Skip to main content
sharethis

เวทีตรวจสอบรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 'ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล' อดีต รมว.คลัง ตั้งข้อสังเกตก่อนรัฐบาลจะส่งมอบที่ดินมักกะสันให้เอกชน จะต้องทำให้แน่ใจว่า 'การรถไฟ' จะได้รับประโยชน์จากส่วนแบ่งรายได้รถไฟความเร็วสูง เพราะการส่งมอบ 'ที่ดินมักกะสัน' ประโยชน์เกิดกับเอกชนแน่นอน

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) แจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนว่าเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2564 มีการจัดเวทีสาธารณะ สภาที่ 3 ตรวจสอบปัญหาทุจริตประพฤติมิชอบและทวงคืนสมบัติชาติ ภารกิจเพื่อแผ่นดิน ว่าด้วยที่ดินเขากระโดง-มักกะสัน และรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สัญญาร่วมทุนเอื้อผลประโยชน์เจ้าสัวผูกขาด? ณ ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา (ด้านหลัง) ถ.ราชดำเนิน มีผู้ร่วมอภิปรายคือ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35,  นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายสุวิช ศุมานนท์  ประธานสมาพันธ์คนงานรถไฟ จัดโดย สภาที่ 3 ร่วมกับคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลประยุทธ์จัดทำโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบินนั้น ขณะนี้โครงการกำลังเกิดปัญหาซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่าแก้ไขยาก ลักษณะของการดำเนินการในการ ส่งมอบที่ดิน มักกะสัน 150 ไร่เวลานี้ไม่มีปัญหา แต่การส่งมอบที่ดินเพื่อจะใช้ในการก่อสร้างทางรถไฟตรงนี้มีปัญหามาก เพราะกระบวนการในการเวนคืนยังไม่เรียบร้อยนอกจากนี้มีผู้บุกรุกอยู่ 200 กว่าราย แต่ย้ายออกจำนวนน้อยที่เหลือไม่ยอมย้ายออก เพราะรอให้มาจ่ายเงินจนเป็นที่พอใจเสียก่อน ว่าจะยอมย้ายออก

นายธีระชัย กล่าวว่าเพราะฉะนั้นกำหนดเวลาและความสามารถ ในการส่งมอบที่ดินที่จะใช้ในการสร้างรถไฟความเร็วสูง ดูแล้วมีความยากลำบาก และหากการรถไฟไปส่งมอบที่ดินมักกะสัน จะเกิดผลประโยชน์อย่างแน่นอนต่อภาคเอกชน ขณะเดียวกันความสามารถในการที่จะส่งมอบที่ดิน เพื่อจะสร้างรถไฟความเร็วสูงและยาวไปตลอด ยังไม่แน่นอน ตรงนี้ทำให้เกิดความไม่เสมอภาค

“ผมได้มีหนังสือก็ยัง พล.อ.ประยุทธ์ว่า ก่อนที่จะโอนที่ดินมักกะสัน ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ในเรื่องของการโอนที่ดินยาวไปถึงสัตหีบกรุณาเขียนผูกมัดตัวเองไว้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการรถไฟ จะส่งมอบที่ดินตรงนี้ได้อย่างแน่นอน เมื่อมีเอกสารผูกมัดไว้อย่างนั้นถึงจะสามารถส่งมอบได้” นายธีระชัย กล่าว

นายธีระชัย กล่าวว่า มีข่าวว่าจะเอกชนคู่สัญญาประสบปัญหา อุปสรรคในการเจรจาให้สถาบันการเงินสนับสนุนโครงการ เนื่องจากเอกชน มีหนี้สูงขึ้นเกินเพดานตรงนี้เป็นข่าวออกมา แต่ตนไม่ยืนยันว่าจริงหรือไม่เนื่องจากที่ผ่านมาเอกชนนั้น ใช้ธุรกิจในเครือของเพื่อเอาไปซื้อกิจการค้าปลีกของสาขาบริษัทต่างชาติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศถึง 300,000 กว่าล้านบาท

นายธีระชัย กล่าวว่า การทำงานของพลเอกประยุทธ์ และกรรมการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก รวมทั้งผู้บริหารการรถไฟ ตนขอเตือนว่าท่านมีหน้าที่นอกจากจะต้องทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อประชาชนตามรัฐธรรมนูนกำหนดไว้แล้วท่านต้องถึงระวังด้วยว่า หากดำเนินการอะไรโดยไม่ระมัดระวัง ไม่รอบคอบไม่ทำให้ชัดเจนในเรื่องต่าง ๆ ประมาทเลินเล่อท่านอาจจะต้องรับใช้ส่วนตัวในทางแพ่งด้วย

ฉะนั้นตนจึงได้ตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนที่รัฐบาลจะส่งมอบที่ดินมักกะสันให้เอกชน รัฐบาลจะต้องทำให้แน่ใจว่าโอกาสที่การรถไฟจะได้รับประโยชน์จากส่วนแบ่งรายได้รถไฟความเร็วสูงนั้นมีความแน่นอนไม่แพ้กัน เพราะการส่งมอบที่ดินมักกะสันประโยชน์เกิดกับเอกชนแน่นอน นายธีระชัย กล่าวว่า ส่วนกรณีที่เอกชน บอกว่าเกิดวิกฤติโควิด ขอทยอยจ่าย 10 ปีเพื่อเยียวยาเรื่องของโควิด หลักปฏิบัติทั่วไปการเยียวยาจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเอกชนปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญาหลักแล้วคือต้องชำระเงินแล้ว กินค่อยบอกว่าเลิกกันเยียวยา การแก้ไขสัญญาให้แตกต่างไปจากเงื่อนไขทีโออาร์ ที่ประมูลไว้จะทำให้คนที่เกี่ยวข้องในการประมูลนั้น เสียเปรียบเกิดการไม่เสมอภาค

“ตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องคิดทบทวนใหม่ เรื่องการเชื่อมรถไฟความเร็วสูงไปที่ 3 สนามบิน เวลานี้วิธีเชื่อมสามสนามบินที่ง่ายที่สุด มีการเชื่อมกันระหว่างสุวรรณภูมิกับบางซื่อ เวลานี้เกือบจะถึงแล้ว ยังเป็นการเชื่อมระหว่างดอนเมืองกับสุวรรณภูมิได้ โดยสามารถมาบรรจบกันได้ที่สถานีบางซื่อ และบางซื่อไปยังอู่ตะเภา บางซื่อไปยังดอนเมือง"

"ดังนั้นรัฐบาลต้องทบทวนโครงการ ที่จะใช้เงินแบบเว่อ ๆ ขอให้คิดใหม่มาเชื่อมโยงผ่านบางซื่อดีกว่าคุณจะเปลี่ยนและควรจะเปลี่ยนจากรถไฟความเร็วสูงจากบางซื่อไปรถไฟความเร็วปานกลางก็พอ เงินลงทุนเพียง 50,000 ล้านบาทเท่านั้นเหมาะสมสำหรับประเทศไทยมากกว่า” นายธีระชัย กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net