UNHCR ประกาศยกย่องรางวัลผู้ลี้ภัยนานเซ็น ประจำปี 2564 แก่สมาคมจีล อัลเบนา เพื่อการพัฒนาด้านมนุษยธรรม ที่ทำงานทำงานช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นชาวเยเมน ขณะที่รางวัลระดับภูมิภาคเอเชียมอบแก่ พญ.ซาลีมา เรห์มาน แพทย์ผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันในปากีสถานที่อุทิศตัวในช่วงโควิด-19 และรณรงค์เรื่องการศึกษาสำหรับเด็กหญิง นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับรางวัลระดับภูมิภาคอื่นๆ อีก 4 คน

UNHCR เผยแพร่ข่าว ระบุว่า 4 ต.ค. 2564 สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ประกาศผู้ได้รับรางวัลผู้ลี้ภัยนานเซ็นของ UNHCR ประจำ พ.ศ. 2564 พร้อมผู้ได้รับรางวัลจากในระดับภูมิภาค 5 คน

องค์กรด้านมุษยธรรมในประเทศเยเมนที่ทำงานในพื้นที่เพื่อมอบความช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นจากความขัดแย้งในประเทศหลายหมื่นคน คือองค์กรที่ได้รับยกย่องให้ได้รางวัลผู้ลี้ภัยนานเซ็นของ UNHCR ประจำ พ.ศ. 2564

สมาคมจีล อัลเบนา เพื่อการพัฒนาด้านมนุษยธรรม ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2560 ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากการทำงานช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นชาวเยเมนอย่างไม่ท้อถอย แม้ว่าการทำงานในแนวหน้าจะนำพาการต่อสู้ทางอาวุธและระเบิดมาถึงหน้าประตู ส่วนอะมีน จูบราน อายุ 37 ปี ผู้ก่อตั้งสมาคม ต้องพลัดถิ่นจากเหตุการต่อสู้และเกือบเสียชีวิตมาแล้ว

“พื้นที่ที่เราทำงานถือเป็นหนึ่งในพื้นที่แห่งความยากแค้นและอันตรายมากที่สุด” จูบรานกล่าว “เรารู้สึกถึงความอันตรายทุกวัน แต่เรามีผู้พลัดถิ่นและผู้คนอีกมากมายที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา เราไม่สามารถทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลังโดยไม่ให้ความช่วยเหลือได้”

อะมีน จูบราน (คนกลาง) หัวหน้าและหนึ่งในผู้ก่อตั้งสมาคมจีล อัลเบนา พูดคุยกับชายผู้พลัดถิ่นในค่ายแถวเมืองอัลฮูเดย์ดาห์ ประเทศเยเมน ©UNHCR/Abdulhakeem Obadi

รางวัลที่ได้มอบแก่สมาคมจีล อัลเบนา ช่วยดึงความสนใจให้กับผู้พลัดถิ่นจากความขัดแย้งชาวเยเมน หนึ่งในประเทศที่กำลังเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดในโลก ผู้คนกว่า 4 ล้านคนต้องถูกบังคับให้หนีออกจากบ้านของตนและต้องการความคุ้มครองและความช่วยเหลืออย่างมาก แต่ความขัดแย้งและความทุกข์ทรมานของผู้คนมักถูกมองข้ามไป

สมาคมจีล อัลเบนา มีเจ้าหน้าที่มากกว่า 160 คน และได้รับความช่วยเหลือจากอาสาสมัครอีกกว่า 230 คน โดยมากคือผู้พลัดถิ่นเอง สมาคมนี้ตั้งอยู่ในเมืองท่าอัลฮูเดย์ดาห์ ริมทะเลแดง ได้มอบอาชีพและที่พักพิงฉุกเฉินราว 18,000 หลังแก่ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่ชั่วคราวในเมืองอัลฮูเดย์ดาห์ และเมืองฮัจจาห์

องค์กรนี้ยังช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นหญิงให้สามารถหาเลี้ยงตนเองได้ และปรับปรุงโรงเรียนต่างๆ เพื่อช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่นและประชากรผู้พลัดถิ่น

“การทำงานที่ยิ่งใหญ่ของคุณและทีมงาน รวมทั้งความมุมานะในการช่วยเหลือชาวเยเมนที่ต่างมีที่มาหลากหลาย คือตัวอย่างของมนุษยธรรม ความเมตตา และการอุทิศตน” ฟิลลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ กล่าวถึงจูบราน และรางวัลนี้ยังชี้ให้เห็นถึงการทำงานขององค์กรพัฒนาเอกชนท้องถิ่นอีกหลายแห่งในพื้นที่ประเทศเยเมนเช่นกัน

ปี 2564 มีผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้ลี้ภัยนานเซ็น 200 รายชื่อ และมีผู้ได้รับรางวัลระดับภูมิภาค 5 คน ได้แก่

• ภูมิภาคเอเชีย

พญ.ซาลีมา เรห์มาน อายุ 29 ปี ผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันที่อาศัยและประกอบเวชปฏิบัติในประเทศปากีสถาน เธอได้รับยกย่องรางวัลในภูมิภาคเอเชียจากความกล้าหาญและการอุทิศตนในอาชีพแพทย์ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงในการรณรงค์เรื่องการศึกษาสำหรับเด็กหญิง

“การเข้าถึงการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญมากในชีวิตของเรา การลงทุนในการศึกษาของผู้หญิงเป็นการลงทุนเพื่อคนรุ่นถัดไปทั้งหมด” เรห์มานกล่าวไว้ในพิธีที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอที่สถานทูตสวิสเซอร์แลนด์ในกรุงอิสลามาบาด

พญ.ซาลีมา เรห์มาน ผู้ได้รับรางวัลผู้ลี้ภัยนานเซ็นในระดับภูมิภาคเอเชีย ถ่ายภาพกับประกาศนียบัตรในกรุงอิสลามาบาด ©UNHCR/Asif Shahzad

เบเนดิกต์ เดอ เซอร์จา เอกอัครราชทูตสวิสเซอร์แลนด์ ประจำปากีสถาน และเอลิน คิลวอค อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ประจำปากีสถาน เป็นผู้มอบรางวัล

เบเนดิกต์ เดอ เซอร์จา เอกอัครราชทูตสวิสเซอร์แลนด์ เรียกเธอว่าเป็นเยาวชนหญิงแห่งแรงบันดาลใจชาวอัฟกัน “เธอเป็นแบบอย่างที่ชัดเจนของคุณค่าที่ประชาคมโลกมีต่อการสนับสนุนประเทศที่มอบที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยด้วยนโยบายการรวมผู้ลี้ภัยเข้ากับชุมชนที่พักพิง ดังเช่นในปากีสถาน การลงทุนในผู้ลี้ภัยจะช่วยชาวอัฟกันผู้ที่ต้องการอาชีพ ผู้หญิงและผู้ชาย เช่น แพทย์หญิงซาลีมา สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อประเทศชาติของตนได้ในวันที่สถานการณ์ในบ้านเกิดปลอดภัยพอที่จะกลับไป

เรายึดมั่นในการให้ความช่วยเหลือแก่เด็กหญิงชาวอัฟกันในรุ่นถัดไป ให้พวกเขาสามารถเติมเต็มความฝันของพวกเขาได้” เขากล่าว

ข้าหลวงเอกด้านผู้ลี้ภัยชาวอัฟกัน ซาลีม คาน แสดงความยินดีกับการได้รับรางวัลของ พญ.ซาลีมา “เรารู้สึกภูมิใจในตัวแพทย์หญิงซาลีมา เธอเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมของชุมชนเธอ

ปากีสถานควรภูมิใจที่ได้ผลิตบุคลากรแพทย์ที่ดี ยังมีเยาวชนชาวอัฟกันอีกนับไม่ถ้วนที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่มีความคืบหน้าของปากีสถาน”

• ภูมิภาคอเมริกา

ฮอร์เก ซานติเอโก อาบิลา คอร์ราเลส อายุ 33 ปี นักสังคมสงเคราะห์ชาวฮอนดูรัสและผู้อำนวยการของ กลุ่มเยาวชนต่อต้านการกระทำรุนแรง (Youth Against Violence Movement) เขาได้รับยกย่องรางวัลในภูมิภาคอเมริกาจากความกล้าหาญและการอุทิศตนในการเผชิญกับกลุ่มความรุนแรงที่ทำลายชีวิตเด็กชาวฮอนดูรัสไปมากมาย

• ภูมิภาคยุโรป

นิโคลา โควาเชวิช อายุ 32 ปี ทนายความอิสระด้านสิทธิมนุษยชนจากประเทศเซอร์เบีย เขาได้รับยกย่องรางวัลในภูมิภาคยุโรปจากการเรียกร้องสิทธิเพื่อผู้ลี้ภัยและผู้ขอลี้ภัยในคาบสมุทรบอลข่าน

• ภูมิภาคแอฟริกา

ผู้ได้รับรางวัลจากภูมิภาคแอฟริกามี 2 คน ได้แก่ โรคิอาทู ไมกา อายุ 55 ปี จากประเทศบูร์กินาฟาโซ ผู้เรียกร้องและประสานความช่วยเหลือให้แก่ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ และหัวหน้าเดียมเบนดิ มาดีกาจากประเทศบูร์กินาฟาโซเช่นกันที่ได้รับยกย่องในการทำงานเรียกร้องสิทธิเพื่อผู้พลัดถิ่นภายในประเทศเนื่องจากความขัดแย้งและช่วยจัดหาที่พักพิงให้กับพวกเขา

รางวัลนี้จัดตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2489 โดยตั้งชื่อตามนายฟริทจอฟ นานเซ็น นักการทูตของประเทศนอร์เวย์ นักวิทยาศาสตร์ นักสำรวจขั้วโลก และนักมนุษยธรรม ผู้ดำรงตำแหน่งข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเป็นคนแรกขององค์การสันนิบาตชาติและได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในพ.ศ. 2465 โดยมอบให้แก่บุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรที่อุทิศการทำงานอย่างโดดเด่นเพื่อช่วยเหลือผู้พลัดถิ่น และ/หรือบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ