พรุ่งนี้ (14 ต.ค. 2564) สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของ 'ต้า วันเฉลิม' เตรียมรับทราบข้อกล่าวหา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ สน.ทองหล่อ เหตุร่วม #ม็อบ5กันยา ที่แยกอโศก พร้อมตั้งคำถามถึงรัฐ 'การทวงความยุติธรรมให้ครอบครัว มันเป็นภัยต่อความมั่นคงมากหรือ?'
13 ต.ค. 2564 มูลนิธิผสานวัฒธรรม รายงานว่า วันพรุ่งนี้ (14 ต.ค. 2564) เวลา 13.30 น. สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมและนักเคลื่
ก่อนหน้านี้ ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้ออกหมายเรียกลงวันที่ 28 ก.ย. 2564 ให้สิตานันไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยตั้งข้อหาฝ่าฝืนประกาศ พ.ร.ก.การบริ
ขณะที่ สิตานัน ไม่ได้รับหมายเรียกทั้ง 2 ครั้ง ภายหลังได้ติดต่อกับตำรวจ สน.ทองหล่อ เพื่อขอทราบความชัดเจนจึงทราบว่
สิตานัน ได้สะท้อนความรู้สึกต่
“เราไม่มีหนทางอื่นนอกจากการเรี
ทั้งนี้ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะองค์กรสิทธิมนุษยชนขอยื
นักปกป้องสิทธิมนุษยชนและผู้ชุ
สำหรับการชุมนุม #ม็อบ5กันยา ในวันที่ 5 ก.ย. 2564 ที่แยกอโศกนั้น จัดโดยณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ข้อมูลจาก MobDataThailand ระบุว่าสืบเนื่องจากวันที่ 4 ก.ย. 2564 หลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่อมา เวลา 12.58 น. ของวันดังกล่าว ณัฐวุฒิ ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กของตนเองสองโพสต์เพื่อนัดหมายรวมตัว โดยโพสต์แรกมีข้อความว่า “ผ่านอภิปรายแล้วไง คุณซื้อได้แต่ส.ส. อย่าหมายได้หัวใจประชาชน เราไม่ยอมรับ และไม่ยอมแพ้ 4 โมงเย็น แยกอโศก” และโพสต์ที่สองเวลา 20.03 น. มีข้อความว่า “5 กันยา แยกอโศก 4 โมงเย็น ล้วงคองูเห่า เอาให้อ้วกเป็นกล้วย #ไล่ประยุทธ์”
การชุมนุมวันที่ 5 ก.ย. 2564 เริ่มต้นตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00-20.00 น. มีนักกิจกรรมหลายกลุ่มผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัย รวมถึงมีการแสดงดนตรีและการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์จากกลุ่มนักเรียนเลว ที่เรียกร้องให้มีการจุดเหยีดออนไลน์ ในส่วนของสิตานันได้ขึ้นเวทีปราศรัยในเวลา 18.08 น. และกล่าวบนเวทีปราศรัยว่าเหตุใดทำไมผู้ที่เห็นต่างกับรัฐจึงต้องถูกกลั่นแกล้ง แม้กระทั่งอยู่ในประเทศไทยยังกระทำไม่ได้ ทั้งที่พวกเขามีสิทธิที่จะอยู่ที่นี่ แต่ต้องลี้ภัยไปต่างแดน เธอกล่าวว่า วันเฉลิมเป็นหนึ่งในบุคคลที่ต้องเฝ้าระวังตามเอกสาร "Watch List" มาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเรื่องนี้เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อประมาณสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีการเผยแพร่เอกสารรายชื่อนักกิจกรรม นักการมืองและภาคประชาสังคมรวม 183 รายชื่อที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งคนเหล่านั้นเป็นบุคคลที่เห็นต่างกับรัฐไทย
"เราก็ไม่ทราบว่า คนเห็นต่าง ทำไมต้องเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ พวกเขาเป็นชาติหรอคะ เท่าที่เรารู้เขาคือทหารที่กินภาษีประชาชน เราเห็นต่างกับเขาไม่ได้หรอ...แล้วหลังจากที่ทหารจับคนเข้าไปราบ 11 เมื่อปี 57 หลายคนต้องลี้ภัย หลายคนต้องถูกทรมานในราบ 11"
การทรมานไม่ใช่เพิ่งเกิดในช่วงรัฐประหาร แต่มันเกิดขึ้นมาก่อนแล้วในพื้นที่ชายแดนใต้ รัฐบอกว่า คนเหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่อยากแบ่งแยกดินแดน สิตานันกล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับวันเฉลิมและผู้ลี้ภัยอีก 8 รายที่ถูกอุ้มหายระหว่างการลี้ภัย ทำให้เรารับรู้ได้ว่า ประเทศไทยมันปกครองโดยใครและเราต่อสู้อยู่กับใคร ในทุกวันนี้ที่เธอลุกขึ้นมาต่อสู้เพราะไม่อยากให้ใครสูญเสียแบบครอบครัวของเรา อยากจะให้เป็นรายสุดท้ายที่เกิดขึ้นประเทศไทยและนอกราชอาณาจักร คดีของวันเฉลิมไม่มีความคืบหน้า ผ่านมาแล้วกว่า 1 ปี แต่หน่วยงานรัฐยังไม่สรุปว่า หน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบคดีการอุ้มหายของวันเฉลิม เธอเทียบเคียงการมองข้ามคดีวันเฉลิมกับการต่อสู้ของประชาชนที่ออกมาขับไล่รัฐบาลว่า เป็นไปในลักษณะเดียวกัน ประชาชนออกมาประท้วงแต่รัฐบาลก็ยังไม่ได้มีท่าทีรับฟังหรือกลัวการเคลื่อนไหวของประชาชน เมื่อผู้แทนฝ่ายค้านถามรัฐบาลก็ได้คำตอบกลับมาในแบบที่เรียกว่า "ถามวัว ตอบควาย" ทุกคนสามารถเป็นวันเฉลิมได้ ทุกคนมีความเสี่ยงถ้าเรายังเพิกเฉยต่อการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ถ้าเราตั้งใจและเราออกมาต่อสู้ด้วยกัน นอกจากนี้ สิตานันยังเรียกร้องให้ทุกคนร่วมกันผลักดันร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับให้สูญหาย อีกด้วย