รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม รับยื่นหนังสือ จากตัวแทนพุทธศาสนิกชนจังหวัดกาฬสินธุ์ กรณีขอความเป็นธรรมกรณีการถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2564

เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมาว่านายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร คนที่สาม และคณะรับยื่นหนังสือจากนายกฤตชญา วิเชียรเพริศ ตัวแทนพุทธศาสนิกชนจังหวัดกาฬสินธุ์ และคณะ เรื่อง ขอความเป็นธรรมกรณีการถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้แก่พระเทพสารเมธี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม จังหวัดกาพสินธุ์ 

นายกฤตชญา วิเชียรเพริศ ตัวแทนพุทธศาสนิกชนจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่าตามที่มหาเถรสมาคมได้มีการประชุมผ่านระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 และมีมติถอดถอนพระเทพสารเมธี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม จังหวัดกาพสินธุ์ ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยไม่มีการสอบสวน ไม่มีการให้โอกาสผู้ถูกถอดถอนได้รับทราบข้อกล่าวหาและให้ข้อมูลเพื่อแก้ข้อกล่าวหา ตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการแต่อย่างใด ทั้งนี้เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ตั้งใจทำนุบำรุงสนองงานพระพุทธศาสนาเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ ส่งเสริมการศึกษาของพระสงฆ์และสามเณร เป็นผู้ก่อตั้งวิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ ในสังกัดมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย เป็นพระภิกษุที่มีวิถีปฏิบัติอยู่ในศีลที่งดงาม ไม่เคยมีข้อด่างพร้อยในวัตรปฏิบัติ พุทธศาสนิกชนในจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมากให้ความเคารพนับถือ ความศรัทธาในศีลาจารวัตรและคุณูปการณ์ที่ได้ประพฤติเป็นแบบอย่าง การที่มหาเถรสมาคมมีมติถอดถอนพระเทพสารเมธี ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาพสินธุ์ โดยไม่ทราบเหตุผลได้สร้างความด่างพร้อยต่อประวัติอันดีงาม ก่อให้เกิดความกังขาและสร้างความสะเทือนใจต่อพุทธศาสนิกชนในวงกว้างเป็นอันมาก มติดังกล่าวจึงขัดกับวิธีปฏิบัติที่กำหนดไว้ในกฎมหาเถรสมาคม 

นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล กล่าวภายหลังรับหนังสือว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ จากนั้นจะส่งเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมสภาผู้แทนราษฎร ในสัปดาห์หน้า

ด้านนายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการประชุมกรณีการถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์นั้น ตนจะขอให้มีการตรวจสอบความถูกต้องว่าการประชุมดังกล่าวมีประธานการประชุม และองค์ประชุม ครบตามกฎหมายหรือไม่ จึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาต่อไป

"อนุชา" เมินวิจารณ์ปลดพระ ขอชาวพุทธรอมหาเถรสมาคมชี้แจง

Thai PBS รายงานเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2564 ว่านายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยถึงมติมหาเถรสมาคมปลดเจ้าคณะ จ.ปทุมธานี จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็น เป็นเรื่องของสงฆ์ เพราะเป็นฆราวาสอยู่ในสถานะที่จะไม่แสดงความคิดเห็นมติของสงฆ์

ส่วนที่ยังมีการร้องเรียนกันอยู่ เห็นว่าไม่เป็นไร เป็นเรื่องธรรมดา มองการร้องเรียนเป็นเรื่องปกติ เรื่องนี้คณะสงฆ์กำลังทำเรื่องให้กระจ่างอยู่แล้วในเร็วๆ นี้ คงไม่มีเรื่องอะไรที่พิเศษ พิสดาร หรือมีข้อผิดพลาดแต่อย่างใด บางครั้งไม่สามารถลงลึกในรายละเอียดของพระสงฆ์ได้

ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่งที่ต้องอยู่ในพุทธศาสนา คนไทยทุกคนต้องช่วยกันปกป้องเสาหลักของแผ่นดิน คือชาติ ศาสนา พระมหากษัติรย์ เพราะเรื่องนี้สำคัญ ไม่ใช่เอามาพูดกันง่ายๆ เพียงเพราะความรู้สึก นึกคิดว่าถูกหรือผิด เพราะเป็นเรื่องของพระสงฆ์และมหาเถรสมาคมเป็นหลัก ไม่ใช่จะมาวิจารณ์แบบคาดเดาเอาเอง

นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องศาสนา หากมาคาดเดาไม่ใช่เรื่องดี ทุกอย่างต้องเป็นกลาง จะเอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาเป็นประเด็นไม่ได้ เป็นเรื่องของสงฆ์ จึงไม่อยากพูดอะไรให้เป็นประเด็นทางสังคม ขอสื่อและประชาชนอดใจรอพระดำเนินการในเรื่องนี้ เน้นย้ำมหาเถรสมาคมมีคำตอบแน่นอน เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นจากคณะบุคคล เพราะมหาเถรสมาคมไม่ได้ทำอะไรผิด ตามที่กลุ่มหรือบุคคลเข้าใจ

พร้อมกันนี้ เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว แม้จะเกี่ยวกับปัญหาด้านความเชื่อ และเชื่อว่าคนไทยจะมองเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ถ้าคนไทยไม่ช่วยกันปกป้องหรือประคับประคองก็เหนื่อย

ส่วนแนวทางการช่วยเหลือวัด และพระสงฆ์ที่ถูกน้ำท่วมนั้น ได้ประสานดูแลช่วยเหลือตลอด ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาใดๆ