ตร.นครศรีฯ เตือน ปชช.รอรับประยุทธ์ ห้ามปาไข่ ด่า เผาทรัพย์สินผู้อื่น โพสต์รูปนายกลงโซเชียล ผิดกฎหมาย

เฟซบุ๊กของตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช โพสต์รูปเตือนประชาชนที่จะมารับนายกประยุทธ์ ห้ามปาไข่ เผารูป ด่า โพสต์รูปประยุทธ์ลงโซเชียล หรืออื่นๆ อาจผิดกฎหมาย ก่อนโพสต์ถูกลบออกไปในภายหลัง 

ภาพจากเฟซบุ๊ก ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 11.00 น.

เนื่องในโอกาสที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางเยี่ยมประชาชนในจังหวัดนครศรีธรรมราชวันนี้ (7 ต.ค.) ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชจึงโพสต์ภาพลงสื่อโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊กวันนี้เมื่อเวลา 11.00 น. เตือนประชาชนที่จะมารอต้อนรับนายกรัฐมนตรี ห้ามกระทำพฤติการณ์ดังต่อไปนี้ 

  1. ปาไข่ หรือไข่เน่า ผิดกฎหมายอาญา ม. 391 ทำร้ายร่างกาย ลหุโทษ
  2. ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ผิดกฎหมายอาญา ม. 393 ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า หรือด้วยการโฆษณา หรืออาจมีความผิด ม. 326 ข้อหาหมิ่นประมาท 
  3. เผารูปนายกหรือพระบรมฉายาลักษณ์ แต่ถ้านำรูปมาด้วยตัวเอง ไม่ผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ หรือ (ไม่ผิด ม.112) (ตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 4) ถ้าการเผานั้นทำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย หรือทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย อาจมีความผิดตามกฎหมายอาญา ม. 220 วรรคแรก ถ้าเผาภาพของผู้อื่น เป็นความผิดทำให้เสียทรัพย์หรือวางเพลิงได้ 
  4. นำภาพนายกไปลงเฟซบุ๊ก ไลน์ หรือสื่อโซเชียลมีเดียอื่นๆ อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมฯ มาตรา 14(1) ข้อมูลเท็จ ปลอม บิดเบือน โดยประการที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย ม. 14(2) ข้อมูลเท็จ เสียหายต่อความมั่นคง ปลอดภัยสาธารณะ เศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน ม.14(5)  เผยแพร่ส่งต่อ ตาม (1) (2) (3) และ (4)   

หรือหากมีพฤติกรรมที่เป็นการต่อต้าน หรือขัดขวางจะพิจารณาความผิดแล้วแต่กรณี

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อกฎหมาย พ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 14(1) จากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา พบว่า กฎหมาย พ.ร.บ.คอมฯ 2560 มาตรา 14(1) และมาตรา 14(2) ระบุตามนี้ 

มาตรา 14 ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน
หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา

(2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด
ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคง ในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

ดังนั้น ตามข้อกฎหมาย พ.ร.บ.คอมฯ ฉบับแก้ไขปี 2560 ม. 14 วงเล็บ 1 วงเล็บ 2 มุ่งเน้นเอาผิดการนำเข้าข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยวงเล็บ 1 “ไม่รวมการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท” และ วงเล็บ 2 นั้น จะถือว่ามีความผิด ต้องมีลักษณะการกระทำที่เป็นการสร้างความเสียหายต่อระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ"  

ทั้งนี้ ผู่สื่อข่าวตรวจสอบโพสต์ของตำรวจภูธรนครศรีธรรมราชอีกครั้งเมื่อเวลา 17.00 น. พบว่าโพสต์ดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงได้อีกต่อไปแล้ว 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท