Skip to main content
sharethis

แอมเนสตี้แถลงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อการปราศรัยเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ของ "อานนท์-รุ้ง-ไมค์" ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองถือเป็นสัญญาณอันตรายต่อการแสดงออกของประชาชนหลายหมื่นคนและยังส่งสัญญาณถึงนานาประเทศว่าไทยจะไม่แก้ไข ม.112 ตามที่ถูกเรียกร้อง

12 พ.ย.2564 เว็บไซต์แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เผยแพร่แถลงของเอ็มเมอร์ลีน จิล รองผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคฝ่ายวิจัย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ชี้ว่าเหตุการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมาต่อกรณีการปราศรัยเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขครั้งนี้นับเป็นสัญญาณอันตรายต่อประชาชนหลายหมื่นคนที่แสดงความเห็นวิจารณ์ต่อบุคคลสาธารณะอย่างชอบธรรม

เอ็มเมอร์ลีนเห็นว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวอาจนำไปสู่การดำเนินคดีด้วยข้อหาร้ายแรงต่อแกนนำทั้งสามคน ได้แก่อานนท์ นำภา ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ที่เป็นผู้ถูกร้องในคดีด้วย โดยความผิดฐานล้มล้างการปกครองที่มีบทลงโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต

“ถ้าคำวินิจฉัยนี้มีเจตนาเพื่อทำให้ประชาชนหวาดกลัว และขัดขวางพวกเขาจากการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ ผลที่ออกมาจะตรงกันข้าม ดังที่เห็นจากการติดแฮชแท็กอย่างกว้างขวาง การส่งทวิต และข้อความทางโซเชียลมีเดียมากมายทันทีหลังศาลมีคำวินิจฉัย ประชาชนชาวไทยกว่า 200,000 คนได้ลงนามในจดหมายเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 หรือกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์ ในประมวลกฎหมายอาญาของไทย”

เอ็มเมอร์ลีนยังระบุอีกว่าคำวินิจฉัยนี้ของศาลรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่เจนีวามีการประชุมกระบวนการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน หรือ UPR รอบที่สามของประเทศไทย เป็นการส่งสัญญาณต่อประชาคมระหว่างประเทศไทยไม่มีเจตนาที่จะดำเนินการให้กฎหมายหมิ่นประมาทกษัตรย์ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มีเนื้อหาสอดคล้องกับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศโดยเฉพาะในแง่การคุ้มครองสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก ซึ่งในการประชุมในรอบก่อนหน้านี้ประเทศไทยยังปฏิเสธนานาประเทศเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายมาตรานี้

เปิดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ 'ทนายอานนท์-ไมค์-รุ้ง' กระทำผิดฐานล้มล้างการปกครอง

คดีดังกล่าวเป็นคดีที่ณฐพร โตประยูร ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าการปราศรัยในที่ชุมนุมของทั้ง 3 คนในการชุมนุม #ม็อบ3สิงหา เสกคาถาปกป้องประชาธิปไตย หรือม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563 บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และการชุมนุม #ม็อบ10สิงหา ธรรมศาสตร์จะไม่ทน 10 ส.ค. 2563 จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 หรือไม่ และขอให้กลุ่มผู้ถูกร้องเลิกการกระทำดังกล่าว

ทั้งนี้ศาลกลับไม่ได้มีการไต่สวนพยานจากทางฝ่ายผู้ถูกร้อง แม้ว่าทนายความของผู้ถูกร้องจะได้ยื่นคำคัดค้านคำร้องและขอให้มีการไต่สวนพยานถึง 8 ปากก็ตาม แต่ศาลกลับเรียกพยานหลักฐานจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งศาลระบุว่าพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net