อย่าเพิกเฉย ‘ณัฐชา ก้าวไกล’ จี้ ‘ผบ.ตร.’ แจงความคืบหน้ากรณีเหตุยิงผู้ชุมนุมหน้า ‘สน.ดินแดง’ เผย กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เปิดรายงานชี้เป้าผู้ต้องสงสัยมา 5 วันแล้ว แต่ยังไม่เห็นความกระตือรือร้นเร่งคลี่คลายคดีจากตำรวจ
20 ก.ย.2564 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน ระบุว่า จากการแถลงข่าวเปิดหลักฐานรายงาน เหตุยิงผู้ชุมนุมหน้า สน. ดินแดง เมื่อ 16 ส.ค. ซึ่งผ่านมาเป็นเวลาถึง 5 วันแล้ว จนขณะนี้ยังไม่มีการชี้แจงความคืบหน้าหรือมีคำตอบเพิ่มเติม รวมถึงไม่มีการติดต่อจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอข้อมูลและรายงานฉบับดังกล่าวเพื่อไปทำงานต่อเลย ทั้งที่หลักฐานที่รวบรวมมานั้นค่อนข้างชัดเจน จนสามารถมีข้อสันนิษฐานเบื้องได้ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุอาจมีความเกี่ยวข้องกับจำหน้าที่ เพราะถึงแม้วันนั้นจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายจุด แต่ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงว่า เป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดได้ไปรวมกันในพื้นที่สุดท้ายคือหน้า สน.ดินแดง ในจุดที่ไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมหรือประชาชนทั่วไปเข้าไปได้ เราจึงยังรอคำตอบอยู่ว่า กลุ่มบุคคลก่อเหตุที่ปรากฏในหน้า สน.ดินแดง กลุ่มนั้นเป็นใคร และเมื่อมีข้อมูลปรากฏชัดเจนว่ามีกลุ่มบุคคลอยู่ในพื้นที่ควบคุมดูแลเฉพาะของเจ้าหน้าที่ แต่ทำไมเวลาผ่านมาหนึ่งเดือนเต็มแล้วยังหาตัวคนกลุ่มนี้ไม่ได้ เปรียบเทียบกับกรณีของผู้ชุมนุมอื่นๆ แค่มีภาพปรากฎในกล้องวงจรปิดก็จะเห็นว่าสามารถหาตัวและตามไปถึงบ้านได้ทุกครั้ง ทำไมพอเป็นกรณีที่คาดว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องจึงดำเนินการอย่างล่าช้า ไม่มีความกระตือรือร้นเหมือนกรณีที่ต้องการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม
“คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ ได้ตั้งคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงและมีการเปิดเผยรายงานจากการรวบรวมหลักฐานกล้องวงจรปิด 54 ตัว ในบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่ข้างเคียง รวมถึงได้สัมภาษณ์ผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่เด็กชาย A อายุ 14 ปี ถูกยิงหน้าปากซอยประชาสงเคราะห์ 14 กระสุนเข้าบริเวณหัวไหล่ด้านหลัง ทะลุออกด้านหน้า และเด็กชาย B อายุ 15 ปี ถูกยิงบนถนนฝั่งตรงข้าม สน.ดินแดงกระสุนเข้าบริเวณคอ และฝังอยู่ใกล้แกนสมอง ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในอาการโคม่าและครอบครัวยังคงรอความยุติธรรมจากเจ้าหน้าที่ในการติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีจนถึงตอนนี้”
ทั้งนี้ ณัฐชา กล่าวว่า ในส่วนของกรรมาธิการได้มอบรายงานฉบับดังกล่าวให้ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว รวมถึงได้ดำเนินการส่งมอบรายงานฉบับดังกล่าวไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงใจกับการสืบหาความจริง ด้วยข้อมูลที่ชัดเจนขนาดนี้ก็ควรมีความคืบหน้าและสามารถชี้แจงต่อประชาชนได้ หรือถ้ามีข้อสังเกตใดที่ติดใจและต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมก็น่าจะมีการติดต่อเข้ามายังคณะกรรมการธิการบ้าง ไม่ใช่แกล้งตีเนียนไปแถลงแต่เรื่องการชุมนุมรายวันแล้วปล่อยให้ความจริงหายเงียบไปแบบนี้
“เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหน่วยงานหลักในการคลี่คลายเรื่องนี้แต่กลับนิ่งเฉย ความเป็นธรรมที่ทั้งสองครอบครัวรอคอยจะเป็นอย่างไร เมื่อตำรวจไม่อยากตามหาความจริง หรือไม่อยากแม้แต่จะกล่าวถึงและทำเหมือนไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ขณะที่ทั้งสังคมกำลังจับตาอยู่ ทำไมการตัดสินใจใช้กำลังต่อประชาชนถึงทำง่ายนักแต่การสะสางความจริงจึงทำยากเหลือเกิน ผมจึงขอเรียกร้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกมาให้คำตอบต่อกรณีนี้ได้แล้ว ประชาชนอยากรู้ว่ากลุ่มบุคคลที่ไปปรากฏตัวหน้า สน.ดินแดง คือใคร หรือสรุปแล้วตำรวจจะไม่รับผิดชอบต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นเลยใช่หรือไม่ หากยังนิ่งเฉย ผมคิดว่าเป็นเจตนาในการหลีกเลี่ยงความผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นความน่าอับอายขององค์กรอย่างยิ่ง” ประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ กล่าว