Skip to main content
sharethis

อนุกรรมการช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีรับวัคซีนโควิด-19 เขต 11 สุราษฎร์ธานี เตรียมนำคำร้องกรณีนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนพังงา ถูกตัดขาจากภาวะหลอดเลือดอุดตัน หลังฉีดวัคซีนสูตรไขว้ซิโนแวค-แอสตราเซเนกา สู่การพิจารณา 14 ต.ค. นี้ เร่งให้การช่วยเหลือเบื้องต้นโดยด่วน

13 ต.ค. 2564 วันนี้ (13 ต.ค. 2564) ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า จากกรณีที่ เกตน์สิรี กองแก้ว อายุ 20 ปี นักศึกษาสาขาวิชาการปกครองท้องถิ่นของวิทยาลัยชุมชนพังงา เกิดภาวะโรคหลอดเลือดแดงอุดตันฉับพลัน (Acute Arterial Occlusion) ที่ขาทั้ง 2 ข้าง ภายหลังจากที่ฉีดวัคซีนเข็ม 2 แอสตราเซเนกาแบบไขว้ (เข็มแรกฉีดซิโนแวค) และต่อมาแพทย์ต้องตัดขาซ้ายเหนือเข่า โดยขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศรีนครินทร์สงขลานั้น สปสช.เขต 11 สุราษฎร์ธานี ได้ประสานข้อมูลไปยังวิทยาลัยชุมชนพังงา ซึ่งอาจารย์ของเกตน์สิรี ให้ข้อมูลมาว่า ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยไม่มีโรคประจำตัวใดๆ แต่หลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 เพียง 5 วัน ได้เกิดอาการภาวะหลอดเลือดแดงอุดตันเฉียบพลันขึ้น จนเข้าเข้ารักษาตัวที่ รพ.พังงา เพื่อผ่าตัดเส้นเลือดที่อุดตัน แต่ปรากฏว่าอาการไม่ดีขึ้น จึงส่งต่อไปรักษาที่ รพ.กระบี่ และได้รับการดูแลต่อโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือด ซึ่งได้มีการผ่าตัดซ้ำ 2 ครั้ง และส่งกลับมาดูแลที่ รพ.พังงา แต่ด้วยอาการที่แย่ลง เมื่อวันที่ 5 ก.ย. จึงส่งต่อไปรักษาที่ รพ.สงขลานครินทร์ และรักษาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

“จากข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับ กรณีนี้เข้าข่ายกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากความเสียหายภายหลักการฉีดวัคซีนโควิด-19 เบื้องต้นได้ประสานให้ทางญาติยื่นคำร้องและเอกสาร โดยจะมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระดับเขตพื้นที่ สปสช. เขต 11 สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 14 ต.ค. นี้ เพื่อให้ครอบครัวผู้ป่วยได้รับการเยียวยาและช่วยเหลือดูแลโดยเร็วที่สุด” โฆษก สปสช. กล่าว

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ผ่านมา ภาวะไม่พึงประสงค์จากวัคซีนโควิด-19 เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ แต่จากรายงานเป็นส่วนที่น้อยมาก อาจเป็นกรณีเฉพาะรายบุคคลและมีหลายปัจจัยประกอบ แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นผู้ที่เกิดภาวะไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำเป็นต้องได้รับการดูแล โดยเร็ว ไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิด เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งเป็นกลไกภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล

สำหรับรายละเอียดการจ่ายเงินช่วยเหลือนั้น ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.-12 ต.ค. 2564 สปสช. ช่วยเหลือเบื้องต้นผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิดไปแล้ว 293,042,200 บาท จาก คำร้องทั้งหมด 5,715 ราย ได้รับการอนุมัติจ่ายชดเชย 3,972 ราย ไม่ผ่านการอนุมัติ 1,196 ราย รอการพิจารณา 547 ราย และในจำนวนที่ไม่ผ่านการอนุมัติ อุทธรณ์ 389 ราย ประเภทความเสียหาย แบ่งเป็น เสียชีวิต/ทุพพลภาพ 580 ราย พิการ 47 ราย บาดเจ็บ 3,345 ราย

ทั้งนี้ หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามแผนงานโครงการที่รัฐจัดให้ฟรี ประชาชนทุกสิทธิสามารถยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกับ สปสช. ได้ (ยกเว้นสิทธิประกันสังคมที่ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมอยู่ระหว่างแก้ไขประกาศเพื่อให้ผู้ประกันตนกลับมาได้รับสิทธิช่วยเหลือเบื้องต้นกับ สปสช.) โดยสามารถยื่นเรื่องที่โรงพยาบาลที่ฉีด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือที่สำนักงาน สปสช. สาขาเขตพื้นที่ทั้ง 13 เขต มีระยะเวลายื่นคำร้องได้ภายใน 2 ปีนับแต่วันที่ทราบความเสียหาย เมื่อมีผู้มายื่นคำร้องแล้ว คณะอนุกรรมการฯ ระดับเขตพื้นที่จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัย ก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อเลขาธิการ สปสช. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ทราบผลการวินิจฉัย

หลักเกณฑ์การพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นจะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับ 1 มีอาการป่วยต้องรักษาต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท ระดับ 2 เกิดความเสียหายถึงขั้นสูญเสียอวัยวะหรือพิการจนมีผลต่อการดำรงชีวิต จ่ายไม่เกิน 2.4 แสนบาท และระดับ 3 กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายไม่เกิน 4 แสนบาท สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 และสามารถดาวน์โหลดแแบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโควิดได้ที่ https://www.nhso.go.th/storage/files/841/001/nhso_VaccinCovid19.pdf

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net