Skip to main content
sharethis

วิดีโอที่เผยแพร่ในยูทูบเป็นหลักฐานขิ้นใหม่ ยืนยันการมีอยู่ของค่ายกักกันชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง ประเทศจีน ขณะที่หลายคนกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้เผยแพร่วิดีโอชิ้นนี้

วิดีโอความยาว 20 นาทีที่นำเสนอภาพของสถานกักกัน 18 แห่งในเขตปกครองตนเองซินเจียง กลายเป็นหลักฐานชิ้นใหม่ที่นำไปสู่การถกเถียงเรื่องที่จีนปราบปรามชนกลุ่มน้อยอุยกูร์อย่างหนักอีกครั้ง

ชาวจีนที่ใช้ชื่อว่า Guanguan เป็นผู้ถ่ายทำวิดีโอดังกล่าว เขาเดินทางไปถ่ายทำวิดีโอเหล่านี้ถึงซินเจียงหลังอ่านบทความหลายชิ้นในบัซฟีด (Buzzfeed) สำนักข่าวจากสหรัฐอเมริกา ที่ระบุถึงที่ตั้งของสถานกักกันหลายแห่งในพื้นที่ เขาเริ่มโพสต์วิดีโอนี้ลงในยูทูบตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 ทำให้นักวิจัยและนักวิชาการที่ติดตามในเรื่องนี้ให้ความสนใจ

อลิสัน คิลลิง (Alison Killing) สถาปนิกผู้สร้างแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมของค่ายกักกันร่วมกับ Buzzfeed บอกว่า ข้อมูลจากวิดีโอของ Guanguan ยืนยันสิ่งที่เกิดขึ้นในซินเจียง สำหรับคิลลิงแล้วภาพถ่ายดาวเทียมเป็นข้อมูลที่ยังต้องอาศัยแหล่งข้อมูลอื่นๆ มาประกอบเพื่อยืนยันภาพที่เห็น ซึ่งหนึ่งในแหล่งข้อมูลที่ว่าคือวิดีโอจากภาคพื้นดินแบบในกรณีนี้

นอกจากภาพถ่ายดาวเทียมแล้ว คิลลิงยังเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์อดีตผู้ถูกคุมขังและนักข่าวที่เคยไปเยี่ยมค่ายกักกัน ซึ่งวิดีโอของ Guanguan ช่วยยืนยันว่า โครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากคือเรือนจำหรือค่ายกักกัน

เรย์ฮาน อะซัต (Rayhan Asat) ทนายความสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ และนักวิจัยอาวุโส โครงการยุทธศาสตร์การต่อสู้คดีของแอตแลนติคเคาน์ซิลบอกว่า วิดีโอฟุตเทจที่ไม่ผ่านการปรับแต่งของ Guanguan เป็นหนึ่งในหลักฐานการปราบปรามประชาชนที่เกิดขึ้นในซินเจียง รวมถึง "ทำลายโฆษณาชวนเชื่อและข้อมูลลวงของรัฐบาลที่สร้างภาพของ 'ชาวอุยกูร์ผู้มีความสุข'"

ทนายความสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ กล่าวด้วยว่า เขาหวังว่าจะมีชาวจีนยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาชนด้วยกันเองอย่างผู้ถ่ายทำวิดีโอนี้มากขึ้น

Guanguan กล่าวในวิดีโอของเขาว่า เขาเคยเดินทางไปเยือนซินเจียงครั้งหนึ่งเมื่อปี 2562 ด้วยรถจักรยานยนต์ แต่ในการไปเยือนครั้งหลังนี้มีเป้าหมายที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เขาพูดถึงเรื่องที่ได้อ่านข่าว พบว่า มีค่ายกักกันหลายแห่งในซินเจียงโดยอาศัยหลักฐานภาพถ่ายดาวเทียม ทำให้เขาเดินทางตามแผนที่เหล่านี้เพื่อถ่ายทำค่ายกักกัน 18 แห่ง ใน 8 เมืองของซินเจียง แม้วิดีโอจะอัปโหลดเมื่อเดือน ต.ค. แต่เมื่อพิจารณาจากการโพสต์โซเชียลมีเดียของเขาแล้ว เป็นไปได้ว่า Guanguan จะไปถ่ายทำค่ายกักกันเหล่านี้ตั้งแต่ปี 2563

Guanguan ยังพูดถึงการควบคุมของรัฐบาลจีนว่า ทำให้ในนักข่าวต่างประเทศเข้าถึงซินเจียงเพื่อสัมภาษณ์ได้ยากมาก เขาคิดว่า "ในขณะที่นักข่าวต่างประเทศเข้าถึงซินเจียงไม่ได้ ผมยังสามารถเข้าไปได้"

Guanguan เริ่มต้นด้วยการเดินทางไปที่เมืองฮามีทางตะวันออกของซินเจียง เขาขับรถผ่านสถานที่ที่ระบุว่าเป็นศูนย์บำบัดยาเสพติดแบบบังคับคัดแยกฮามี มีการตั้งข้อสังเกตว่า สถานที่นี้ไม่มีระบุในไป่ตู้แม็ป ซึ่งเป็นโปรแกรมคล้ายกูเกิลแม็ปของจีน และมีลูกกรงที่หน้าต่างรวมถึงล้อมรั้วลวดหนามทำให้เขาตั้งข้อสงสัยว่าศูนย์แห่งนี้น่าจะเป็นค่ายกักกัน

ต่อมา Guanguan เดินทางไปที่โมรีคาซัค เขาเก็บภาพวิดีโอของค่ายกักกันที่มีหอสังเกตการณ์และล้อมรอบด้วยกล้องวงจรปิด และค่ายกักกันอีกแห่งหนึ่งในโมรีคาซัคที่ต่างก็ไม่มีระบุในไป่ตู้แม็ป จากนั้นจึงเดินทางไปยังอุรุมฉีซึ่งเป็นเมืองหลวงของซินเจียง เขาขี่รถผ่านเรือนจำหลายแห่งที่มีหอสังเกตการณ์และล้อมรั้วลวดหนาม ซึ่งสองอย่างนี้เป็นจุดสังเกตสำหรับค่ายกักกันในซินเจียง บนกำแพงของค่ายกักกันบางแห่งมีข้อความเขียนระบุว่า "ปรับทัศนคติผ่านการใช้แรงงานและการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม"

ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.ค. สื่อต่างประเทศเคยไปเยือนเรือนจำหมายเลข 3 ของอุรุมฉี โดยระบุว่า เป็นสถานกักกันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และอาจนับได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลก จากขนาดพื้นที่มากกว่า 890,000 ตร.ม. เอพีประเมินว่า น่าจะมีผู้คนถูกกักตัวอยู่ในสถานที่นี้ประมาณ 10,000 คน หรือมากกว่านั้น โดยพิจารณาจากจำนวนห้องขัง ม้านั่ง และภาพถ่ายดาวเทียมประกอบการประเมิน

มีการเปิดโปงเรื่องที่ทางการจีนคุมขังชนกลุ่มน้อยในซินเจียงประมาณ 1 ล้านคน ตั้งแต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งจีนอ้างว่าเป็น "สงครามต่อต้านการก่อการร้าย" เคยมีผู้หญิงชาวอุยกูร์ที่รอดจากค่ายกักกันออกมากล่าวหาว่า รัฐบาลจีนล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืนผู้หญิงอุยกูร์อย่างเป็นระบบในค่ายกักกัน

ในวิดีโอที่ Guanguan นำเสนอนั้นยังระบุอีกว่าในตอนที่เขาเดินทางไปซินเจียงครั้งแรกเคยมีชาวจีนเชื้อสายฮั่นบอกเขาว้ามีชาวอุยกูร์จำนวนมากถูกเคลื่อนย้ายไปที่เขตอื่นๆ เพื่อให้เป็นแรงงานราคาถูก

ขณะเดียวกัน Guanguan เปิดเผยใบหน้าของตนเองในอิดีโอ ทำให้ผู้คนกังวลเรื่องความปลอดภัยของเขาจากการพูดถึงเรื่องที่อ่อนไหวทางการเมืองของรัฐบาลจีน ในวิดีโอใหม่ที่เขาอัพโหลดเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2564 ระบุว่า เขาหวังว่า วิดีโอเกี่ยวกับค่ายกักกันที่เขานำเสนอจะสามารถนำไปเป็นหลักฐานได้ เขาบอกว่า "ผมไม่มีความสามารถมากพอจะท้าทายรัฐบาลจีนได้โดยตรง แต่นี้คือสิ่งที่ผมจะทำภายใต้ขอบเขตที่สามารถจะทำได้"

ในช่อง Youtube ของ Guanguan เขามักจะเดินทางไปตามที่ต่างๆ และบรรยายเรื่องต่างๆ จากปากของเขาเองเป็นภาษาจีน บางครั้งก็ทำออกมาในลักษณะสารคดีมือสมัครเล่น เช่น วิดีโอที่แสดงให้เห็นสภาพชีวิตคนในเมืองและในชนบทของมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ในวิดีโอเกี่ยวกับซินเจียงนั้นมีการใส่คำบรรยายภาษาอังกฤษเป็น caption ของ Youtube อยู่ด้วย มีบางช็อตที่เขาปีนขึ้นไปถ่ายบนที่สูง เพื่อให้ได้ภาพมุมสูงของค่ายกักกันที่มีกำแพงล้อมกันอยู่ โดยที่เขาต้องนอนราบกับพื้น ถ่ายจากระยะไกลแล้วซูมเข้าหาเป้าหมาย เพราะกลัวจะถูกจับได้

ทางการจีนพูดถึงกรณีซินเจียงเมื่อไม่นานนี้ โดยโฆษกของซินเจียงยังคงอ้างคำเดิมว่า พวกเขาทำไปเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย และใครก็ตามที่พยายามใช้หัวข้อนี้ในการแทรกแซงกิจการภายในของจีนจะต้องล้มเหลว ขณะที่โฆษกการต่างประเทศของจีนก็แถลงในวันถัดจากนั้นในรูปแบบเดียวกัน อ้างว่าเป็นการต่อต้านการก่อการร้ายและต่อต้านการแบ่งแยกดินแดนโดย "ไม่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหรือศาสนา"

เรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net