คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) และผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรา 112 ยื่นหนังสือนำเสนอปัญหาของมาตรา 112 ที่ปิดกั้นการวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ถึง กมธ.กฎหมายฯ เพื่อให้พิจารณาเสนอต่อสภาในการพิจารณายกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายมาตรานี้ หลังจากถูกนำมาใช้ดำเนินคดีกับผู้ที่ออกมาวิจารณ์สถาบันกษัตริย์อย่างกว้างขวางในช่วงที่ผ่านมา

27 ต.ค.2564 ที่รัฐสภา เกียกกาย กลุ่มคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) และผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรา 112 เดินทางไปยื่นหนังสือ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน (กมธ.กฎหมายฯ) ให้พิจารณาการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์มาดำเนินคดีกับผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ โดยหนังสือที่ยื่นถึง กมธ.ระบุถึงปัญหาการบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่ชั้นตำรวจถึงชั้นศาล

ทางกลุ่ม ครช. ระบุว่าปัญหาของการใช้มาตรา 112 มาดำเนินคดีกับการใช้สิทธิเสรีภาพแสดงออกเกี่ยวกับสถาบันกษัตรย์ในช่วงที่ผ่านมาที่มีจำนวนคนถูกดำเนินคดีเพิ่มขึ้นอย่างมากนี้ เกิดขึ้นใน 2 ประเด็นคือเรื่องการบังคับใช้โดยเจ้าหน้าที่อาจเป็นไปโดยไม่สุจริตมีหลายกรณีที่ผู้ถูกดำเนินคดีเพียงแต่กล่าวถึงสถาบันกษัตริย์โดยไม่ได้กล่าวถึงตัวบุคคลก็ยังถูกแจ้งข้อหาได้และผู้แจ้งความดำเนินคดียังเดินทางไปแจ้งความในต่างพื้นที่เพื่อกลั่นแกล้งผู้ที่ถูกกล่าวหา และปัญหาเรื่องความไม่ชัดเจนแน่นอนของถ้อยคำในตัวบทกฎหมายที่ผ่านก้มีการบรรยายพฤติการณ์ไม่ได้ว่าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการหมิ่นประมาทกษัตริย์ ดูหมิ่น หรืออาฆาดมาดร้ายอย่างไรแม้กระทั่งในชั้นศาล จึงขอให้ กมธ.เรียกพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องในคดีมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้นำไปสู่การเสนอญัตติในสภาเพื่อให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมายดังกล่าวต่อไป

สมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตนักโทษการเมืองคดีมาตรา 112 กล่าวว่าตนเพิ่งจะได้พ้นโทษมาหลังจากติดคุกในคดี 112 อยู่ 7 ปี ก็ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหานี้อีกครั้งในเวลาไม่ถึงปีซึ่งตอนนี้ก็ได้ประกันตัวออกมาโดยมีเงื่อนไขจากศาลว่าห้ามทำสถาบันฯ เสื่อมเสีย และเขากล่าวว่าตั้งแต่ตอนที่เขาโดนดำเนินคดีจนถึงปัจจุบันก็มีคนโดนดำเนินคดีด้วยข้อหานี้มาเรื่อยๆ รวมกันแล้วก็คาดว่าจะมีถึง 500 คนแล้วแล้วก็ดูจะไม่มีที่สิ้นสุด

อดีตนักโทษคดีมาตรา 112 กล่าวต่อไปว่าจากสถานการณ์นี้ทำให้เห็นว่ามาตรา 112 เป็นกฎหมายที่นำมาใช้ปิดกั้นการใช้เสรีภาพและการแสดงความคิดเห็นที่เป็นสิทธิพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยเนื่องจากสถาบันกษัตริย์ก็ถือเป็นองค์กรหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ 2560 ดังนั้นเมื่อกษัตริยืใช้ภาษีอากรของประชาชน เป็นองค์กรสาธารณะที่อยู่ในรัฐธรรมนูญก็ย่อมถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้และแสดงความคิดเห็นต่อสถาบันฯ ได้ กฎหมายนี้จึงมาขัดขวางการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนและทำให้ประชาธิปไตยในไทยเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ไม่ได้การเลือกตั้งยังไม่เพียงพอต่อการบอกว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ และผู้ที่ถูกกล่าวหาจากกฎหมายมาตรานี้ก็มีหลากหลายทั้งคนในราชสำนัก ตำรวจหรือแม้กระทั่งผู้ป่วยอาการทางจิตเองก็เคยถูกกล่าวหาด้วย

สมยศกล่าวถึงปัญหาอื่นๆ อีกเช่น ผู้ที่ถูกกล่าวหาไม่ได้รับสิทธิประกันตัว ทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยวและยังไปรับใช้อำนาจรัฐเผด็จการ จึงมาเสนอปัญหาต่อสภาเพื่อให้ยกเลิกกฎหมายนี้และกฎหมายนี้ก็จะไม่กระทบต่อสถาบันกษัตริย์เพราะต้องมีทศพิธราชธรรมอยู่แล้ว และเมื่อเกิดเรื่องไม่ถูกต้องประชาชนก็จะได้แสดงความเห็นโต้แย้งกันได้

ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมมีการนำป้ายผ้ารณรงค์มาแสดงด้วยเช่น “ยกเลิก 112” “112มรดก 6 ตุลา” รวมไปถึงมีการแสดงเพื่อแสดงโดยผู้ร่วมแสดงของสมาชิกกลุ่มทะลุฟ้าที่ทาตัวสีแดงคลานขึ้นไปหน้าทางเข้ารัฐสภาประกอบเพลงหมอลำ

จากนั้น รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.เขตนครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะตัวแทนของ กมธ.การเมืองฯ เป็นผู้ออกมารับหนังสือเพื่อนำเรื่องไปพิจารณาต่อใน กมธ.

รังสิมันต์กล่าวว่าในประเด็นเรื่องมาตรา 112 การร้องเรียนครั้งนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่มีการร้องรียนมา และทาง กมธ.ก็เห็นปัญหาที่มีการดำเนินการในศาลทั้งเรื่องที่ผู้ที่ถูกกล่าวหาไม่ได้รับสิทธิประกันตัว และการบังคับใช้กฎหมายอย่างกว้างขวางซึ่ง กมธ.ที่ทำเรื่องสิทธิมนุษยชนก็จะไม่ละเลยเรื่องนี้และหวังว่า กมธ.จะได้เป็นพื้นที่พูดคุยเพื่อนำไปสู่การคลี่คลายปัญหาต่อไป ซึ่งเรื่องที่ร้องเรียนมานี้ก็จะนำเข้าสู่การประชุมของ กมธ.ในสัปดาห์หน้า

ภายหลังเสร็จกิจกรรมกลุ่มผู้จัดได้ช่วยกันล้างพื้นลาดด้านหน้าทางเข้าของรัฐสภาร่วมกับเจ้าหน้าที่