1 ต.ค. 2564 ศบค. แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 11,754 คน ติดเชื้อเข้าข่ายอีก 5,150 คน เสียชีวิต 123 คน ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 27.54% ของประชากร เดือน ต.ค. ตั้งเป้าฉีดวัคซีนเกิน 50% ทุกจังหวัด กังวลสถานการณ์ระบาดในภาคใต้ ขณะที่วัคซีนโมเดอร์นาพร้อมส่งมอบเดือน พ.ย. 2564

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 1 ต.ค. 2564 ว่า พบผู้ป่วยใหม่ 11,754 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 11,242 คน ติดเชื้อจากต่างประเทศ 11 คน ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 501 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 1,615,229 คน ในจำนวนนี้ไม่รวมที่กรมควบคุมโรครายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากการตรวจด้วยแอนติเจนเทสต์คิต (antigen test kit: ATK) เป็นบวกอีก 5,150 คน

เสียชีวิตเพิ่ม 123 คน เสียชีวิตสะสมทั้งหมด 16,850 คน อัตราการเสียชีวิต 1.04% อายุระหว่าง 23-99 ปี ผู้เสียชีวิต 95% อายุ 60 ปีขึ้นไป หรือมีโรคเรื้อรัง

ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ทั้งหมด 115,233 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 3,144 คน ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 709 คน ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 19,838,574 คน คิดเป็น 27.54% ของประชากร

รายงานสถานการณ์โควิด-19 วันที่ 1 ต.ค. 2564 โดยกรมควบคุมโรค

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงด้วยว่า เดือน ต.ค. 2564 มีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมอย่างน้อย 50% ของประชากรทั้งไทยและต่างชาติในทุกจังหวัด โดยแต่ละจังหวัดต้องมีอย่างน้อย 1 อำเภอ ที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมอย่างน้อย 70% ของประชากร ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีดรคเรื้อรัง และผู้ตั้งครรภ์ ตั้งเป้าหมายให้ได้วัคซีนอย่างน้อย 80% ของประชากรกลุ่มนี้ ขณะที่กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ตั้งเป้าให้ได้วัคซีนเข็มแรกอย่างน้อย 70% ของประชากร

นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมายให้ผู้ได้รับวัคซีนชนิดเชื้อตาย 2 เข็ม ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยให้หน่วยบริการวัคซีนตรวจสอบข้อมูล หลักฐานการฉีดวัคซีน เพื่อจัดสรรคิวตามระยะเวลาที่รับวัคซีน และเมื่อได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ขอให้แจ้งข้อมูลในระบบและติดตามอาการไม่พึงประสงค์

พญ.อภิสมัย ยังแสดงความกังวลถึงสถานการณ์การติดเชื้อในภาคใต้ที่นอกจากจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นคิดเป็น 17% ของทั้งประเทศ โดยมี จ.ยะลา, จ.นราธิวาส, จ.สงขลา, จ.ปัตตานี, และ จ.นครศรีธรรมราช ติดอันดับจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุด 10 อันดับแรก ขณะที่จำนวนผู้ป่วยที่อาการหนักและเสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า มีประชาชนรายงานว่าในบางพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้ มีประชาชนละเลยไม่สวมหน้ากากอนามัย ร้านอาหารเปิดเกินเวลาที่กำหนด และจำหน่ายแอลกอฮอล์ จึงต้องขอให้หน่วยงานในพื้นที่กำชับมาตรการป้องกันโรค

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉบับที่ 34 มีผลบังคับใช้ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะยังคงที่ แต่ยังต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการและประชาชน หากทิศทางตัวเลขผู้ติดเชื้อไปในทางลดลง ภายใน 15 วัน อาจจะมีมาตรการที่ผ่อนคลายมากขึ้น

ขณะที่ข่าวหลายสำนักรายงานตรงกันว่า บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา  ผู้จัดหาและกระจายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโมเดอนา เผยแพร่แถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน ระบุว่า วัคซีนโมเดอร์นา จำนวน 1.9 ล้านโดสที่จะส่งมอบให้กับไทยในไตรมาสที่ 4 จะส่งมอบให้ได้ครั้งแรกในเดือน พ.ย. 2564