ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยวันนี้ (20 ต.ค. 2564) ว่า 'ไพบูลย์ นิติตะวัน' มีสิทธิ์นั่งเก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐต่อไปได้ โดยให้เหตุผลว่า 'ไพบูลย์' ย้ายพรรคทันภายใน 60 วันและเกณฑ์การได้มาซึ่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้นบังคับใช้เฉพาะช่วงก่อนและระหว่างการเลือกตั้ง จึงเป็นคนละกรณีกัน

20 ต.ค. 2564 วันนี้ (20 ต.ค. 2564) เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยการเป็นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ของไพบูลย์ นิติตะวัน ตามที่ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคําร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของไพบูลย์สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 24/2563) 

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จํานวน 60 คน เข้าชื่อร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ขอให้ส่งคําร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่งว่าการที่ไพบูลย์ (ผู้ถูกร้อง) หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาชนปฏิรูป ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังจากที่พรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) ทั้งที่ผู้ถูกร้องยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปอยู่จนกว่าการชําระบัญชีจะแล้วเสร็จ และมิได้เป็นผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชารัฐที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5) ต่อมา ผู้ร้องส่งคําร้องดังกล่าว ให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัย และศาลรัฐธรรมนูญรับคําร้องไว้ โดยให้ผู้ถูกร้องยื่นคําชี้แจง แก้ข้อกล่าวหา และมีหนังสือเรียกเอกสารจากประธาน กกต. เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเลขาธิการวุฒิสภา 

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วได้มีการลงมติ ซึ่งเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า "สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้อง "ไม่สิ้นสุด" ลงตามรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญให้เหตุผลว่า เมื่อ กกต. ประกาศการสิ้นสภาพพรรคประชาชนปฏิรูปในวันที่ 6 ก.ย. 2562 ทำให้สภาพพรรคดังกล่าว รวมถึงสมาชิกภาพของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามกฎหมายพรรคการเมือง แต่เนื่องจากเป็นการยุบพรรคการเมืองโดยมีเจตนารมณ์มุ่งคุ้มครองการสิ้นสภาพจากการยุบพรรคการเมือง สมาชิกพรรคที่ถูกยุบจึงเข้าไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นได้ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่พรรคสิ้นสภาพ ผู้ร้องจึงเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นได้ และปรากฏข้อเท็จจริงผู้ถูกร้องได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐนับแต่วันที่พรรคการเมืองสิ้นสภาพ ส่วนคำร้องที่ว่าผู้ถูกร้องหรือไพบูลย์ไม่ได้เป็นผู้ถูกเสนอชื่อในบัญชี ส.ส. รายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ จึงไม่อาจเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐได้นั้น ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ได้กำหนดหลักเกณฑ์การได้มาซึ่ง ส.ส. บัญชีรายชื่อ มีวัตถุประสงค์บังคับช่วงเลือกตั้งและก่อนการเลือกตั้ง จึงเป็นคนละกรณี กรณีเป็นกรณีเกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้ง และผู้ถูกร้องได้เป็น ส.ส. แล้ว