Skip to main content
sharethis

ทางการรัฐเวอร์จิเนียถอนรูปปั้นของนายพล โรเบิร์ต อี ลี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฝ่ายสนับสนุนการใช้ทาสคนผิวสีในสมัยสงครามกลางเมืองสหรัฐฯ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้คนที่มาชุมนุม ผู้ว่าการรัฐแถลงว่าอนุสาวรีย์สาธารณะควรจะสะท้อนสิ่งประชาชนนำเสนอตัวเองและหน้าประวัติศาสตร์ควรคำนึงถึงผู้คนอย่างครอบคลุม

อนุสาวรีย์นายพล โรเบิร์ต อี ลี ที่โมนูเมนต์อเวนิว เมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย ถ่ายเมื่อเมื่อ 2 มิ.ย.2563 โดย Mobilus In Mobili

เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2564 กลุ่มคนงานทำการถอดถอนรูปปั้นอนุสาวรีย์อายุ 131 ปี ของนายพล โรเบิร์ต อี ลี นายพลฝ่ายสมาพันธรัฐในยุคสงครามกลางเมืองสหรัฐฯ อนุสาวรีย์ตั้งอยู่ที่เมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย รูปปั้นนี้มีน้ำหนัก 12 ตัน (ราว 10,900 กก.) ตั้งอยู่บนฐานความสูง 40 ฟุต (ราว 12 เมตร)

มีคนราว 200 คนที่มาชุมนุมดูการถอนรูปปั้นที่เป็นสัญลักษณ์ของการสนับสนุนการใช้ทาสในครั้งนี้พากันสวมกอดโห่ร้องด้วยความยินดีในช่วงที่มีดำเนินการถอนออก อนุสาวรีย์โรเบิร์ต อี ลี แห่งนี้ถือเป็นอนุสาวรีย์ฝ่ายสมาพันธรัฐแห่งสุดท้ายที่ตั้งอยู่บนพื้นที่โมนูเมนต์อเวนิวซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีอนุสาวรีย์สมาพันธรัฐตั้งเรียงรายมาก่อน

ผู้คนบนท้องถนนบางส่วนสวมเสื้อยืด "Black Lives Matter" ซึ่งเป็นขบวนการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนดำที่เผชิญความรุนแรงจากอคติทางเชื้อชาติสีผิวที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ มีการประสานเสียงคำขวัญว่า "นี่ถนนของใคร ถนนของพวกเรา" และ "เฮ้ เฮ้ เฮ้ ลาก่อน"

บี การ์เนอร์ ประชาชนในริชมอนด์กล่าวว่าอนุสาวรีย์ของลีเปรียบเสมือนเป็น "สัญลักษณ์แห่งความเกลียดชังอันสุดท้าย" และตั้งแต่นี้ไปหลานสาวอายุ 8 ปีของเขาก็จะสามารถเติบโตขึ้นโดยภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ทางเชื้อชาติสีผิวของตัวเองแทนที่จะภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์หลงยุค

ราฟ นอร์ทแฮม ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียกล่าวในช่วงที่รับชมการรื้อถอนอนุสาวรีย์ว่าประวัติศาสตร์ของสมาพันธรัฐที่สนับสนุนทาสนั้นไม่นับเป็นตัวแทนของรัฐเวอร์จิเนีย

นอร์ทแฮมแถลงว่า "อนุสาวรีย์สาธารณะสะท้อนว่าพวกเราเลือกจะเล่าเรื่องราวว่าตัวเราเป็นใครในฐานะประชาชน ... มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดแสดงประวัติศาสตร์ในฐานะประวัติศาสตร์และใช้อนุสรณ์สถานสาธารณะเป็นที่ให้เกียรติต่อความจริงโดยครบถ้วนและคำนึงถึงผู้คนอย่างครอบคลุมว่าพวกเราเป็นใครในทุกวันนี้และในอนาคต"

นักเทศน์คนดำที่ชื่อ เรย์ชอว์น เกรฟ แห่งริชมอนด์เป็นหนึ่งในคนที่มาดูการถอนอนุสาวรีย์ เขาบอกว่าถ้าหากรูปปั้นเหล่านี้มีชีวิตขึ้นมาในทุกวันนี้พวกเขาจะไม่ยินดีที่เห็นว่าคนดำอย่างเขาได้ใช้ชีวิตอย่างเสรีและเป็นพลเมืองที่เท่าเทียมทางเชื้อชาติสีผิว

การรื้อถอนรูปปั้นเหล่านี้มีขึ้นหลังจากที่ปีที่แล้วกลุ่มเรียกร้องความยุติธรรมด้านเชื้อชาติสีผิวได้ชุมนุมและเดินขบวนเพื่อเรียกร้องให้มีการรื้อถอนรูปปั้นเหยียดผิวและสนับสนุนระบบทาสเหล่านี้

สำหรับฐานของรูปปั้นที่ยังคงมีกราฟฟิตีจากผู้ประท้วงในปี 2563 จะคงอยู่ตรงวงเวียนต่อโมนูเมนต์อเวนิวต่อไปจนกว่าจะมีแผนการปรับโฉมโมนูเมนต์อเวนิวใหม่ โดยที่สำนักงานผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียระบุว่าพวกเขาจะนำไทม์แคปซูลที่อยู่ใกล้กับอนุสรณ์สถานออกไปด้วยแล้วจะแทนที่ด้วยศิลปวัตถุที่จะนำเสนอภาพของเหตุการณ์ที่นำมาสู่การถอนอนุสาวรีย์อดีตนายพลออกไป

สาเหตุที่อนุสาวรีย์นายพลลีถูกถอนออกเป็นลับดับสุดท้ายจากเดิมที่อนุสาวรีย์อื่นๆ ถูกถอดถอนออกไปก่อนแล้วเป็นเพราะว่าอนุสาวรีย์นายพลลีเป็นอนุสาวรีย์เดียวที่รัฐเวอร์จิเนียเป็นเจ้าของ ขณะที่อนุสาวรีย์อื่นๆ นั้นเมืองริชมอนด์ถือเป็นเจ้าของจึงมีการถอดถอนออกก่อนไม่นานหลังจากที่มีการออกกฎหมายใหม่จากท้องถิ่น สำหรับกรณีของอนุสาวรีย์ลีนั้น นอร์ทแฮมเป็นผู้ประกาศจะถอดถอนมาตั้งแต่ในเดือน มิ.ย. 2563 แล้วในช่วงที่มีการประท้วงเรื่องความเป็นธรรมทางเชื้อชาติสีผิว แต่ก็ต้องเผชิญปัญหาทางกฎหมายจะกระทั่งศาลสูงสุดของเวอร์จิเนียเพิ่งประกาศอนุญาตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้มีการถอดถอนรูปปั้นได้

หลังจากที่เมืองริชมอนด์ถอดถอนรูปปั้นนายพลลีออกไปแล้วก็เหลืออนุสาวรีย์ชิ้นเดียวที่โมนูเมนต์อเวนิวคือ อาเทอร์ แอช แชมป์เทนนิสชาวริชมอนด์ผู้ที่ผลักดันให้เกิดพัฒนาการทางสิทธิพลเมือง

 

เรียบเรียงจาก

Virginia removes Richmond's Robert E. Lee statue, its largest Confederate monument, USA Today, 08-09-2021

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net