Skip to main content
sharethis

'ทักษิณ' ชี้ โทษ ม.112 จำคุก 15 ปี 'สูงเกินไป' ควรลดโทษให้ต่ำกว่านี้ และต้องมีคณะกรรมการพิจารณาการแจ้งความเอาผิดก่อนถึงชั้นตำรวจ ไม่ใช่เปิดให้ใครก็ได้เป็นผู้ฟ้อง หากจะแก้ปัญหาเบื้องต้นในตอนนี้ต้องคืนสิทธิประกันตัวให้ทุกคน พร้อมแนะรัฐบาลให้ฟังประชาชน อะไรที่แก้ได้ก็มาคุยกัน อะไรที่แก้ไม่ได้ก็ต้องชี้แจงเหตุผล

10 พ.ย. 2564 วานนี้ (9 พ.ย. 2564) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้ร่วมเสวนาคนหนึ่งในรายการ CareTalk x Care Clubhouse จัดโดยกลุ่ม CARE คิดเคลื่อนไทย เกี่ยวกับกรณีการโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมาของทักษิณ ที่แสดงความคิดเห็นต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งถ้อยคำที่ปรากฎในโพสต์ดังกล่าวสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อถกเถียงให้สังคมอย่างมาก โดยเฉพาะคำว่า "เมื่อตัวกฎหมายไม่เคยมีปัญหา แต่คนที่เป็นปัญหาคือคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมและคนที่นำประเด็นนี้มาสร้างความแตกแยกในสังคมต่างหาก"

ผู้ร่วมเสวนาคนดังกล่าวขอให้ทักษิณช่วยอธิบายขยายความโพสต์ดังกล่าว เพราะข้อความที่ทักษิณโพสต์สร้างความสับสนให้กับตัวเขาและประชาชนอีกหลายคนที่ชื่นชอบในตัวของทักษิณ แต่ในขณะเดียวกันก็เห็นว่ากฎหมาย ม.112 มีปัญหาและมีประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนได้รับผลกระทบจากกฎหมายฉบับนี้จำนวนมาก

ทักษิณตอบคำถามของผู้ร่วมเสวนาคนนี้ว่า "ตอนนั้นจริงๆ พูดสั้น จริงๆ ผมจะเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนมันมีระบบคณะกรรมการว่าจะฟ้องคดีหรือไม่ แต่ว่าตอนนี้ใครๆ ก็ฟ้องได้ ทนายของคุณประยุทธ์ก็ไปยื่นฟ้อง คนนั้นก็ไปฟ้อง คือมันสะเปะสะปะ แล้วตำรวจก็รับคดีหมด รับคดีแล้วก็สอบจนเป็นเรื่องหมด ทั้งๆ บางครั้งมันยังไม่เข้า ก็สอบจนเข้า นี่คือสิ่งที่มันเลวร้าย เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ต้องแก้ไข"

ทักษิณกล่าวต่อไปว่าการแก้ไข ม.112 ประการแรก คือ การแก้ไขโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี ซึ่งตนเห็นว่าโทษนี้สูงเกินไป และต้องมาดูเรื่องวิธีการฟ้องให้ถูกต้อง ควรตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ใช่เปิดให้ใครก็ได้เป็นผู้แจ้งความฟ้องร้องแบบทุกวันนี้ หากเป็นแบบทุกวันนี้ ประเทศมีแต่จะแตกแยก และแตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ

"คือความคิดเขา (เด็กรุ่นใหม่) เขาหวังดีปรารถนาดี แต่กลายเป็นว่าถูกนำไปตีความว่าเขาไม่จงรักภักดี จนปัญหามันลุกลามใหญ่โต และผมก็บอกนายกฯ ว่าอย่าคิดไปว่าเสี่ยเหลี่ยมอะไรเลย นั่งคุยกับเด็กบ้าง เพื่อเด็กเขาจะได้รู้ว่าเขาจะมีอนาคตอย่างไร และตรงไหนที่เป็นอุปสรรค แก้ไขได้ไหม แก้ไม่ได้ก็บอกแก้ไม่ได้ ที่แก้ได้ก็ควรจะแก้ไข ตรงนี้ต่างหากที่ผมพยายามจะอธิบายให้ฟังว่าเมื่อก่อนมันไม่เคยมีปัญหา แต่เดี๋ยวนี้มันมีปัญหาเพราะว่าความเฮงซวยของระบบการบริหารจัดการ แล้วก็การมองทุกอย่างเป็นเรื่องของเผด็จการ ไม่ได้เข้าใจเรื่องของ Freedom of Speech เรื่องของสิทธิเสรีภาพในการพูดของคน ถ้าเราไม่ใช้ระบบของเผด็จการ ถ้าเราใช้ระบอบประชาธิปไตย เราจะไม่ปล่อยให้มันเละอย่างนี้ แล้วก็บังเอิญว่าพอมันเละอย่างนี้แล้ว ศาลก็ดันไม่ให้สิทธิการประกันตัว ซึ่งเรื่องนี้อย่างที่พรรคเพื่อไทยบอกว่าจะเอาเข้าไปคุยกันในสภา ก็เป็นเรื่องที่ดี ไปหามาตรการในการแก้ไขดีกว่าว่าทำอย่างไรถึงจะให้สิทธิในการประกันตัวแก่เด็ก ทำอย่างไรถึงจะให้โทษมันไม่สูงเกินไป ทำอย่างไรถึงจะให้มีกระบวนการที่ให้ความเป็นธรรมกว่านี้ ไม่ใช่สะเปะสะปะจนเกิดความแตกแยกในสังคม ความแยกแยกทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นความห่วยของรัฐบาลนี้เอง" ทักษิณกล่าว

หัวข้อหลักที่สนทนากันในรายการ Care Talk x Care ClubHouse เมื่อวานนี้คือเรื่อง “Metaverse โลกก้าวไป แต่นายกไทยยังใช้ทหารปลูกผักชี!?" โดยเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องเทคโนโลยี “Metaverse” หรือโลกเสมือนจริงที่สร้างจากเทคโนโลยีอันซับซ้อน เพื่อเชื่อมโลกดิจิทัลกับโลกความเป็นจริงเข้าด้วยกัน โดยมียิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และน้องสาวของทักษิณมาร่วมเสวนาด้วย

หลังการเสวนา ยิ่งลักษณ์ โพสต์ข้อความถึงเรื่องเทคโนโลยีแว่นตาอัจฉริยะที่เกิดจากความร่วมมือของ Facebook และบริษัทผู้ผลิตแว่นตาระดับโลก ซึ่งตนพูดถึงในรายการเมื่อคืน พร้อมระบุว่าการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Facebook ในการพัฒนาเพื่อเข้าสู่โลกเสมือนจริงหรือ Metaverse

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net