2 นักข่าวพลเมืองถูก ตร.คุมตัวขณะรายงานสถานการณ์ชุมนุมที่ดินแดง โฆษก บช.น. อ้างมี 'สื่อมวลชนปลอม' ด้าน นัก กม.สิทธิฯ ชี้ ปชช.มีสิทธิสื่อสาร ไม่เกี่ยวว่าต้องมีสังกัด เปิดคำพิพากษา ปชช.สามารถบันทึกการทำงาน จนท.ได้

ณัฐพงศ์ มาลี นักข่าวพลเมืองจากเพจ 'สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News'

13 ก.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ที่บริเวณซอยมิตรไมตรี ดินแดง กรุงเทพ ณัฐพงศ์ มาลี นักข่าวพลเมืองจากเพจ 'สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News' และนักข่าวพลเมืองอีก 1 คน จากเพจ ปล่อยเพื่อนเรา รวม 2 ราย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว ขณะรายงานสถานการณ์การชุมนุมที่ดินแดง

จากไลฟ์ในเพจ 'สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News' ก่อนถูกควบคุมตัวนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามบัตรนักข่าวและใบขออนุญาตทำข่าว ตามด้วยขอให้ปิดไลฟ์ด้วย

นักข่าวพลเมืองอีก 1 คน จากเพจ ปล่อยเพื่อนเรา

ทั้งนี้ เพจ สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News เป็นเพจที่ถ่ายทอดสดเหตุการณ์การชุมนุมอย่างเสมอ โดยมักถ่ายทอดสดเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่กระทำการจนนำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์ปฎิบัติงานหลายครั้ง เช่น การจ่อยิ่งผู้ที่ขับขี่จักรยานยนต์ขณะขับผ่าน

นอกจาก 2 รายนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานผ่าน ทวิตเตอร์บัญชี @TLHR2014 ว่า เมื่อเวลา 00.08 TLHR ได้รับรายงานว่า #ม็อบ13กันยา มีผู้ถูกควบคุมตัวไปสน.พหลโยธิน 10 ราย แบ่งเป็นเยาวชน 5 ราย และผู้ใหญ่ 5 ราย ซึ่งในจำนวนนี้รวม 2 รายข้างต้นด้วย

เวลา 1.25 น. ที่ผ่านมา The Reporters รายงานความคืบหน้ากรณี ณัฐพงษ์ โดย ณัฐพงษ์ ซึ่งถูกคุมตัวมาที่ สน.พหลโยธิน แจ้งว่า ตนโดนแจ้ง 2 ข้อหา ร่วมกันชุมนุมและฝ่าฝืนเคอร์ฟิว โดยยังถูกควบคุมตัวที่ สน.พหลโยธิน และจะยื่นขอประกันตัวในวันพรุ่งนี้

ณัฐพงษ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ก่อนถูกควบคุมตัวเจ้าหน้าที่เปิดการถ่ายทอดสดของเพจ 'สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News' พร้อมระบุว่าเพจดังกล่าวถ่ายทดสดบริเวณนี้ ตนจึงยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าตนคือนักข่าวจากเพจสำนักข่าวราษฎรด้วย ก่อนถูกควบคุมตัวในเวลาต่อมา

โฆษก บช.น. อ้างมี 'สื่อมวลชนปลอม' 

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการและโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้สัมภาษณ์ทางรายการตอบโจทย์ ทาง Thai PBS (https://www.youtube.com/watch?v=ol4FA7CWglo) ค่ำวันนี้ก่อนการจับกุม 
อ้างว่าได้รับการร้องเรียนจากสื่อมวลชนว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมหรือมีผู้แอบแฝงมาเป็นสื่อมวลชนปลอม โดยเฉพาะอ้างตัวว่าเป็นยูทูบเบอร์ สื่อมวลชนที่มีต้นสังกัดชัดเจนและไม่ใช่กลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ใช่กลุ่มผู้ที่มาสร้างความแตกแยก หรือไม่ใช่กลุ่มผู้ที่แฝงตัวมาเมื่อทำการตรวจก็จะได้รับการเชิญออกไป ส่วนผู้ที่แฝงตัวเข้ามาหรือสื่อมวลชนปลอมจำนวน 2-3 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อกรณีที่สื่อมวลชนถูกตำรวจให้ออกจากพื้นที่ พร้อมขู่เรื่องการดำเนินคดีตามเคอร์ฟิว เป็นการผลักสื่อออกเพื่อใช้มาตรการรุนแรงมากขึ้นหรือไม่นั้น โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่าไม่ใช่ แต่การเชิญออกไปนั้นเป็นสื่อมวลชนที่ไม่มีต้นสังกัด อ้างว่าเป็นสื่อราษฎรบ้าง เป็นสื่อยูทูบเบอร์เล็กๆ น้อยๆ บ้าง หรือว่าเป็นช่องที่ไม่มีต้นสังกัดตัวเอง

เมื่อผู้ดำเนินรายการตอบโจทย์ถามย้ำว่าสื่ออื่นๆ ยังทำหน้าที่ได้ปกติไหมนั้น พล.ต.ต.ปิยะ ตอบยืนยันว่าถูกต้อง

นัก กม.สิทธิฯ ชี้ ปชช.มีสิทธิสื่อสาร ไม่เกี่ยวว่าต้องมีสังกัด เปิดคำพิพากษา ปชช.สามารถบันทึกการทำงาน จนท.ได้

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา Backpack Journalist เผยแพร่รายงานหลังช่างภาพอิสระ ผู้ถูกเจ้าหน้าที่คุมฝูงชนใช้กระบองตีจนฟิลเตอร์หน้าเลนส์แตก โดยมีส่วนที่สัมภาษณ์ สมชาย หอมลออ นักกฎหมายสิทธิมนุษยชนมองว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิใช้ความรุนแรงกับทั้งผู้ชุมนุม และสื่อ การถ่ายภาพ หรือคลิป เป็นสิ่งที่กระทำได้ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยสอดส่องให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ หรือแม้แต่กรณีผู้ชุมนุมก็ได้รับการตรวจสอบจากหน้าที่ของสื่อเช่นกัน และหน้าที่นี้ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องปลอกแขนสื่อ อย่างที่เจ้าหน้าที่มักใช้เป็นข้ออ้าง

สมชาย กล่าวด้วยว่า เพิ่งมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ออกมาว่าในการที่เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจค้น จับกุมบุคคลต่างๆ เหล่านี้ ประชาชนสามารถถ่ายภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวได้ อันนี้เป็นอุทาหรณ์ เพราะจุดมุ่งหมายต้องการที่จะให้ให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความโปร่งใส เพราะฉะนั้นถ้าคนที่เข้าไปถ่ายรูปเจ้าหน้าที่ เขาจะเป็นนักข่าวหรือพลเมืองดีหรือผู้สนใจก็แล้วแต่ ไม่ได้ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตนคิดว่าเขามีสิทธิ์ที่จะทำได้

"ตามหลักการระหว่างประเทศ คำว่าผู้สื่อข่าว ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สื่อข่าวสังกัดโน่นสังกัดนี่ ในฐานะอาชีพของเขาเป็นคนทำข่าว เป็นช่างภาพ เพราะฉะนั้นการที่เขาไปถ่ายภาพ ผมจะถามคนที่มีความเห็น บอกว่าทำไม่ได้ เขาไปขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ยังไง มีแต่ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานดีขึ้น ถูกต้องขึ้นมากกว่า" สมชาย กล่าว