Skip to main content
sharethis

ประยุทธ์ รับมอบยารักษาโควิด-19 และรับบริจาควัคซีน AstraZeneca 346,100 โดส จากรัฐบาลเยอรมนี Kick off ฉีดวัคซีน Pfizer ให้นักเรียนในสถานศึกษาของ ศธ. ต้อนรับเปิดเทอม 1 พ.ย.นี้

4 ต.ค.2564 เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า วันนี้ (4 ต.ค.64) เวลา 11.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เก-ออร์ค ชมิท (H.E. Mr. Georg Schmidt) เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในพิธีรับมอบยารักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จากรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

โดย รับมอบยารักษาโรคโควิด-19 (Casirivimab/Imdevimab) จำนวน 2,000 ยูนิต จากรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อนำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มอาการน้อยถึงปานกลาง ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยมีอาการทรุดหนักลง นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณในไมตรีจิตและความห่วงใยที่มีให้ประเทศไทย รวมถึงเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิด สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมิตรประเทศระหว่างกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก จนนำมาสู่พิธีการมอบยาให้แก่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่าสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีขอบคุณที่ไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญเสมอมา 

อนึ่ง รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีได้บริจาควัคซีน AstraZeneca ให้ไทย จำนวน 346,100 โดส และอยู่ระหว่างเตรียมการในการขนส่งวัคซีนคาดว่าจะถึงไทยในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2564

Kick off ฉีดวัคซีน Pfizer ให้นักเรียนในสถานศึกษาของ ศธ. ต้อนรับเปิดเทอม 1 พ.ย.นี้

ขณะที่ช่วงเช้า 8.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ ป็นประธานพิธี Kick off สร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีน เด็กปลอดภัย เรียนอุ่นใจ ต้อนรับเปิดเทอม ณ โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์ ถนนลาดพร้าว เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยมี ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมในพิธี โดยการฉีดวัคซีน Pfizer ให้กับนักเรียนที่มีอายุ 12 - 18 ปี เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนอกจากที่โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์แล้ว ยังมีโรงเรียนใน 12 เขตสุขภาพร่วม Kick off การฉีดวัคซีนวันนี้เป็นวันแรกพร้อมกันผ่านระบบ Zoom

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยินดีที่ได้เป็นประธานในงาน Kick off การฉีดวัคซีนเพื่อสร้างเกราะป้องกันให้แก่เด็กนักเรียน เพื่อเปิดเทอมอย่างปลอดภัย ในการเปิดภาคเรียนวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะกระทบทั่วโลก แต่การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลจำเป็นต้องรักษาระบบการศึกษาไว้ให้ได้ พร้อมทั้งบริหารจัดการ ส่งเสริมให้มีการจัดการเรียนการสอนช่วงโควิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครูมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการปรับวิธีการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในช่วงที่เด็ก/เยาวชนเรียนออนไลน์ที่บ้าน อันเป็นช่วงเวลาที่ผู้ปกครองได้ใช้เวลาครอบร่วมกับบุตรหลานด้วย

ประยุทธ์ กล่าวอีกว่าว่าการฉีดวัคซีนให้กับเด็ก/เยาวชน ในวันนี้เป็นการส่งเสริมความพร้อมด้านการศึกษาให้เดินหน้าต่ออย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับผู้ปกครองเมื่อต้องส่งบุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียน โดยเป็นการฉีดวัคซีน Pfizer ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เป็นวัคซีนที่สามารถใช้ในกลุ่มเด็กได้ และรัฐบาลจะเดินหน้าจัดหาวัคซีนชนิดอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเดินหน้าการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งจะทำให้การเปิดภาคเรียนที่ 2 สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าในปีหน้าจะมีวัคซีนเพียงพอ รัฐบาลเตรียมแผนวัคซีน 150-170 ล้านโดส ให้ฉีดได้ครบถ้วนตามเป้าหมายไว้ และขอฝากให้เด็กนักเรียนได้มีจุดหมายในการเรียนหนังสือว่าจะเรียนหนังสือไปเพื่ออะไร ขอให้รู้ว่าตนเองชอบสิ่งใด แล้วทำตามความฝัน ทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น เพราะทุกคนคืออนาคตของชาติ 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net