'เสรีพิศุทธ์' ในฐานะประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือ ขอให้ตรวจสอบเอกสารสำนักพุทธฯ กรณียื่นถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป ตามกฎหมายและกฎมหาเถรสมาคมหรือไม่

3 พ.ย. 2564 เว็บไซต์วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่า วันนี้ (3 พ.ย. 2564) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ขอให้ตรวจสอบเอกสารจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการยื่นถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป ได้แก่ พระราชปริยัติสุนทร (อมรภิรักษ์ ปสนฺโน) ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะ จ.ฉะเชิงเทรา พระธรรมรัตนาภรณ์ (สมศักดิ์ โชตินฺธโร) ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจ.ปทุมธานี และพระเทพสารเมธี (บัวศรี ชุตินฺธโร) ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) ว่าดำเนินการตามกฎหมายและกฎมหาเถรสมาคมถูกต้องครบถ้วนตามที่เคยได้แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 11 ต.ค. จริงหรือไม่

กรณ์กล่าวว่า การถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป เสมือนถูกลงโทษทางวินัยร้ายแรง ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 เจ้าคณะจังหวัด มีสถานะเป็นเจ้าพนักงาน กฎหมายจึงคุ้มครองท่าน และกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ข้อ 55 ระบุไว้ชัดเจนว่า การถอดถอนออกจากตำแหน่งนั้น กระทำได้ต่อเมื่อพระสังฆาธิการละเมิดจริยาอย่างร้ายแรง อีกทั้งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งและถอดถอนพระสังฆาธิการ แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2563) ข้อ 3 (2) ระบุว่า การถอดถอนจากตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่ เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัดและเจ้าอาวาสพระอารามหลวง เมื่อได้ดำเนินการตามกฎมหาเถรสมาคมนี้แล้ว ให้เสนอมหาเถรสมาคมพิจารณาทุกกรณี ซึ่งหากดูตามกฎมหาเถรสมาคม การถอดถอนจะกระทำได้กรณีเดียว คือทำผิดจริยาพระสังฆาธิการอย่างร้ายแรงเท่านั้น และการจะถอดถอนก็ต้องมีอธิกรณ์ (คดี) เกิดขึ้น มีการสอบสวนอธิกรณ์ (คดี) และที่สำคัญ ต้องเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณาทุกกรณี ทั้งนี้คณะฯ จึงมายื่นหนังสือเพื่อให้ตรวจสอบว่า การถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 3 แห่งทำถูกต้องตามกฎหมายและกฎมหาเถรสมาคมครบถ้วนหรือไม่ มีเอกสารยืนยันหรือไม่ ด้านประธานคณะกรรมาธิการกล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะดำเนินการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมกรรมาธิการต่อไป