โฆษก พปชร. ปัดข่าวจัดทำโพล ส.ส.ใต้ ย้ำพรรคไม่มีนโยบายใช้หน่วยงานของรัฐวัดคะแนนนิยม เพราะเป็นเรื่องภายในพรรค - 'จุรินทร์' ปัดเคลียร์ใจ 'นิพิฏฐ์-ราเมศ' ปมปัญหาคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.พื้นที่ภาคใต้ มองธรรมดาเขตใดมีคนสนใจมากอาจต้องแย่งชิง ย้ำพรรคมีกระบวนการคัดเลือกตามข้อบังคับ สุดท้ายจบด้วยมติพรรคที่ทำมากว่า 70 ปี
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2564 พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธกระแสข่าวการจัดทำโพลวัดความนิยม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่ภาคใต้ และจำนวนมากไม่ได้รับความนิยม ว่าไม่มีมูลความจริง เป็นเพียงกระแสข่าวที่หวังผลทางการเมืองเท่านั้น เพราะขณะนี้ ส.ส.ภาคใต้ของพรรคทั้ง 14 คน ก็ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนกันอย่างต่อเนื่อง และเวลานี้ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ประเทศต้องเผชิญกับหลากหลายปัญหา ทั้งโควิด-19 อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม การทำหน้าที่ของ ส.ส.เอง ในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน จะเป็นตัวชี้วัดความเหมาะสมของ ส.ส.ที่สำคัญมากกว่า
พัชรินทร์ ยังชี้แจงถึงกระแสข่าวดังกล่าวที่ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐได้มอบหมายให้หน่วยงานของรัฐแต่ละพื้นที่ดำเนินการจัดทำโพล ทั้งหน่วยงานด้านการศึกษา และหน่วยงานด้านความมั่นคง นั้น เป็นการกล่าวหาพรรค พร้อมยืนยันว่า พรรคไม่มีนโยบายใช้หน่วยงานของรัฐจัดทำโพลทดสอบความนิยม ส.ส. แต่อย่างใด ซึ่งการจัดทำโพล เป็นกลไกการเมือง ไม่ใช่กลไกราชการ ดังนั้น การดำเนินการถือเป็นเรื่องภายในพรรค ซึ่งต้องใช้สำนักโพลที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของสังคมเป็นผู้ทำ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีการกลั่นแกล้ง ส.ส.ท่านใด ตามกระแสข่าวที่ออกมา
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังเน้นย้ำกับ ส.ส.ของพรรคทุกคน ให้ตั้งใจทำหน้าที่ในการเป็นผู้แทนของพี่น้องประชาชนให้เต็มที่ เต็มกำลัง
ปชป.ปัดเคลียร์ใจปมเลือกผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้
23 ต.ค. 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีปัญหาการส่งผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในพื้นที่จังหวัดพัทลุง หลังนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส. และรองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ภาคใต้ แสดงความไม่พอใจ ว่า ส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นเป็นปัญหา และมองบวกมากกว่า เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว เราจะเห็นว่าการหาตัวผู้สมัครของพรรค ยังอยู่ในภาวะที่มีคนปฏิเสธจำนวนมาก อีกทั้งมีผู้ที่แสดงความจำนงจะไม่ลงสมัครหลายคน แต่มาถึงวันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป หลังมีคนรุ่นใหม่เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ที่มีคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจจำนวนมาก ดังนั้นหากเขตไหนมีผู้สมัครเกินกว่า 1 คน จึงเป็นเรื่องปกติของคนที่แสดงความจำนงแล้ว อยากได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรค ซึ่งสุดท้ายก็มีกระบวนการพิจารณาอยู่แล้วตามข้อบังคับพรรค และที่สุดจะมีข้อยุติโดยมติพรรค ที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทำกันมา
ส่วนจะต้องเคลียร์ใจกับนาย นิพิฏฐ์ หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่าขอไม่พูดถึงตัวบุคคล และทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค เมื่อถามย้ำว่ามีคนตั้งข้อสังเกตการเลือกคนในตระกูลเดียวกันลงสมัคร นายจุรินทร์ ย้ำว่าพรรคจะเป็นผู้พิจารณาว่าใครมีความเหมาะสมที่สุด ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคมีดุลพินิจและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดกับพรรคอยู่แล้ว เมื่อถามถึงกรณีนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีปัญหาการลงสมัคร ส.ส.พื้นที่จังหวัดพัทลุง นายจุรินทร์ กล่าวว่าทุกกรณีจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันพรรคไม่ได้พึ่งมาคิดตอนนี้ เราคิดมา 70 กว่าปี และดำเนินการมาต่อเนื่อง ไม่ได้มีปัญหา พร้อมเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาจะสามารถหาข้อยุติได้
เมื่อถามว่า ภาพที่ออกมาเหมือนเป็นความขัดแย้งภายใน นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นธรรมดา หากเขตไหนมีผู้ให้ความสนใจลงสมัครหลายคน ก็จะต้องมีการแย่งกันลง แต่ยืนยันเรื่องนี้จะไม่ทำให้เกิดรอยรั้วภายในพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคยึดกระบวนการตัดสินใจแบบนี้มายาวนาน ไม่เช่นนั้นคงไม่ยั่งยืนมาได้ถึงวันนี้ ซึ่งที่สุดแล้วมติพรรคจะเป็นผู้ตัดสิน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)