร และสิ่งกีดขวางถนนบริเวณรอบการชุมนุม มีการตั้งแนวคอนเทนเนอร์บริเวณรูปปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผม ฝั่งซอยข้างศาลฎีกา และปากทางเข้าสนามหลวงมุ่งหน้าพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วไม่ให้รถผ่านเข้าออกได้ สะพานข้ามคลองคูเมืองเดิม (คลองหลอด) เข้าสู่สนามหลวง ถูกปิดด้วยแนวรั้วลวดหนามพร้อมคลุมผ้าดำไว้ทั้งหมด ในส่วนฝั่งแยกผ่านฟ้าลีลาศ จนถึงพระบรมรูปทรงม้าไม่มีการปิดถนนหรือวางเครื่องกีดขวาง พบรถฉีดน้ำสองคัน และรถเติมน้ำสองคัน พร้อมรถผู้ต้องขังสองคันจอดอยู่ริมรั้ว สน.นางเลิ้ง ไม่มีการติดเครื่องยนต์ ไม่พบตำรวจควบคุมฝูงชนในพื้นที่

15.15 น. ก่อนเวลาเริ่มกิจกรรมมีฝนตกลงมา ทีมงานกลุ่มทะลุฟ้าเริ่มกั้นถนนบริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อใช้เป็นพื้นที่จัดการชุมนุม

15.44 น. ทีมงานนำผ้าที่เขียนข้อเสนอรัฐธรรมนูญของประชาชนจากการชุมนุม #ม็อบ3กันยา มาคลุมรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

16.10 น. ทีมงานเริ่มตั้งเวที และจัดตั้งแกลเลอรีแสดงรูปภาพ

16.28 น. ทีมงานแขวนป้ายที่มีข้อความว่า “ทวงคืนอำนาจให้ประชาชน”, “ถึงเวลาของประชาชน”, “มติอัปยศ” และ “ระบอบปรสิต” บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

16.30 น. บริเวณโรงเรียนสตรีวิทยา มีตำรวจจราจรจาก สน.สำราญราษฎร์ประจำจุดอยู่ พร้อมทั้งนำรถลากมาจอดด้วยหนึ่งคัน บริเวณทางเข้าพื้นที่หน้าเวทีปราศรัยมีการติดตั้งเครื่องพ่นฆ่าเชื้อ เครื่องวัดอุณหภูมิ และหน้ากากอนามัยแจก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

17.00 น. ธนพร วิจันทร์ เครือข่ายแรงงานขึ้นปราศรัยว่า ในปี 2558 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้กฎหมายเพื่อริดรอนสิทธิประชาชน เช่น ออก พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ เพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของแรงงาน และภาคประชาชน มีการลิดรอนสิทธิแรงงาน ต่อมาประยุทธ์ออกรัฐธรรมนูญชั่วคราวโดยใช้มาตรา 44 มีอำนาจล้นเหลือ เช่น การออกคำสั่ง คสช. มากกว่า 200 ฉบับ ที่จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน และใช้มาตรา 44 ออก พ.ร.บ. EEC ที่มีผลกระทบกับประชาชน เช่น การเวนคืนที่ดินเกษตร พื้นที่ป่าสงวน พื้นที่ราชพัสดุที่ประชาชนใช้ทำมากินและอยู่อาศัย เพื่อนำไปหนุนนายทุน นอกจากนี้ ยังยกเลิกกฎหมายผังเมืองที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมถึงร่างกฎหมายต่างๆที่ประชาชนยื่น ได้ถูกปัดตกอย่างน้อย 21 ฉบับ เช่น กฎหมายเกี่ยวกับบำนาญผู้สูงอายุ

ธนพรกล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ พยายามผูกขาดอำนาจไว้ให้นานที่สุด จากคำสัญญาว่าจะคืนความสุขให้ประชาชน ให้ลองถามประชาชนในประเทศนี้ว่าพวกเรามีความสุขไหม ตั้งแต่คนรุ่นเก่าไปจนถึงคนรุ่นใหม่ ระบบการศึกษาล้มเหลว จบมาก็ไม่รู้ว่าจะมีงานทำหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า เราต้องการรัฐธรรมนูญใหม่ และต้องแก้ไขได้ทุกหมวดทุกมาตรา

จากนั้น เวลา 17.30 น. ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ หรือ 'เป๋า iLaw' ขึ้นปราศรัยว่า ถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ อันดับแรกต้องยกเลิก ส.ว. 250 เสียง แก้ไขที่มาขององค์กรอิสระ ไม่ให้มีที่มาจาก คสช. ยกเลิกยุทธศาสตร์ 20 ปี ยกเลิกนายกรัฐมนตรีคนนอก ยกเลิกนิรโทษกรรม คสช. นี่คือพื้นฐานที่เราต้องเสนอ ทางเดียวที่เราจะออกแบบประเทศร่วมกันได้ คือต้องมีระเบียบและกติกากลางที่เป็นธรรม ต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งมีที่มาที่ชอบธรรม และประชาชนสามารถร่วมออกความเห็นได้

ยิ่งชีพกล่าวว่า วันศุกร์ที่ 10 ก.ย. 2564 รัฐสภามีนัดพิจารณาลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่สาม ซึ่งเป็นวาระสุดท้าย ข้อเสนอที่จะถูกพิจารณาเหลือเพียงประเด็นเดียว คือ การแก้ไขระบบเลือกตั้ง โดยพรรคพลังประชารัฐต้องการที่จะใช้โมเดลแบบเดียวกับพรรคไทยรักไทยในปี 2540 คือ การเป็นพรรคขนาดใหญ่และกุมเสียงส่วนใหญ่ และหากใช้ระบบเลือกตั้งแบบดังกล่าว ก็จะเปิดโอกาสให้พลังประชารัฐสามารถรวบรวมเสียงจากพรรคเล็กๆ เข้ากับพรรคตัวเอง เพื่อให้ได้เป็นเสียงส่วนมากและชนะการเลือกตั้ง ดังนั้น เป้าหมายของเราจึงต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เท่านั้น

ยิ่งชีพยังกล่าวด้วยว่า นอกเหนือจากพรรคเหล่านั้นแล้ว ก็ยังมี ‘พรรค ส.ว.’ ที่มีอำนาจพิเศษ หาก ส.ว. ไม่รับร่างในวาระที่สาม มันก็จะผ่านไม่ได้ แม้ว่าตอนนี้เสียงของประยุทธ์ในพลังประชารัฐจะไม่แน่นหนา แต่ประยุทธ์ก็ยังมีอีก 250 เสียงของ ส.ว. ที่เลือกมาเองกับมืออยู่ ถ้า ส.ว. กล้าโหวตคว่ำ ทั้งที่พรรคใหญ่เห็นชอบ ก็จะเป็นการประกาศให้เห็นว่า คนที่ใหญ่ที่สุดก็คือคนที่เลือก ส.ว. มาให้เห็นเท่านั้น

ยิ่งชีพกล่าวว่า อยากให้ทุกคนติตตามและเข้าใจ ไม่ว่าวันศุกร์นี้ร่างจะผ่านหรือไม่ผ่าน เราจะต้องร่วมรณรงค์รัฐธรรมนูญใหม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกหมวดทุกมาตราและต้องตรวจสอบได้ ประยุทธ์เขาไม่ได้อยู่เพราะประชาชนอยากให้อยู่ และเขาจะไม่ไปเพราะประชาชนอยากให้ไป ที่เขาต้องอยู่ เพราะไม่ต้องการให้ฝ่ายอื่นๆ ขึ้นมามีอำนาจ ดังนั้นการตะโกนไล่อย่างเดียวไม่ทำให้เขาออกไปได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าการมาชุมนุมจะมีความหมายน้อยลง ตราบใดที่ยังมีคนออกมาขับไล่ การกระทำที่ผิดฝาผิดตัวของเขาก็จะน้อยลง

17.55 น. ปนัดดา ศิริมาศกุล หรือ 'ต๋งทะลุฟ้า' ทำกิจกรรมร้องเพลงเพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุม และเพื่อนๆ ที่กำลังอยู่ในเรือนจำ ชื่อบทเพลงว่า ฝากรักถึงเจ้าผีเสื้อ โดยวงสามัญชน

18.10 น. ผู้ชุมนุมร่วมเคารพธงชาติในแบบราษฎรบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการชูสามนิ้วในระหว่างร้องเพลงชาติ และเมื่อเพลงจบ ได้มีการโปรยกระดาษจำนวน 11,200 แผ่น พร้อมตะโกนว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ ชาติคือประชาชน” หลังจากนั้น มีการยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของ พล.อ.ประยุทธ์

18.48 น. มีการทำกิจกรรมจุดไฟเผากระดาษบริเวณหน้าเวทีปราศรัยทะลุฟ้า ขณะที่ 'ปูน' นักเรียนเลว กำลังปราศรัยเรื่องปัญหาการเรียนออนไลน์ มีการใช้ไฟ และเลือดเทียมเข้าไปราดในกระดาษและหนังสือเรียน เพื่อเป็นการประท้วงต่อรัฐเรื่องการเรียนออนไลน์ และชี้ให้รัฐเห็นถึงปัญหาของระบบการศึกษา

19.20 น. กุลจิรา คงทอง หรือ 'เอ้ The voice' ขึ้นเล่นดนตรี พูดถึงความรู้สึกต่อ 'บอย' ชาติชาย แกดำ และอ่านจดหมายเปิดผนึกจากชาติชาย โดยมีพัด วง Zweed n’ Roll ขึ้นมาร่วมร้องเพลง

19.59 น. 'ต๋ง ทะลุฟ้า' ขึ้นปราศรัยกล่าวถึงชนชั้นปกครองและกฏหมายของประเทศไทยว่า เจ้าหน้าที่บอกว่าเราเป็นคนที่ทำความวุ่นวายให้บ้านเมือง เป็นหัวหน้าเป็นคนสั่งการให้มีความวุ่นวายในบ้านเมือง จำไว้ว่าเราทำผิดแค่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่สิ่งที่พวกเขาทำมันผิดรัฐธรรมนูญ

ปนัดดากล่าวว่า วันนั้นตำรวจพูดในวันที่ฝากขังว่าไม่อยากให้เด็กพวกนี้ไปชุมนุมทางการเมือง อยากถามว่าการไปชุมนุมมันผิดมากนักหรอ และทำไมต้องฝากขัง ในประเทศที่เรียกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย

ปนัดดายังกล่าวต่อว่า วันนี้อยากฝากถึงศาลที่ไม่อยากจะเคารพ ศาลทำตัวไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้ใช้กฏหมายหรือเปล่า ที่ไม่เคยศรัทธาคือผู้ใช้กฎหมายของประเทศนี้ พวกเขาไม่เคยทำให้รู้สึกถึงความเป็นธรรมได้เลย วันไหนที่ประชาชนชนะเราจะคิดบัญชี รวมถึงคนใน นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว กระบวนการยุติธรรมทั้งหลายก็เช่นกัน แต่สิ่งเดียวที่ตนไม่เคยหมดศรัทธาเลยคือประชาชน ในขณะที่ยังมีคนสู้ไม่ว่าจะกี่คนก็คือการต่อสู้ และถ้าประชาชนยังต่อสู้ เผด็จการไม่มีวันชนะแน่นอน

ปนัดดาทิ้งท้ายว่า ชัยชนะอาจจะไม่ได้มาหาเราในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ เราจงต่อสู้เพื่อรอวันนั้นมาถึง และความเจ็บปวดทุกอย่างจะได้รับการเยียวยาอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ระหว่างที่ 'ต๋ง ทะลุฟ้า' กำลังปราศรัย เวลา 20.11 น. มีการจุดพลุที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนจะยุติการชุมนุมหลังจบการปราศรัยพร้อมกับการจุดพลุ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net