เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นายก อบจ. เปิดถ้อยแถลงต่อคณะกรรมการส่งเสริมวินัยนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรณีเชิญผู้ลี้ภัยและผู้ถูกตั้งข้อหาหมิ่นกษัตริย์ฯ กล่าวปฐมนิเทศนิสิตใหม่ ปี 2564 ว่า เป็นหน้าที่มหาวิทยาลัยและคณะกรรมการที่จะทำให้คำว่า "ควย" ที่ 'เพนกวิน' กล่าวในงาน ถูกใช้อย่างที่ควรเป็น
11 พ.ย. 2564 เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) เปิดถ้อยแถลงด้วยวาจาต่อคณะกรรมการส่งเสริมวินัย ระบุว่า เป็นหน้าที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและกรรมการชุดนี้ที่จะทำให้คำว่า “ควย” ที่ถูกกล่าวในงานปฐมนิเทศนิสิตใหม่กลับไปถูกใช้อย่างที่ควรเป็น แทนที่จะมีไว้ใช้ตราหน้าคณะกรรมการและมหาวิทยาลัยที่รักยิ่ง
เนติวิทย์ถูกสำนักบริหารกิจการนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งคณะกรรมการส่งเสริมวินัยนิสิต กรณีเชิญปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ รองศาสตราจารย์ประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองจากการถูกตั้งข้อหาหมิ่นกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมถึงพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง จากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม มากล่าวปาฐกาในงานปฐมนิเทศนิสิตใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปี 2564
คำแถลง
เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล
นายกสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“ควย”
คือคำที่เพนกวิ้น-พริษฐ์ ชีวารักษ์ นักกิจกรรมรุ่นใหม่ กล่าวในงานปฐมนิเทศนิสิตใหม่ ข้าพเจ้าเข้าใจว่าคำนี้ได้สร้างความขุ่นเคืองหรือคับแค้นใจแก่หลายๆ คน จนมีการสอบสวนในวันนี้เพื่อเอาผิดทางวินัยข้าพเจ้าและอุปนายกคนที่1 ขององค์การบริหารสโมสรนิสิต
หลายปีก่อน คำสบถนี้อาจเป็นคำหยาบอันไม่สมควรใช้กล่าวถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม บรรยากาศแห่งยุคสมัยแปรเปลี่ยนให้คำว่า “ควย” กลายเป็นถ้อยคำสามัญที่ใช้กันดาษดื่น ผู้บริหารของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้กรุณา ช่วยทำให้คำว่า “ควย” กลายเป็นศัพท์ที่สุภาพ จริงใจ และถูกใช้แพร่หลายมากกว่าที่แล้วมา
ข้าพเจ้าจะกล่าวความนี้ขึ้นอย่างเลื่อนลอยก็หาไม่ เพราะข้าพเจ้าเห็นเพื่อนนิสิตนักศึกษาและประชาชนสบถคำนี้ออกมา นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เช่น เมื่อพวกเขาทราบว่าผู้บริหารจุฬาฯ ในยุคหนึ่งได้ใช้ทั้งชื่อเสียงและสถานที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อ สนับสนุนกลุ่ม กปปส. โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งปล่อยให้อาจารย์เข้าล็อกคอทำร้ายนิสิตในพิธีถวายสัตย์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2560 อาจารย์คนดังกล่าวยังคงลอยนวลอยู่ตราบจนเพิ่งลาออกจากตำแหน่งอนุสาสกหอในเมื่อปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยัง ให้สัญญาลวงกับสาธารณะว่าจะเก็บรักษาโรงภาพยนตร์สกาล่าซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์สแตนอโลนที่งดงามที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไว้ แต่ก็ไม่ได้เขียนใน TOR ให้ผู้รับสัมปทานต้องรักษา ทำให้สถานที่ดังกล่าวต้องถูกทำลายไปในที่สุด ใช่แต่เท่านั้น ผู้บริหารชุดนี้ยังปล่อยให้ PMCU คุกคามศาลเจ้าแม่ทับทิมสะพานเหลือง ไล่ที่ชุมชน ตลอดจนยังนิ่งเฉยและไม่แสดงจุดยืนปกป้องเสรีภาพทางวิชาการ จากกรณีที่ รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด ถูกดำเนินคดีฟ้องร้องเพียงเพราะเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ให้แก่ ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง
เวลานี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในวิกฤติ เยาวชนและประชาชนยังถูกคุมขังเพียงเพราะยืนยันเสรีภาพในการพูด วิกฤติโรคระบาดก็ยังไม่ผ่านพ้นไปด้วยดี ความเป็นธรรมทางสังคมและประชาธิปไตยนับวันมีแต่จะเสื่อมลง สังคมได้แต่กังขาว่า เหตุไรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่ทำหน้าที่เป็น “เสาหลัก” ดังที่กล่าวอ้างกันมานานหลายทศวรรษ มหาวิทยาลัยไร้วิสัยทัศน์หรือไม่ที่ถือสาหาความถ้อยสบถคำเดียว ถึงกับต้องออกจดหมายตักเตือนและตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย ทั้งยังขลาดเขลาเกินกว่าจะเปิดคอมเมนต์ให้แสดงความเห็นต่อประเด็นนี้ในเพจกิจการนิสิต หากเพนกวิ้นจะผิดที่ใช้คำนี้ ความผิดของเขาก็น่าจะอยู่ที่ถ้อยคำที่เลือกเฟ้นมานั้นสุภาพเกินไปจนไม่ครอบคลุมความหยาบช้าสาหัสแห่งยุคสมัยของเรา ถ้าลองใช้คำว่า “หัวควย” หรือ คำอื่นๆนอกจากนี้จะถูกต้องกว่าหรือไม่
เรื่องนี้ ข้าพเจ้าไม่ทราบ
ข้าพเจ้าทราบแต่ว่า ไม่ใช่หน้าที่ของมหาวิทยาลัยและกรรมการชุดนี้ที่จะทำให้เสรีภาพทางวิชาการและการแสดงออกถูกปิดกั้น ท่านมีหน้าที่ทำให้คำว่า “ควย” กลับไปอย่างที่มันควรเป็น แทนที่จะมีไว้ใช้ตราหน้าตัวท่าน และมหาวิทยาลัยอันเป็นที่รักยิ่งของเรา