Skip to main content
sharethis

ธนาคารโลกยกเลิกรายงาน 'Doing Business' ซึ่งเป็นชิ้นสำคัญเกี่ยวกับสภาพธุรกิจทั่วโลกหลังจากที่ผู้ตรวจสอบพบว่าคณะทำงานของธนาคารโลกถูกกดดันจากกลุ่มผู้นำธนาคารให้แก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับจีนและรัฐบาลอื่นๆ อีกบางส่วน

19 ก.ย. 2564 ธนาคารโลกระบุว่าพวกเขาจะยกเลิกการนำเสนอรายงานที่ชื่อ "Doing Business" ที่เกี่ยวกับสภาพธุรกิจโลกหลังจากที่มีการสืบสวนสอบสวนพบว่ามี "ความผิดปกติทางข้อมูล" ในฉบับปี 2561-2563 รวมถึงอาจจะมีปัญหาที่เกี่ยวข้อง "ในทางจรรยาบรรณ" ของคณะทำงานของธนาคารด้วย

มีการตรวจสอบพบว่าคณะทำงานของธนาคารโลกบางคนทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลของจีนเพื่อให้จีนอยู่ในอันดับที่ดีขึ้น เนื่องจากพวกเขาถูกกดดันจากสำนักงานของประธานของธนาคารโลกในสมัยนั้นคือ จิมยองคิม และจากผู้อำนวยการบริหารในยุคนั้นคือ คริสตาเลียนา จอร์จีวา รวมถึงหนึ่งในที่ปรึกษาของเธอ

การสืบสวนสอบสวนในครั้งนี้ดำเนินการโดยบริษัทกฎหมายในสหรัฐฯ วิลเมอร์เฮล แต่จอร์จีวาที่ในตอนนี้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟก็บอกว่าเธอไม่เห็นด้วยกับผลการสืบสวนนี้

รายงาน "Doing Business" เป็นรายงานที่ระบุเกี่ยวกับเรื่องภาษี อุปสรรคทางราชการ การกำกับดูแล และสภาพอื่นๆ ของธุรกิจ ที่เขียนโดยธนาคารโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ และเป็นหนึ่งในแหล่งเงินทุนพัฒนาที่ใหญ่ที่สุด รายงานฉบับดังกล่าวนี้มักจะถูกกล่าวอ้างโดยรัฐบาลบางประเทศเพื่อนำมาดึงดูดการลงทุน รายงานนี้มีการจัดอันดับประเทศว่ามีความคล่องตัวหรือความติดขัดจากระบบในการดำเนินธุรกิจมากเพียงใดโดยอาศัยปัจจัยด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียนธุรกิจ การบังคับข้อตกลงตามกฎหมาย การจัดการกรณีล้มละลาย ไปจนถึงการเข้าถึงไฟฟ้าและการขออนุญาตก่อสร้าง

ทิโมธี แอช นักยุทธศาสตร์อาวุโสด้านแผนยุทธศาสตร์ตลาดเกิดใหม่จากบลูเบย์แอสเซตแมเนจเมนต์กล่าวว่ารายงาน Doing Business ของธนาคารโลกมีความสำคัญมากในเรื่องการที่ธนาคารและธุรกิจต่างๆ จะใช้ประเมินความเสี่ยงในแต่ละประเทศ

แอชกล่าวอีกว่าถ้าหากมีการใช้อิทธิพลในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอันดับของประเทศเกิดขึ้นจริงในรายงาน Doing Business เขาก็คาดว่าผู้กระทำผิดจะถูกไล่ออกและถูกนำตัวไปรับการไต่สวนพิจารณา

สื่ออัลจาซีราระบุว่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาจีนพยายามเพิ่มอิทธิพลของตัวเองในสถาบันนานาชาติอย่างไอเอ็มเอฟ กับองค์การอนามัยโลก และพยายามส่งอิทธิพลต่อนโยบายขององค์กรเหล่านี้

การปรับเปลี่ยนข้อมูลของรายงานในปี 2561 นั้นเกิดขึ้นหลังจากการล็อบบีของจีนเพื่อให้ตัวเองอยู่ในอันดับที่ดีขึ้นและเกิดขึ้นก่อนหน้าโครงการที่ธนาคารโลกจะเพิ่มเงินทุนโดยมีจีนเป็นผู้มีบทบาทสำคัญหลักๆ ประเทศจีนนับเป็นประเทศที่ถือหุ้นธนาคารโลกใหญ่เป็นอันดับที่สองรองจากสหรัฐฯ และญี่ปุ่น

ในการปรับเปลี่ยนข้อมูลปี 2561 มีการทำให้จีนอยู่ในอันดับที่ดีขึ้น 7 อันดับ มาอยู่ที่อันดับที่ 78 นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงยังส่งผลต่ออันดับของประเทศอาเซอร์ไบจัน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดิอาระเบีย ด้วย

ผู้อำนวยการอาวุโสของธนาคารโลกยอมรับว่ามีกลุ่มผู้นำการเขียนรายงาน Doing Business ทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลผลักดันให้มีการเอนเอียงไปในทางใดทางหนึ่งตามการพิจารณาด้านภูมิศาสตร์การเมือง โดยที่จอร์เจียวาขอบคุณเขาที่ส่งเสริม "ความร่วมมือจากหลายฝ่าย" แต่ความร่วมมือจากหลายฝ่ายที่ว่านี้เธอน่าจะหมายถึง "ไม่ทำให้จีนไม่พอใจ" ในช่วงที่มีการเจรจาหารือการเพิ่มทุน

ทั้งนี้กลุ่มนักวิจัยในธนาคารโลกยังเปิดเผยว่าพวกเขาทราบดีว่าการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเอาเองในรายงานนั้นเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่ที่พวกเขาทำไปเพราะกลัวการถูกเล่นงานแก้แค้นจากผู้ช่วยของจอร์เจียวาคือ ซีมีออน จังคอฟ

จ้าวลี่เจี้ยน โฆษกของกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่าพวกเขาหวังว่าธนาคารโลกจะ "ทำการสืบสวนอย่างละเอียด" และ "ยังคงไว้ซึ่งความเป็นมืออาชีพและความน่าเชื่อถือ" ของรายงาน Doing Business นอกจากนี้ยังยังกล่าวอีกว่า "การรัฐบาลจีนให้ความสำคัญอย่างมากกับการปรับเปลี่ยนที่เอื้อต่อบรรยากาศการดำเนินธุรกิจ"


เรียบเรียงจาก
Probe finds World Bank changed data to boost China ranking, Aljazeera, 19-09-2021

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net