Skip to main content
sharethis

เซบาสเตียน คูร์ซ อดีตนายกรัฐมนตรีของออสเตรียประกาศเลิกเล่นการเมือง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะถูกกรุมเร้าด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อหาทุจริตคอร์รัปชัน คูร์ซเป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เข้ารับตำแหน่ง แต่เขาก็เป็นนักการเมืองจากพรรคอนุรักษ์นิยมที่ต่อต้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ ไม่ยอมให้เก็บภาษีคนรวยแต่จะเสนอการเก็บภาษีดิจิทัล ซึ่งการวางมือของคูร์ซในครั้งนี้เขาประกาศลาออกจากพรรคอนุรักษ์นิยม ÖVP ด้วย


เซบาสเตียน คูร์ซ อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรีย | ที่มาภาพ: Sebastian Kurz (CC BY 2.0)

หลังจากที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันผลักให้เซบาสเตียน คูร์ซ นักการเมืองวัย 35 แห่งออสเตรียประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา นักการเมืองอายุน้อยแต่เป็นสายอนุรักษ์นิยมผู้นี้ก็ประกาศลาออกจากพรรคอนุรักษ์นิยมออสเตรียพีเพิลปาร์ตีหรือ ÖVP และประกาศวางมือทางการเมือง

ในคำแถลงของคูร์ซระบุว่าเขาต้องการถอนตัวออกจากการเมืองเพื่อเน้นให้เวลากับครอบครัว โดยที่คูร์ซเพิ่งจะมีลูกเมื่อไม่นานนี้ เขายังกล่าวโต้ตอบคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ และโต้ตอบข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันด้วย

"ในฐานะนายกรัฐมนตรีคุณมีอะไรมากมายให้ต้องตัดสินใจในทุกๆ วัน ซึ่งคุณก็รู้อยู่แล้วตั้งแต่ต้นว่าในจำนวนนนั้นจะมีเรื่องที่คุณตัดสินใจผิดพลาดอยู่ด้วย ... คุณจะคอยถูกเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา คุณยังจะมีความรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกล่าอยู่เสมอด้วย" คูร์ซกล่าว

การประกาศวางมือจากการเมืองของคูร์ซเป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจให้กับชาวออสเตรีย โดยที่หลังจากการประกาศลาออกจากพรรค ในวันเดียวกันนั้น นายกรัฐมนตรี อเล็กซานเดอร์ ชาลเลนเบิร์ก ผู้ที่รับตำแหน่งนี้ต่อหลังจากที่คูร์ซลาออกในเดือน ต.ค. ก็ประกาศว่าเขาจะไม่ขึ้นเป็นผู้นำของพรรคพีเพิ่ลปาร์ตีคนใหม่และประกาศจะว่าจะลาออกจากการเป็นผู้นำรัฐบาลด้วย

ชาลเลนเบิร์กกล่าวว่า "ผมเชื่ออย่างหนักแน่นว่าทั้งสองตำแหน่งคือผู้นำรัฐบาลและหัวหน้าพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดในออสเตรีย ควรจะมีผู้ดำรงตำแหน่งเป็นคนเดียวกันอีกครั้ง"  ชาลเลนเบิร์กกล่าวอีกว่า ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้วางตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเตรียมไว้ให้มีคนมารับตำแหน่งต่อหลังจากที่มีกระบวนการคัดเลือกผู้นำคนใหม่ภายในพรรคแล้ว

คูร์ซกำลังถูกสอบสวนในเรื่องการให้การเท็จและละเมิดสัญญากองทุนสาธารณะ มีการกล่าวหาว่าคูร์ซใช้เงินทุนสาธารณะในทางที่ผิด เช่น นำไปใช้ซื้อการเขียนข่าวในเชิงชื่นชมเขา และใช้ในกรณีอื่นๆ ซึ่งคูร์ซยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันและเรื่องสินบนโดยที่คูร์ซเป็นหนึ่งในกลุ่มคน 10 คนในวงของเขาที่กำลังตกอยู่ภายใต้การสืบสวนในเรื่องเหล่านี้

ในถ้อยแถลงลาออกของคูร์ซเขาโต้ตอบข้อกล่าวหาเหล่านี้อ้างว่ามันขัดขวางความสามารถในการทำงานของเขา คูร์ซบอกว่าในช่วงไม่กี่เดือนหลังสุดที่เขาอยู่ในตำแหน่งเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการปกป้องตัวเองจากข้อกล่าวหาและเผชิญกับกระบวนการต่างๆ และ "ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับการแข่งขันว่าใครจะมีไอเดียดีที่สุดอีกต่อไป" คูร์ซบอกว่ากระบวนการเหล่านี้เป็นเรื่องที่ "เหนื่อยมากๆ" สำหรับเขา

มีการประเมินว่าคาร์ล นีฮัมมาร์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของออสเตรียจะเป็นผู้สืบทอดประธานพรรคต่อจากคูร์ซ ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคพีเพิ่ลปาร์ตีก็อาศัยคูร์ซในการสร้างชื่อให้พรรคหลังจากที่คูร์ซเข้ามาเป็นผู้นำพรรคในปี 2560 ทำให้ไม่มีตัวเลือกที่แน่นอนว่าใครจะเป็นผู้นำพรรคคนถัดไป

สำหรับจุดยืนทางการเมืองของคูร์ซเองนั้นถึงแม้จะมีภาพลักษณ์ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นนักการเมืองที่อายุยังน้อย แต่คูร์ซก็มีจุดยืนในเชิงอนุรักษ์นิยมต่อต้านการแต่งงานของคนรักเพศเดียวกัน ไม่ยอมให้เก็บภาษีแบบที่เน้นเก็บคนรวยอย่างภาษีมรดกหรือภาษีที่ดินแต่จะเสนอการเก็บภาษีดิจิทัล


เรียบเรียงจาก
Austrian chancellor resigns after Sebastian Kurz withdraws from politics, DW, 02-12-2021

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Sebastian_Kurz (เข้าดูเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2564)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net