Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

คำถามสั้นๆ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนว่า “ยุบสภาเมื่อไหร่”นั้น ดูเหมือนว่าจะตอบไม่ง่ายเลย เพราะคนที่มีอำนาจ   ยุบสภาคือนายกรัฐมนตรีที่จะทูลเกล้าฯเพื่อให้มี พรฎ.ได้ นั้น ผมเชื่อว่าก็ไม่รู้คำตอบเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ก็คืออายุสภาเหลือน้อยแล้ว เพียงแค่ปีกว่าๆ ก็จะครบ 4 ปีที่รัฐธรรมนูญกำหนดนับจากวันเลือกตั้งไปครั้งล่าสุด คือ วันที่ 24 มีนาคม 2562 ก็หมายความว่าอายุสภาก็จะไปสิ้นสุดเอาในวันที่ 23 มีนาคม 2566 

แต่จากการเคลื่อนไหวของบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ก็ตาม หรือการประกาศว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคตนเองก็ตาม (ซึ่งก็มีทั้งจริงทั้งโยนหินถามทาง) ฯลฯ และคณะรัฐมนตรีพร้อม ส.ส.ต่างพากันออกเดินสายกันอย่างถี่ยิบ ดูประหนึ่งว่าจะมีการเลือกตั้งฯเร็วๆ นี้ แต่ความจริงคงมิใช่อย่างนั้น เพราะผมเชื่อว่าแม้แต่ตัวคุณประยุทธ์เองก็คงไม่อยากยุบสภาทำให้ตัวเองหลุดจากอำนาจเป็นแน่ เพราะไม่มีอะไรมาการันตีได้เลยว่าในครั้งต่อไปคุณประยุทธ์จะนอนมาอย่างสบายๆ ทั้งจำนวน ส.ส.ที่จะสนับสนุน หรือแม้แต่ ส.ว.เองก็เถอะจะยกทีเดียว 249 เสียงแบบที่ผ่านมาคงเป็นไปไม่ได้แล้ว ขนาดโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไปคนละทางสองทาง ไม่เป็นไปตามวิปในกรุ๊ปไลน์เลย

อีกทั้งยังมีชนักติดหลังคุณประยุทธ์อยู่ ก็คือประเด็นที่รัฐธรรมนูญฯห้ามการดำรงตำแหน่งนายกฯเกิน 8 ปี ไม่ว่าจะติดต่อกันหรือไม่ แม้ว่าจะมีอดีต กรธ.มาการันตีว่านับตามการเลือกตั้งตาม รธน.60 ก็เถอะ แต่ก็มีข้อโต้แย้งหนักๆ มาแล้วว่าทีลักษณะต้องห้ามอื่น เช่น ติดคุกในคดีเกี่ยวการทุจริต คดีเกี่ยวกับทรัพย์ ฯลฯ นั้น ก็เกิดก่อน รธน.60 ทำไมถึงเอามาใช้บังคับได้ เช่น กรณีหมอเลี๊ยบ เป็นต้น

1.ยังไม่มีการยุบสภาในเร็วๆ นี้ เพราะ

1.1 เพราะที่ผ่านมาผลงานของรัฐบาลยังไม่เป็นที่ประทับใจประชาชนมากนัก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาโควิด ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาน้ำท่วม ฯลฯ และก็เป็นเรื่องธรรมดาเมื่ออยู่ในตำแหน่งนานๆ คนก็เริ่มเบื่อ แต่ในทางกลับกันคะแนนนิยมของพรรคฝ่ายค้านต่างดีวันดีคืน 

1.2 กฎกติกาไม่ว่าจะเป็นระเบียบกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก็ยังไม่พร้อมหากมีการยุบสภาเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ที่สำคัญคือการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบนั้น พรรครัฐบาลจะได้เปรียบพรรคฝ่ายค้านแน่หรือ แม้แต่ในพรรคหลักของรัฐบาลเองก็ยังมีปัญหาภายในดังเป็นที่ทราบกันอยู่ คงต้องใช้เวลาชำระสะสางกันสักพักใหญ่ๆ จึงจะเข้ารูปเข้ารอย และพรรคสำรองที่เตรียมๆ กันไว้ก็ไม่ง่ายนักที่จะมาเป็นพรรคเสริมเรียกคะแนนนิยมหรือเพิ่มจำนวน ส.ส.ได้ อย่าลืมว่าพรรคแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วแต่ก็ล้มไม่เป็นท่า

ในประเด็นนี้บางคนอาจจะแย้งว่าก็ชิงยุบสภาก่อนประกาศพระบรมราชโองการแก้ไขรัฐธรรมนูญในราชกิจจานุเบกษาสิ จะได้ใช้การเลือกตั้งแบบใบเดียวเหมือนเดิมและคุณประยุทธ์ที่ผ่านมาได้เป็นนายกฯก็เพราะบัตรเลือกตั้งแบบใบเดียวมาแล้ว ซึ่งผมเห็นว่าโอกาสแบบนี้เป็นไปไม่ได้ หากยุบสภาก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษาขึ้นมาจริง ผลกระทบที่ตามมาจะมากมายมหาศาลจนไม่อยากคิดต่อเลยว่าจะกระทบหรือสั่นสะเทือนอะไรบ้าง ที่สำคัญคือคุณประยุทธ์ไม่กล้าทำเช่นว่านี้หรอก

1.3 การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนี้ไม่ว่าจะเป็นเดิมหรือแบบใหม่ พรรคการเมืองที่จะส่ง ส.ส.เขตได้ ต้องมีสมาชิกในเขตไม่น้อยกว่า 100 คน และมีตัวแทนจังหวัดของพรรค (ตทจ.) ประจำเขตเลือกตั้งนั้นอย่างน้อย 1 คน อีกทั้งยังต้องทำไพรมารีคัดตัวแทนที่ลง ส.ส.อีกด้วย หลังจากที่ได้รับการยกเว้นมาในคราวที่แล้ว หากยุบสภาตอนนี้โดยบังคับใช้ ตทจ.และไพรมารีเต็มรูปแบบแล้ว ไม่มีพรรคไหนทำได้หรอกครับ


2. จะยุบสภาเมื่อไหร่ ผมจะเรียงลำดับจากโอกาสมากไปหาน้อย คือ

2.1 เมื่อใกล้ครบวาระ 8 ปีของการดำรงตำแหน่งของคุณประยุทธ์ในเดือนสิงหาคม 65 คุณประยุทธ์คงไม่ยอมให้เกิดการยื่นตีความไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเป็นแน่ ถึงแม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเป็นคุณแก่คุณประยุทธ์มาครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม แต่ครั้งนี้ไม่แน่ ดังเหตุผลที่ผมเคยยกไว้ข้างต้นก่อนหน้านี้แล้วกรณีหมอเลี๊ยบ และเมื่อตอนนั้นสถานการณ์ทางการเมืองจะเปลี่ยนไปมาก แรงกดดันจะมีมากมหาศาล และประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือเป็นโอกาสเดียวที่ดีที่สุดของคุณประยุทธ์ที่จะหาทางลงจากตำแหน่งได้ โดยการยุบสภาแล้วไม่ลงอีกโดยอ้างเหตุผลของการอยู่ครบ 8 ปี ซึ่งก็จะเป็นประวัติศาสตร์การเมืองอีกหน้าหนึ่งเทียบเคียงกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

2.2 อุบัติเหตุการเมือง เช่น การลงมติในกฎหมายสำคัญๆ ในการเปิดสมัยประชุมสภาที่จะมาถึงนี้ แต่โอกาสเกิดขึ้นได้ยาก คงอยู่ถูลู่ถูกังกันไป ประคับประคองกันไป (แม้ว่าจะกัดฟันกรอดๆ ) แจกกล้วยกันไป ฯลฯ แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากฝ่ายรัฐบาลตั้งตนอยู่ในความประมาท แม้ว่าโอกาสจะน้อยก็ตาม 

2.3 ยุบก่อนครบวาระ 4 ปีนิดหน่อย (หากหมดประเด็นเรื่องนายกฯ 8 ปี) เพื่อที่จะได้มีโอกาสยืดเวลาเลือกตั้งเป็นภายใน 60 วันแทนที่จะเป็น 45 วันหากสภาอยู่ครบ แต่ข้อนี้เกิดขึ้นได้น้อยกว่า 2 ข้อข้างต้น แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ถ้าสถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป เช่น มีการปรับเพิ่มพรรคฝ่ายร่วมรัฐบาลเพิ่มขึ้นหรือมีการยุบรวมพรรคเล็กๆ ที่พยายามเอาตัวรอดจากบัตร 2 ใบ อย่างเช่นที่พรรคของคุณไพบูลย์เคยทำมาแล้วหรือมีการย้ายข้างเกิดขึ้น ฯลฯ เพราะการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวรน่ะครับ

กล่าวโดยสรุปคือคำตอบของคำถามที่ว่า “ยุบสภาเมื่อไหร่”นั้น ผมขอตอบว่ายุบแน่แต่ไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอกครับ อย่างไรก็ตามการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน เราดูเฉพาะการเมืองในสภาอย่างเดียวไม่พอ ต้องดูการเมืองนอกสภาด้วยว่าจะมีเหตุแทรกซ้อนต่อการยุบสภาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นม็อบทั้งหลายที่ฝ่าถือกุมอำนาจเคยปรามาสไว้ เช่น 14 ตุลา 16 หรือ 17 พฤษภา 35 หรือแม้แต่เลวร้ายที่สุดคือการรัฐประหารน่ะครับ

อย่ากระพริบตาครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะนักรัฐศาสตร์หลายคนก็ฉีกตำราทิ้งมาเยอะแล้วเหมือนกัน 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net