รอง ผบก.อคฝ. ชี้แจงต่อ กมธ. ถ้า คฝ. ใช้ความรุนแรงกับ ปชช. ต้องรับผิดชอบเอง

ที่ประชุม กมธ. พิจารณาข้อเรียกร้อง ขอให้ปกป้องสิทธิและคุ้มครองประชาชน จากการกระทำที่เข้าข่ายอันเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐ ด้านรองผู้บังคับการหน่วยอารักขาและควบคุมฝูงชน (ผบก.อคฝ.) ชี้ ถ้า คฝ. คนไหนทำผิดต้องรับผิดชอบเอง ไม่เกี่ยวกับต้นสังกัด

​15 ก.ย. 2564 วันนี้ (15 ก.ย. 2564) ณ อาคารรัฐสภา ที่ประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้พิจารณาข้อเรียกร้องขอให้ปกป้องสิทธิและคุ้มครองประชาชนจากการกระทำความรุนแรงของเจ้าหน้าที่และขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่อันเข้าข่ายเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนได้ประชุมเพื่อพิจารณาพิจารณาข้อเรียกร้องขอให้ปกป้องสิทธิและคุ้มครองประชาชนจากการกระทำความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ และขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่อันเข้าข่ายเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเชิญผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้แทนเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, ตัวแทนองค์การและสโมสรนิสิตนักศึกษามหาวิทยา 19 แห่งเข้าร่วมประชุม

ตามที่คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากองค์การและสโมสรนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัย 19 แห่ง จากกรณีการชุมนุมของนิสิต นักศึกษา และประชาชนในการเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก ซึ่งการชุมนุมมีมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ปรากฏว่ามีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่กลับปรากฏว่ารัฐบาลได้ใช้อำนาจคุกคามประชาชนผู้ออกมาเรียกร้องและผู้เห็นต่างทางการเมือง อาทิ การใช้อำนาจทางกฎหมายในการเข้าควบคุม จับกุมกักตัว และคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน รวมถึงการสลายการชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามหลักสากล และเป็นการปฏิบัติหน้าที่อันเข้าข่ายใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุม จนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ จึงขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่อันเข้าข่ายเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐในการเข้าสลายการชุมนุม

คณะกรรมาธิการเห็นว่าข้อเรียกร้องขอให้ปกป้องสิทธิและคุ้มครองประชาชนจากการกระทำความรุนแรงของเจ้าหน้าที่และขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่อันเข้าข่ายเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้การพิจารณาของคณะกรรมาธิการเป็นไปด้วยความรอบคอบ คณะกรรมาธิการจึงมีมติไปศึกษาดูงานเรื่องพิจารณาการปกป้องสิทธิเสรีภาพและคุ้มครองประชาชนและติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐในสถานการณ์การชุมนุม โดยเชิญผู้เข้าร่วมการศึกษาดูงาน ดังนี้ คณะกรรมาธิการผู้แทนเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตัวแทนผู้ร้องเรียน

ตัวแทน คฝ. ยอมรับในที่ประชุม กมธ.พัฒนาการเมืองฯ หาก คฝ. คนใดใช้ความรุนแรงกับประชาชนจะต้องรับผิดชอบเอง

ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า วันนี้ (15 ก.ย. 64) ในที่ประชุมกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ วาระพิจารณาข้อเรียกร้องขอให้ปกป้องสิทธิและคุ้มครองประชาชนจากการกระทำความรุนแรงของเจ้าหน้าที่และขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่อันเข้าข่ายเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมี พ.ต.ท.วชิรพงศ์ แก้วดวง รองผู้บังคับการหน่วยอารักขาและควบคุมฝูงชน หรือรอง ผบก.อคฝ. ชี้แจงต่อกรรมาธิการว่าเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดงตลอด 32 วันที่ผ่านมา มีปรากฎภาพเจ้าหน้าที่ คฝ. ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น พ.ต.ท.วชิรพงศ์ เปิดเผยว่า "ทางต้นสังกัดไม่มีคำสั่งและแนวทางให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ซึ่งหากพบเจ้าหน้าที่คนใดใช้ความรุนแรง เจ้าหน้าที่คนนั้นต้องรับผิดชอบเองไม่เกี่ยวกับต้นสังกัด"

พ.ต.ท.วชิรพงศ์ แก้วดวง รองผู้บังคับการหน่วยอารักขาและควบคุมฝูงชน (ผบก.อคฝ.)
 

ด้าน ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการ เปิดเผยว่า คำชี้แจงของ พ.ต.ท.วชิรพงศ์เป็นการปัดความรับผิดชอบอีกทั้งยังผลักให้ผู้ใต้บังคับบัญชากลายเป็นผู้ร้าย ทั้งที่เจ้าหน้าที่ คฝ. ออกไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของต้นสังกัด ซึ่งหากการชี้แจงเป็นเช่นนี้ทางกรรมาธิการต้องเชิญให้เจ้าหน้าที่ คฝ. ที่ปรากฎในคลิปที่มีการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนทั้ง 14 คลิป เพื่อเรียกตัวเข้ามาสอบถามเพิ่มเติมว่าการตัดสินใจต่อสถานการณ์ตรงหน้าเป็นการใช้ดุลพินิจส่วนตัวหรือมีคำสั่งให้ใช้ความรุนแรง

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล
 

ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนจำเป็นต้องปฏิบัติงานในพื้นที่การชุมนุม อาจส่งผลให้อยู่ในช่วงเคอร์ฟิวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า สื่อมวลชนที่มีบัตรอนุญาตทุกคนจะได้รับผ่อนปรน แม้จะเป็นเคอร์ฟิวก็ตาม ด้านประธานกรรมาธิการจึงเสนอให้มีการผ่อนปรนต่อเจ้าที่พยาบาลอาสาทุกคนโดยใช้มาตรฐานเดียวกันกับสื่อมวลชนด้วย

โฆษก กมธ.ตำรวจ สผ. ขอเยาวชนคำนึงถึงการบังคับใช้กฎหมาย ในการร่วมชุมนุม

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2564 สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่า ณัฐชนน ศรีก่อเกื้อ โฆษกกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกรณีจิตภัสร์ กฤดากร รองประธานคณะกรรมาธิการนำคณะร่วมประชุมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ติดตามข้อเท็จจริงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งพบว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นการรวมตัวของกลุ่มเยาวชนจากทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ไม่ได้มีข้อเรียกร้องใดที่ชัดเจน แต่มีการใช้กำลังและอุปกรณ์เทียมอาวุธและอาวุธในการทำร้ายร่างกาย จึงถือเป็นการจลาจล ส่วนกรณีกลุ่มบุคคลที่เผาป้าเฉลิมพระเกียรติบริเวณทางด่วนแยกดินแดงและถนนวิภาวดี 2 จุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวผู้กระทำความผิดแล้วซึ่งเป็นเยาวชน จากนี้จะดำเนินการแจ้งความ ออกหมายจับตามกระบวนการ ขณะกรณีรถควบคุมผู้ต้องขังชนผู้เข้าร่วมชุมนุมใต้ทางด่วนดินแดงที่เป็นประเด็นละเอียดอ่อนและสังคมให้ความสนใจ พบว่าเป็นรถที่สแตนบายรอรับตำรวจเดินทางกลับแ ละผู้ถูกชนมีลักษณะการตั้งใจเดินลงมาจากฟุตบาท ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้รับการรักษาที่ รพ.ราชวิถี แต่เมื่อถูกซักประวัติ หนีหายออกจาก รพ. ดังนั้น คณะกรรมาธิการการจึงขอเรียกร้องไปยังกลุ่มเยาวชนที่ไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว โดยอาจหลงผิดหรือเข้าใจผิด แต่ขอให้คำนึงถึงการกระทำทุกอย่างในขณะนี้ ที่อยู่ในภาวะการบังคับใช้กฎหมายหลายฉบับในสถานการณ์ จึงย่อมมีผลพูกพันจ่อตัวเยาวชนเอง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท