Skip to main content
sharethis

ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดสืบพยานคดีในเดือน มี.ค. 65 กรณี บ.เอกชนแห่งหนึ่งฟ้องหมิ่นประมาท “อังคณา” หลังเจ้าตัวโพสต์ให้กำลังนักปกป้องสิทธิ์ ขณะที่อังคณาเผยมีนักปกป้องสิทธิ์อีกมากที่ถูกใช้กฎหมายฟ้องปิดปากเพื่อให้หยุดการเคลื่อนไหว ด้านทนายชี้ศาลยกฟ้องได้ตั้งแต่ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง หากเห็นว่าข้อความไม่ละเมิดกฎหมาย เพื่อไม่เป็นภาระต่อผู้ถูกฟ้อง

 

29 ต.ค. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 64 หลังศาลอาญากรุงเทพใต้ รับฟ้องกรณีที่บริษัทเอกชนรายหนึ่งฟ้องหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา อังคณา นีละไพจิตร นักปกป้องสิทธิ และอดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กรณีโพสต์ทวิตเตอร์ให้กำลังใจ สุธารี วรรณศิริ และงามศุกร์ รัตนเสถียร สองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ที่ถูกบริษัทเอกชนรายเดียวกันฟ้องมาก่อนหน้านี้ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาที่เกี่ยวเนื่องกับการละเมิดสิทธิแรงงานของบริษัทเอกชนรายนี้ 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 64 ที่ห้องพิจารณาคดี 604 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลได้นัดสอบคำให้การจำเลย และตรวจพยานหลักฐานเป็นครั้งแรกหลังรับฟ้องในคดีนี้ โดยอังคณา พร้อมทีมทนายความจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน ได้เดินทางเข้าร่วมนัดดังกล่าว 

อังคณา นีละไพจิตร (คนที่สองจากขวา) พร้อมทนายความ นัดสอบคำให้การ และพยานหลักฐาน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อ 26 ต.ค. 64

ด้านนายทิตศาสตร์ สุดแสน ทนายความ กล่าวภายหลังดำเนินการเสร็จสิ้นในศาลว่า วันนี้เป็นวันนัดสอบคำให้การเป็นครั้งแรกหลังจากที่ศาลรับฟ้องเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยในการสอบคำให้การนี้ ศาลได้ทำการอ่านคำฟ้องของโจทก์คือบริษัทเอกชนเพื่อให้จำเลยคือคุณอังคณาที่ถูกฟ้องได้รับฟังว่า ถูกฟ้องในเรื่องอะไร จะยอมรับหรือปฏิเสธตามข้อกล่าวหาของโจทก์  ซึ่งจำเลยได้ปฏิเสธคำฟ้องของโจทก์และได้ยื่นคำให้การเป็นหนังสือประกอบไปด้วย หลังจากนี้ศาลจะนัดสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย โดยการสืบพยานโจทก์วันที่ 3-4 และ 8 มีนาคม 2565 ในฝั่งของจำเลยนั้นศาลนัดอีกครั้งในวันที่ 9-11 มีนาคม 2565  

ตนไม่มีความกังวลใจในคดีนี้ เพราะหากดูจากข้อเท็จจริง รวมถึงการบรรยายฟ้องของโจทก์เอง ในโพสต์ของคุณอังคณาไม่ได้มีข้อความหมิ่นประมาท แต่เป็นการทวิตให้กำลังใจผู้ที่ถูกฟ้องในคดีหมิ่นประมาทจากบริษัทเอกชนรายดังกล่าวก่อนหน้านี้ ตามข้อกล่าวหาของโจทก์เองก็ระบุชัดว่าข้อความที่หมิ่นประมาทไม่ได้อยู่ในโพสต์ แต่อยู่ในวีดีโอ ซึ่งการเข้าถึงวีดีโอ จากทวิตของคุณอังคณามีความซับซ้อนหลายขั้นตอน กว่าจะเข้าถึงวีดีโอที่โจทก์อ้างว่ามีข้อความหมิ่นประมาท 

อย่างไรก็ตาม ตนมีข้อสังเกตตั้งแต่เริ่มแรกของคดีนี้คือในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลไม่ได้พิจารณาไปถึงข้อความที่จำเลยถูกฟ้องว่า ข้อความมีอะไรละเมิดกฎหมายอย่างไร ทั้งที่ศาลสามารถพิจารณาและสามารถยกฟ้องได้ หากเห็นว่าไม่มีการละเมิด เพื่อไม่เป็นเป็นภาระของคนที่ถูกฟ้อง ในอีกทางหนึ่ง หากเป็นกระบวนการแจ้งความกับตำรวจ ในส่วนของอัยการเอง หากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีข้อความหมิ่นประมาท ก็สามารถมีคำสั่งไม่ฟ้องได้เลยเพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระของจำเลย

ขณะที่อังคณา กล่าวว่า  ในวันนี้เป็นการนัดพร้อมเพื่อแจ้งคำฟ้องของโจทก์แก่จำเลยซึ่งเป็นไปตามกระบวนการพิจารณาคดี คดีที่เกิดขึ้นนี้ตนคิดว่าศาลไม่ควรจะรับฟ้องตั้งแต่ต้น เพราะไม่มีมูลเหตุความผิด และเจตนาที่ตนโพสต์ในทวิตเตอร์ก็เป็นการสนับสนุนผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นการทำตามหน้าที่ของตนขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนอยู่ในขณะนั้น  ทั้งนี้ นอกจากตนจะโดนฟ้องคดีด้วยฐานหมิ่นประมาท ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา และมีโทษจำคุก แล้วยังมีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอีกเป็นจำนวนมาก ที่ถูกคุกคามโดยการใช้กฎหมาย เพื่อกลั่นแกล้ง หรือเพื่อปิดปากในลักษณะเดียวกัน เพื่อให้นักปกป้องสิทธิยุติการทำหน้าที่ปกป้องสิทธิมนุษยชน ตนจึงอยากฝากถึงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนทุกคน ขอให้ยืนยันเจตนาและความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของบุคคลทุกคนต่อไป โดยไม่ปล่อยให้การฟ้องคดีลักษณะนี้ทำให้เราต้องยุติการทำหน้าที่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net