ศาลไม่ให้ประกันตัว 'รุ้ง ปนัสยา' คดี 112 #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป อ้างจำเลยกระทำผิดซ้ำ

ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่ง ไม่ให้ประกันตัว ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นักเคลื่อนไหวปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในคดี ม.112 จากการจัดกิจกรรม #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป อ้างจำเลยกระทำผิดซ้ำ ซึ่งเป็นการละเมิดเงื่อนไขข้อห้ามของศาล

กิจกรรม #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป ไปเดินสยามพารากอน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.63

15 พ.ย.2564 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่ง ไม่ให้ประกันตัว ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง นักเคลื่อนไหวปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และสมาชิกของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม หลังยื่นขอประกันด้วยเงิน 200,000 บาท ในคดี ม.112 หรือหมิ่นประมาทกษัตริย์ จากการจัดกิจกรรม #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป ไปเดินสยามพารากอน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.63

ศาลระบุคำสั่งว่า จำเลยเคยกระทำในลักษณะทำนองเดียวกันกับคดีนี้มาแล้วหลายคดี หลังถูกฟ้องในคดีนี้ จำเลยซึ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีของศาลอาญาก็ไปกระทำผิดซ้ำ ซึ่งเป็นการละเมิดเงื่อนไขข้อห้ามของศาลอาญา จนพนักงานอัยการร้องขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว หากจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวไป จำเลยอาจไปกระทำการอันมีลักษณะเป็นความผิดเช่นเดียวกับคดีนี้อีก กรณีจึงเห็นควรไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ยกคำร้อง

ลงนามคำสั่งโดย สันติ ชูกิจทรัพย์ไพศาล ผช.ผู้พิพากษาศาลฎีกา ช่วยงานชั่วคราวในตําแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้

โดยในวันนี้ที่ศาลอาญกรุงเทพใต้ นัดสอบคำให้การคดีดังกล่าว นอกจาก ปนัสยา แล้ว ยังมี พริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือเพนกวิน เบนจา อะปัญ และ ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง พร้อมด้วย เยาวชนอีก 2  ราย รวมทั้งสิ้น 6 คน ทั้งนี้ศาลนัดตรวจพยานฯ 24 ม.ค. 65

สำหรับกิจกรรม #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป ดังกล่าวนั้น จัดเพื่อยืนยันว่าการสวมชุดครอปท็อปไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย หลังเกิดกรณี เยาวชนอายุ 16 ปี ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 เพียงเพราะใส่ชุดครอปท็อปและเขียนข้อความบนตัวเอง 

รายละเอียดของคดีศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเคยเผยแพร่คำฟ้องไว้ดังนี้

ศูนย์ทนายฯ เปิดคำฟ้องของอัยการ ชี้ใส่ “ครอปท็อป” เจตนาล้อเลียนกษัตริย์

สำหรับการฟ้องคดีมีพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 เป็นผู้ฟ้องคดี ในฐานความผิด หมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112

คำฟ้องโดยสรุประบุว่า วันที่ 14-19 ธ.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตํารวจฝ่ายสืบสวนสถานีตํารวจนครบาลปทุมวัน กองบัญชาการตํารวจนครบาล และกองบัญชาการตํารวจสันติบาลได้สืบสวนหาข่าว และทําการตรวจสอบสื่อสังคมออนไลน์ พบว่าเพจเฟซบุ๊คชื่อ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม – United Front of Thammasat and Demonstration” และเพจ “เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ParitChiwarak” ได้มีการโพสต์ข้อความประกาศเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม ร่วมกันใส่ชุด Crop Top (ครอปท็อป หรือชุดเสื้อกล้ามเอวลอย) เดินที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ในวันที่ 20 ธ.ค. 63 

ในการจัดกิจกรรมดังกล่าวมีจําเลยทั้งห้า กับพวกอีก 2 คน ซึ่งเป็นเยาวชน พนักงานสอบสวนได้แยกสํานวนดําเนินคดีต่างหาก เป็นแกนนําทั้งเจ็ดผู้ร่วมจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในครั้งนี้ 

ครั้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 63 เวลากลางวันต่อเนื่องถึงเวลากลางคืนหลังเที่ยง จําเลยทั้งห้า กับพวกอีก 2 คน ซึ่งเป็นเยาวชน ได้บังอาจกระทําความผิดต่อกฎหมายเป็นตัวการร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี ตามที่ได้สมคบเตรียมการและนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า เพื่อแสดงกิจกรรมล้อเลียนดูหมิ่นและต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ และต่อต้านพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 โดยการแสดงบทบาทล้อเลียนดูหมิ่นพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 และสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยวิธีการร่วมกันและแบ่งหน้าที่กันทํา ได้แก่ ร่วมกันแต่งกายใส่ชุด Crop Top (ครอปท็อป หรือชุดเสื้อกล้ามเอวลอย) ร่วมกันเขียนถ้อยคําหรือข้อความตามเนื้อตัวร่างกาย ร่วมกันกล่าวคําพูดหรือถ้อยคํา แสดงบทบาท แสดงกิริยาอาการทางร่างกาย ใบหน้า และวิธีอื่นใดในทํานองเดียวกัน แล้วเดินวนเวียนไปมาที่บริเวณห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมขนาดใหญ่ 

คำฟ้องอัยการอ้างว่าการกระทำดังกล่าว มีเจตนาแสดงออกและสื่อความหมายให้ประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นบุคคลที่สามเข้าใจว่า กลุ่มจําเลยทั้งห้ากับพวกได้ร่วมกันแสดงตนหรือบทบาทล้อเลียนดูหมิ่นพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 พระราชินี และสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อให้ประชาชนเสื่อมความเคารพ ความศรัทธาต่อองค์พระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์ 

อัยการยังระบุรายละเอียดการกระทําของจําเลยแต่ละคน ซึ่งมีการเขียนข้อความตามร่างกายด้วยหมึกสีดำ อาทิ พริษฐ์เขียนข้อความว่า “ยกเลิก 112” และ “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” บริเวณต้นแขนทั้งสองข้าง และมีการเขียนข้อความ “ไอ้บ้ากาม” และ “แม่ผมไม่ได้มีชู้” บริเวณท้องและเอว

ปนัสยาเขียนข้อความ “พ่อหนูมีคนเดียว” และ “ว่าไงไอ้ชาย” บริเวณท้องและเอว เบนจาเขียนข้อความ “พ่อไม่ได้ชื่อ…” “บ้าหรือเปล่าไอ้ชาย” บริเวณท้องและเอว รวมทั้งยังพฤติการณ์ถือพานทองที่มีกระเป๋าวางอยู่บนพาน และเดินตามพริษฐ์และปนัสยา ในลักษณะเสมือนหนึ่งเป็นข้าราชบริพารเดินถือเครื่องใช้ส่วนพระองค์ในการตามเสด็จ

ส่วนภวัต อัยการกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์ในลักษณะอยู่ร่วมด้วยขณะทํากิจกรรม พร้อมกับพูดว่า “ทรงพระเจริญๆ” และทําท่าย่อตัวยกมือไหว้และมอบดอกไม้ให้กับพริษฐ์ และปนัสยา พร้อมกับพูดคําว่า “ขอบคุณค่ะท่าน” และ “ทรงพระเจริญค่ะท่าน” อัยการอ้างว่าจำเลยมีเจตนาแสดงล้อเลียนให้เห็นว่าตนเองเป็นประชาชนที่มาร่วมชมพระบารมีและถวายพระพร

ขณะที่ภาณุพงศ์ได้ร่วมแสดงออกในลักษณะเดียวกับกลุ่มจำเลยคนอื่นๆ และร่วมกันชูสามนิ้ว ที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง

อัยการระบุว่าจากการกระทําของจําเลยทั้งห้ากับพวก  โดยบริบททั้งหมดแสดงให้เห็นว่า จําเลยทั้งห้ากับพวกได้ร่วมกันใช้เสรีภาพในทางใดๆ อันเป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองหรือปวงชนชาวไทยที่จะต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ 

จําเลยทั้งห้ากับพวกมีเจตนาร่วมกันที่จะมุ่งหมายทําลายสถาบันพระมหากษัตริย์ (รัชกาลที่ 10) ให้เสื่อมเสียพระเกียรติ ทําให้ประชาชนทั่วไปที่พบเห็นเสื่อมศรัทธา เสื่อมความเคารพสักการะในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี โดยประการที่น่าจะทําให้พระมหากษัตริย์ พระราชินี เสื่อมเสียพระเกียรติ เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท