Skip to main content
sharethis

กรณีของหญิงข้ามเพศที่เป็นทหารเกาหลีใต้ฆ่าตัวตายเพราะถูกกีดกันปลดออกจากกองทัพหลังจากที่ไปผ่าตัดแปลงเพศ ในวันที่ 7 ต.ค. เธอก็ได้รับชัยชนะในคดีแม้ว่าเธอจะเสียชีวิตไปแล้ว จากการที่ศาลตัดสินให้กองทัพต้องให้การยอมรับเธอในฐานะผู้หญิงและตัดสินให้การสั่งปลดเธอถือเป็นโมฆะ

เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นจากการที่ สิบโท เบยียนฮีซู ได้ยื่นคำร้องขอให้เธอได้รับการย้ายไปประจำการในหน่วยทหารกองทัพหญิงหลังจากที่เธอทำการผ่าตัดแปลงเพศแล้ว แต่กองทัพเกาหลีใต้กลับปลดเธอจากการรับราชการทหารโดยอ้างว่าการที่เธอผ่าตัดแปลงเพศทำให้เธอ "พิการ" และไม่เหมาะสมที่จะรับราชการทหารต่อไป

หลังจากนั้นเบยียบฮีซูก็ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีคำสั่งให้เธอกลับเข้ารับราชการทหารได้อีกครั้ง แต่ก่อนที่จะมีคำตัดสินออกมาเธอก็ฆ่าตัวตายเสียก่อนในเดือน มี.ค. เสียก่อน แต่ถึงแม้ว่าคำตัดสินจะออกมาหลังจากที่เธอเสียชีวิตไปแล้ว แต่คำสั่งศาลในครั้งนี้ก็จะกลายเป็นข้อผูกมัดโดยปริยายต่อนโยบายของกองทัพในประเด็นผู้มีความหลากหลายทางเพศ

ศาลแขวลแทจอนระบุว่าจากการที่เบยียนฮีซูได้รับการยอมรับตามกฎหมายในเรื่องการแปลงเพศของเธอแล้วทางกองทัพจึงควรจะอาศัยมาตรการเรื่องการรับผู้หญิงเข้ากองทัพในการตัดสินเรื่องที่ว่าเธอเหมาะสมที่จะรับราชการในกองทัพหรือไม่

"เมื่อตัดสินตามมาตรฐานสำหรับผู้หญิงแล้ว เธอไม่มีเรื่องความพิการทางกายหรือทางใจที่จะนำมาใช้ในการปลดประจำการเลย" ศาลระบุ

ทางกองทัพเกาหลีใต้แถลงว่าพวกเขาเคารพในคำตัดสินของศาลแต่ก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะอุทธรณ์ในเรื่องนี้หรือไม่ และจะให้มีการพิจารณาอย่างครอบคลุมก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อไป

กลุ่มนักกิจกรรมที่สนับสนุนเบยียนที่กลุ่มว่าศูนย์เพื่อสิทธิมนุษยชนกองทัพเกาหลีใต้กล่าวยินดีกับคำตัดสินนี้ แต่ก็บอกว่ามันใช้เวลานานมากกว่าที่จะ "ได้ผลลัพธ์ที่เป็นเรื่องสามัญสำนึกและเป็นไปตามธรรมชาติ" เช่นนี้

นักกิจกรรมจากกลุ่มโซริแดริตีฟอร์ LGBT ฮิวแมนไรท์แห่งเกาหลีชื่อ โอโซรี กล่าวว่า "เราเชื่อว่าการตัดสินในครั้งนี้มีความหมายในการที่มันทำให้เกิดการพูดคุยอภิปรายในทางที่อาจจะช่วยแพ่วถางแนวทางสำหรับคนข้ามเพศและคนกลุ่มน้อยทางเพศวิถีในเกาหลีใต้ทุกคนที่กำลังรับราชการทหารเช่นเดียวกับพลเรือนอื่นๆ"

ในกฎหมายของเกาหลีใต้มีการระบุให้ชายทุกคนที่มีร่างกายสมบูรณ์ต้องเข้ารับราชการทหารอย่างน้อย 21 เดือน ซึ่งในตอนนี้เกาหลีใต้มีกองทัพประจำการในหน้าที่ 550,000 นาย และมี 2.7 ล้านนายที่เป็นกองกำลังเสริม

 

เรียบเรียงจาก : 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net