เปิดข้อเสนอ มาตรการและสิทธิประโยชน์เพื่อดึงดูดการลงทุน เช่น บริการสิทธิประโยชน์ จัดหาที่ดินและพัฒนาเพื่อจัดตั้งเป็นนิคมฯ อนุญาตจัดตั้งโรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็กหรือแสงอาทิตย์ เขตปลอดอากร แก้ไขผังเมืองรวมจังหวัดให้เป็นพื้นที่สีม่วง
19 ต.ค.2564 เว็บไซต์สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล รายงานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม โดยมีมติหนึ่งที่น่าสนใจคือ ครม.มีมติรับทราบผลการศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ ตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอ สำหรับแนวทางการจัดตั้งนิคมฯ และแนวทางการสนับสนุนของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นั้น ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามความจำเป็นเหมาะสม โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และ ให้กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นหน่วยงานไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
โดยรายงานรายละเอียดว่า กระทรวงยุติธรรม มีแนวคิด/นโยบายในด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำ และเป็นการฝึกทักษะอาชีพ พัฒนาและยกระดับฝีมือแรงงาน ตลอดจนสร้างผู้พ้นโทษให้เป็นผู้ประกอบการรายใหม่และเป็นการสร้างอาชีพในอนาคต ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้อัตราการกระทำผิดซ้ำลดลงและเป็นการคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือและขับเคลื่อนไปกับภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ เพื่อส่งเสริมและดึงดูดให้ผู้ประกอบการเข้าไปลงทุนในเขตพื้นที่ที่จัดสรรไว้สำหรับเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่มีการบริการสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ และจะมีการส่งแรงงานซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างพักการลงโทษที่ได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือและมีความสมัครใจเข้าไปทำงานในสถานประกอบการที่มีความพร้อมในการรับคนเหล่านั้นเข้าไปทำงานหรือร่วมทำงานกับแรงงานทั่วไป ภายใต้ชื่อ “นิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์” เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ประกอบการ
ทั้งนี้เพื่อให้แนวคิด/นโยบายโครงการจัดตั้งนิคมฯ มีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น กระทรวงยุติธรรมจึงได้ทำการศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมฯ ซึ่งผลจากการศึกษาพบว่า โครงการจัดตั้งนิคมฯ เป็นโครงการที่จะช่วยส่งเสริมแนวคิดการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้พ้นโทษได้ และยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางแรงงานให้แก่ผู้ประกอบการ โดยผลจากการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และผู้ต้องขัง สนับสนุนให้ดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปและเผยแพร่ในเว็บไซต์ของทำเนียบรัฐบาล ดังนี้
ผลการศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ |
|
วัตถุประสงค์ |
เพื่อแก้ปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำ เพื่อฝึกทักษะอาชีพ พัฒนายกระดับฝีมือแรงงานและสร้าง ผู้พ้นโทษให้เป็นผู้ประกอบการรายใหม่และเป็นการสร้างอาชีพในอนาคตเพื่อลดจำนวนอัตราการกระทำผิดซ้ำของผู้ต้องขัง |
กลุ่มเป้าหมาย |
ผู้พ้นโทษและผู้อยู่ระหว่างพักการลงโทษหรือลดวันต้องโทษ |
หน่วยดำเนินการ |
กระทรวงยุติธรรม (กรมราชทัณฑ์) ร่วมกับ การริคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กนอ. และผู้ประกอบการภาคเอกชน โดย กนอ. ทำหน้าที่ตรวจสอบและกำกับดูแลเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการจัดตั้งหรือขยายนิคมอุตสาหกรรม |
หน่วยบริหารโครงการ |
ตามผลการศึกษาฯ เห็นว่า ควรดำเนินการในรูปแบบองค์การมหาชน แต่โดยที่คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน [รองนายกรัฐมนตรี (วิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน] ในการประชุมครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 มีมติไม่เห็นควรให้จัดตั้งองค์การส่งเสริมการกลับคืนสู่สังคม (องค์การมหาชน) ในขณะนี้ เนื่องจากยังต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ แต่โดยที่ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่มีความสำคัญจึงเสนอให้มีการดำเนินการในรูปแบบหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ (Special Delivery Unit: SDU) ภายใต้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมเพื่อทดลองการดำเนินการตามแนวคิดดังกล่าว ดังนั้น ในระยะเริ่มต้นกระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการ โดยจัดให้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขึ้นคณะหนึ่งเพื่อทำหน้าที่ประสานงานระหว่าง กนอ. ผู้ประกอบการภาคเอกชน และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และพัฒนาขึ้นเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมในรูปแบบของหน่วยบริการรูปแบบพิเศษเพื่อรับผิดชอบภารกิจและบริหารจัดการในอนาคต |
พื้นที่นำร่องต้นแบบ |
4 แห่ง |
รูปแบบ |
3 รูปแบบ ได้แก่ |
บทบาทของ กระทรวงยุติธรรม |
1. ส่งเสริมและดึงดูดให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนเข้าลงทุนในเขตนิคมฯ ที่จะจัดตั้งขึ้น ประสานงานและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการและ กนอ. ในการอนุมัติ อนุญาตหรือการดำเนินการใด ๆ ที่เอื้อต่อการประกอบการ |
แนวทาง |
1. การจัดตั้งนิคมฯ จะเป็นการลงทุนร่วมกับภาคธุรกิจเอกชนเพื่อให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ส่วนการบริหารจัดการองค์กรจะดำเนินการโดยเรียกเก็บค่าบริหารพื้นที่ในระยะยาวโดยใช้การสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อให้เกิดแรงจูงใจของภาคธุรกิจในการร่วมลงทุน |
มาตรการ |
กนอ. |
- จัดให้มีและให้บริการสิทธิประโยชน์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ตลอดจนควบคุม กำกับดูแล และประสานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของนิคมฯ ให้เป็นไปตามกฎหมาย |
|
งบประมาณและภาระทางการเงิน |
กระทรวงยุติธรรมไม่มีอำนาจจัดสรรงบประมาณเพื่อการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมหรือก่อให้เกิดภาระทางการเงินแก่ภาครัฐ แต่ กระทรวงยุติธรรมตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาและส่งผู้ที่ได้รับการพักการลงโทษเข้าไปทำงานในสถานประกอบการให้ได้จำนวน 16,000 คน/ปี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณที่ภาครัฐจะต้องใช้ในการดูแลผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ เฉลี่ย 21,000 บาท/คน/ปี จะทำให้ภาครัฐประหยัดงบประมาณที่ใช้ดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำประมาณ 336 ล้านบาท/ปี |